รายงานข่าวฉบับนี้ค่อนข้างดีนะ ที่สรุปความรู้เกี่ยวกับเรื่อง "อันตรายจากสารเคมี" ที่เกิดขึ้นจากกรณีไฟไหม้ที่โรงงานสารเคมี ที่กิ่งแก้ว จ. สมุทรปราการ ลองศึกษากันดูนะครับ
------
(รายงานข่าว) ไฟไหม้ ‘โรงงานกิ่งแก้ว’ 'สารเคมี' ตัวไหน น่ากลัวกว่าที่เห็น
ช่วงเวลาตี 3.10 นาที ขณะที่ทุกคนกำลังหลับไหล พลันก็มีแสงสว่างวาบแล้วตามมาด้วยเสียงระเบิดดังสนั่นหวั่นไหว กระจกหน้าต่างแตกกระจาย จากเหตุระเบิดและไฟไหม้ที่โรงงานผลิตเม็ดโฟมพลาสติก บริษัท หมิงตี้ เคมีคอล จำกัด ซอยกิ่งแก้ว 21 ม.15 ต.บางพลีใหญ่ อ.บางพลี จ.สมุทรปราการ กลุ่มควันสีดำพวยพุ่งม้วนตัวขึ้นสูงสู่ท้องฟ้า เจ้าหน้าที่ดับเพลิงได้เข้าควบคุมในพื้นที่เวลา 06.00 น.ต่อมาเวลา 09.00 น. สถานการณ์ก็รุนแรงขึ้น เกิดระเบิดขึ้นอีกหลายครั้งจากสารเคมีในโรงงานที่เกิดเหตุ
#สารพัดสารพิษจากโรงงาน
หมิงตี้ เคมีคอล เป็นโรงงานผลิตโฟมและเม็ดพลาสติก รศ. ดร.กิติกร จามรดุสิต รองอธิการบดีฝ่ายสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน มหาวิทยาลัยมหิดล กล่าวในงานเสวนา ‘ถอดบทเรียน ไฟไหม้โรงงานกิ่งแก้ว’ ที่ Mahidol Science Café จัดขึ้นเพื่อเป็นบทเรียนว่า เหตุการณ์ไฟไหม้ที่เกิดขึ้น สร้างผลกระทบต่อสุขภาพผู้คนอย่างไร
"โพลีสไตรีน (Polystyrene,PS) คือ พลาสติก ที่ผลิตขึ้นมาจาก สไตรินโมโนเมอร์ (Styrene, Monomer) สารอินทรีย์ไวไฟและมี เบนซีน (C6H6) ไฮโดรคาร์บอนที่อยู่ในรูปวงแหวนหกเหลี่ยม เป็นคาร์ซิโนเจน สารก่อมะเร็งในระยะยาว แล้วใช้ตัวเร่งปฏิกิริยา คือ เปอร์ออกไซด์ อัดแก๊สให้โฟมมันพองขึ้นคงสภาพไว้
สิ่งที่เห็นคือ วัตถุไวไฟ เพนเทน 60-70 ตัน สไตรีนโมโนเมอร์ กว่า 1.6 พันตัน ตั้งแต่ตีสามจนถึงช่วงเย็นก็ยังดับไม่ได้ เพราะมีเชื้อไฟและออกซิเจน ที่หนักสุดคือ VOCs สารประกอบอินทรีย์ระเหยง่าย (Volatile Organic Compounds) ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพมนุษย์มากกว่า CO (คาร์บอนมอนอกไซด์) เยอะมาก
โรงงานที่ผลิตพวกนี้ควรต้องมีระบบการจัดการที่ดี เพื่อป้องกันไม่ให้ระเหยออกมา เพราะมันส่งผลกระทบต่อโรงงานและชุมชนรอบข้าง หน้ากากที่ใช้ก็ต้องเป็นหน้ากากป้องกัน VOCs สารอินทรีย์ระเหยได้เท่านั้น"
ในเหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งนี้ เรามองเห็นควันไฟสีดำและสีเทา รศ. นพ.สัมมน โฉมฉาย ภาควิชาเวชศาสตร์ป้องกันและสังคม ศูนย์พิษวิทยาศิริราช คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล บอกว่า การเผาไหม้มีทั้งสมบูรณ์และไม่สมบูรณ์
"ในควันไฟจะมีคาร์บอนมอนอกไซด์, คาร์บอนไดออกไซด์ ในอาคารสมัยใหม่บางมีวัสดุที่มีไนโตรเจนเป็นสารประกอบ เมื่อไฟไหม้ก็จะเกิดไซยาไนด์ขึ้นมา แต่โรงงานนี้มี สไตรีน (Styrene) มี PAHs โพลีไซคลิกอะโรมาติก ไฮโดรคาร์บอน (Polycyclic Aromatic Hydrocarbons) เกิดขึ้น
สไตริน ทำให้เกิดการระคายเคืองทางเดินหายใจและผิวหนัง ดวงตา คอ จมูก ปอด แล้วแต่ความเข้มข้น สถานที่ระยะใกล้ 5-7 กิโลเมตร คนในชุมชนจะรู้สึกระคายเคืองทางเดินหายใจ แสบตา ตาแดง แสบจมูก ไอ เจ็บคอ เสียงแหบ คนที่โดนเยอะๆ อาจหมดสติได้ มีพิษต่อระบบประสาท
ส่วน PAHs ทำให้ระคายเคืองทางเดินหายใจ แสบ ไอ จาม อุดกั้นทางเดินหายใจส่วนบน ถ้าเป็นมากๆ ทำให้ปอดอักเสบรุนแรง การหายใจล้มเหลว ส่วน VOCs มีฤทธิ์คล้ายๆ กัน ระคายเคือง มีพิษต่อไตและตับ
ที่สำคัญคือ คนที่จะเข้าไปในที่เกิดเหตุ ต้องรู้ว่าจะเจอกับสารอะไร ต้องใช้เครื่องมือชนิดไหน ถ้าสารมีพิษสูง แล้วสถานที่นั้นมีออกซิเจนต่ำ ต้องใช้อุปกรณ์ป้องกันตัวเองคือ PPE ที่มีถังออกซิเจนเข้าไปด้วย แต่ถ้าเป็นสารระเหย ก็ต้องใช้หน้ากากที่ป้องกันสารระเหยได้"
เมื่อควันไฟที่ไหม้พัดสารเคมีขึ้นบนท้องฟ้า ลมที่มีอยู่ในอากาศ ก็พัดพากระจายออกไปทุกทิศทุกทาง รศ. ดร.สราวุธ เทพานนท์ หัวหน้าภาควิชาวิศวกรรมสุขาภิบาล คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล สังเกตทิศทางลมแล้วเห็นว่า อันตรายไม่ได้มีเพียงคนในชุมชนเท่านั้น ยังมีผลกระทบในวงกว้าง
"เท่าที่สังเกตการเคลื่อนตัวของมวลอากาศ ระยะแรกเคลื่อนจากทิศตะวันตกไปตะวันออก ระยะต่อมามีลมจากทางใต้พัดไปทางเหนือ ทิศที่น่าห่วงคือทิศตะวันออกและทิศเหนือ
ส่วนอันตรายที่เกิดขึ้นนั้นได้แก่ 1)ความเป็นพิษของสารเคมี 2)อันตรายจากความร้อน และระเบิด สารพิษไม่ได้แพร่กระจายเป็นวงกลม แต่มันกระจายไปตามทิศทางลม ถ้าระดับความเข้มข้นของสไตรินอยู่ที่ 100 ppm จะอันตรายมาก มีพิษเฉียบพลัน แต่ถ้าอยู่ในระดับ 0.06 ppm ต่อเนื่อง 1-2 วันก็อันตราย WHO องค์การอนามัยโลกบอกว่าสไตรินในอากาศ ควรมีระดับต่ำกว่าที่ได้กลิ่นคือ 0.016 ppm ซึ่งตอนนี้เกินมาตรฐาน"
#การป้องกันระยะยาว
ดร.กิติกร เสนอว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรต้องร่วมมือพูดคุยกันอย่างจริงจังให้มากขึ้น
"ประเด็นแรก เรื่องนี้เกิดขึ้นนอกเขตนิคมอุตสาหกรรม แม้จะบอกว่าโรงงานอยู่มาก่อนชุมชน แต่มาตรฐานการตั้งโรงงานอุตสาหกรรม การตรวจตราโรงงาน หรือแผนที่มีอยู่เพียงพอหรือไม่ ไม่ใช่แค่อพยพหนีไฟ เหตุการณ์นี้ส่งผลกระทบต่อชุมชนมีรัศมีกว้างไกลมาก ต้องมีแผนเกี่ยวข้องกับชุมชน ชุมชนต้องเข้ามามีส่วนร่วม และมีความรู้เพิ่มเติม ต้องรู้จักสไตริน และรู้ว่าเมื่อเกิดเหตุการณ์ขึ้นจะทำยังไง
ประเด็นที่สอง เรื่องสิ่งแวดล้อม ไม่ว่าจะเป็น VOCs ที่กระจายไป ถ้าเจอความชื้นหรือฝน มันจะตกลงมาหมดเลย มีผลต่อการเกษตร พืชผล ถ้าลงพื้นดินซึมสู่แหล่งน้ำธรรมชาติ จะกู้สถานการณ์หรือจัดการยังไง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะเยียวยาหรือแก้ไขปัญหาให้ชาวบ้านเมื่อกลับไปอยู่ในชุมชนแล้วมีความมั่นใจได้ว่า สิ่งเหล่านี้จะไม่หลงเหลืออยู่ในธรรมชาติสิ่งแวดล้อมหรือไม่"
ส่วน ดร.สราวุฒิ มองว่า เราต้องมองกว้างกว่านั้น ไม่ใช่มองอะไรมิติเดียว
"ตอนนี้เรามองแค่การหายใจ ทั้งที่ความจริงแล้ว มันตกลงมาในน้ำในดิน ภาครัฐ ควรมีการจัดการไม่ใช่เพียงแค่ระดับอากาศ อย่าง เชอโนบิล มองแต่อากาศ แต่จริงๆ แล้วมันลงไปอยู่ในดิน, ในน้ำ, ในนมวัว ในส่วนของกฎหมายโรงงานก็ต้องมีการคาดการณ์เหตุการณ์เลวร้ายขั้นสุดที่อาจเกิดขึ้นได้ เมื่อเกิดขึ้นแล้วจะมีการจัดการหรือป้องกันยังไง ยิ่งเป็นโรงงานเคมี ยิ่งต้องให้ความสำคัญเพิ่มขึ้น
ถึงเวลาที่ควรจะให้ความสำคัญ ให้ความรู้ การจัดการกับโรงงานและสถานการณ์แบบนี้ให้มากขึ้น หรือถ้ามีเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นก็ควรมีการเซ็ทเป็นวอร์รูม (War Room) เป็นจุดสื่อสารข้อมูลที่ถูกต้องบอกความเสี่ยงให้ทุกคนได้รับรู้อย่างชัดเจน เพราะว่าทุกภาคส่วนต้องการทราบข้อมูล อย่างเหตุการณ์ที่มาบตาพุด BST ก็ไม่มีวอร์รูม ไม่มี Press Release ออกมา กว่าจะมีข่าวมันเตลิดไปอีกแบบหนึ่งแล้ว เราควรมีแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือจะเป็นประโยชน์ต่อการบริหารจัดการต่อไป"
ทางด้าน นพ.สัมมน มองว่า ชุมชนควรมีส่วนร่วมกับโรงงาน มีผู้นำชุมชนเป็นคนเชื่อมต่อสื่อสารไม่ให้คนตื่นตระหนก
"คนงานต้องรู้เรื่องความเสี่ยง มีความรู้เรื่องการปฐมพยาบาล การปฏิบัติตัว มีการประเมินความเสี่ยงที่ Worst Case กรณีเลวร้ายที่สุดที่อาจเกิดขึ้นได้ ควรมีบรรจุอยู่ในผู้ประกอบการและชุมชนด้วย แม้กระทั่งเด็กและเยาวชนก็ต้องรู้"
#การดูแลตัวเอง
"ในกรณีนี้ ไฟไหม้สารเคมี การดับต้องใช้โฟมอย่างเดียว แล้วต้องดับให้ถูกจุด อีกทั้งต้องใช้น้ำเลี้ยงความร้อนไว้ด้วย" ดร.กิติกร กล่าวและบอกว่า
"หลายบริษัทที่มีโฟมดับไฟ เราก็น่าจะหยิบยืมกันได้ในช่วงฉุกเฉิน ส่วนการป้องกันตัวเอง ถ้าอยู่ใกล้แหล่งเกิดเหตุ อันดับแรกให้อยู่ใต้ลมไว้ ถ้าอยู่ในรัศมีใกล้ๆ ก็ต้องอพยพอย่างเดียว แล้วตอนนี้ยังไม่มีหน่วยงานไหนมอนิเตอร์ทิศทางลม เพื่อจะบอกได้ว่าสารพิษนี้แพร่กระจายไปถึงไหนแล้ว มีความเข้มข้นเท่าไร และไม่มีมาตรฐานในการรายงานทุกชั่วโมง อย่างฝุ่นควันพิษ PM2.5 ยังมีรายงานแบบเรียลไทม์เลย"
ส่วน นพ.สัมมน ได้แนะนำการดูแลตัวเองในระยะสั้นว่า ถ้าเป็นไปได้ ให้อยู่แต่ในอาคาร
"ถ้าอยู่ในอาคาร ให้ปิดกระจก เปิดเครื่องปรับอากาศ เปิดเครื่องกรองอากาศ ยิ่งเครื่องกรองที่มีไส้กรองเป็นชาโคล มีหลักฐานว่ามันช่วยลด VOCs ในอาคารได้บ้าง ส่วนการดูแลตัวเองหรือการปฐมพยาบาลเบื้องต้น คนที่มีอาการระคายเคืองจมูก อาจจะรับประทานยาแก้แพ้ หรือล้างจมูกด้วยน้ำเกลือ เอาพวกอนุภาคฝุ่นที่ทำให้เกิดการอักเสบออกมา
ถ้าระคายเคืองตา ก็ล้างตาในน้ำสะอาด อยากจะเตือนสำหรับคนที่ใส่คอนแทคเลนส์ๆ มันจะดูดซับสารต่างๆ ที่ระคายเคือง ดีที่สุดคือถอดคอนแทคเลนส์ แล้วล้างตาด้วยน้ำสะอาดอย่างน้อย 15 นาที ส่วนผิวหนัง หากได้รับการสัมผัสเยอะๆ ทำให้แสบระคายเคืองผิวหนัง เป็นผื่นได้ แนะนำให้ล้างหรืออาบน้ำด้วยสบู่
ถ้าจำเป็นจริงๆ อาจต้องใช้ครีมที่มีสเตียรอยด์ทา หากมีข้อสงสัยสอบถามได้ที่ศูนย์พิษวิทยา 24 ชั่วโมงทั้งของโรงพยาบาลศิริราชและโรงพยาบาลรามาธิบดี ส่วนในระยะยาว ควรให้ความรู้เรื่องสารพิษแก่บุคลากรทางการแพทย์มากขึ้น เพราะเราเป็นประเทศอุตสาหกรรมเหตุการณ์อย่างนี้อาจเกิดขึ้นได้เรื่อยๆ"
同時也有10000部Youtube影片,追蹤數超過2,910的網紅コバにゃんチャンネル,也在其Youtube影片中提到,...
「aromatic compounds」的推薦目錄:
- 關於aromatic compounds 在 อ๋อ มันเป็นอย่างนี้นี่เอง by อาจารย์เจษฎ์ Facebook 的最佳貼文
- 關於aromatic compounds 在 研妍堂 芳療香氛 Facebook 的最佳解答
- 關於aromatic compounds 在 Roger Chung 鍾一諾 Facebook 的精選貼文
- 關於aromatic compounds 在 コバにゃんチャンネル Youtube 的最佳解答
- 關於aromatic compounds 在 大象中醫 Youtube 的精選貼文
- 關於aromatic compounds 在 大象中醫 Youtube 的最佳貼文
- 關於aromatic compounds 在 Aromatic Compounds: Benzene 的評價
aromatic compounds 在 研妍堂 芳療香氛 Facebook 的最佳解答
◼︎ 香氛原料-關於麝香
學習之路永遠不會停止~~
麝香這一詞幾乎與香水劃上等號,它可能是某人身上的氣味,也可能是某個動物的代表,不論什麼品牌,不僅是香水,香皂,洗髮精,化妝品,甚至清潔劑裡都可能有麝香的存在,麝香只是各種類似原料的概括名稱,仔細分類下來可還是有很大的學問。
➡️ 天然麝香
最早的天然麝香來自麝香鹿,它的性腺分泌氣味來吸引雌鹿與設置領域,在歐洲歷史的記載,麝香具有催情、神性的代表,早期為了要獲取天然麝香,往往需要透過獵殺的方式十分殘忍,一公斤的麝香大約需要30~50隻麝香鹿,近年有些人開始圈養這類動物,以現代技術不傷害動物生命前提取得麝香,但現在成本還是相當高的,況且,小編之前在學校聞過天然麝香的味道,相信我,真的比廁所的尿味加10倍,它是需要稀釋成0.1%甚至更低才會讓人感到氣味美好。
植物系中也有類似麝香的氣味,其中黃葵籽(Ambrette seed)的氣味是小編最喜歡的,但是想使用它的大前提就是口袋要夠深,小編曾買過10ml近7張小朋友,現在跟著桂花原精一起鎖在櫃子裡當寶貝。
➡️ 人工合成麝香
瀕臨絕種野生動植物種國際貿易公約(Convention on International Trade in Endangered Species of Wild Fauna and Flora, CITES 也稱華盛頓公約)在1979年將麝香鹿列入受保護物種,因此現在市面上看到的麝香幾乎都是人工合成麝香,這也是說,如果今天你在一瓶號稱「天然」香水的成分中看到麝香二個字,您覺得它真的是全成分天然嗎?不妨思考看看。
——————————
人工合成麝香分類
——————————
|硝基麝香(Aromatic nitro musks):由於部分具有致敏性,因此絕大部分已經不再使用,目前還能見到的是麝香酮(Musk Ketone)、黃葵麝香(Musk Ambrette)、二甲苯麝香(Musk xylol)
|多環麝香(polycyclic musk compounds):就是在化學結構中具有多個環型結構的麝香,我們最熟悉就是IFF公司的佳樂麝香(Galaxolide),便宜又好用,非常多的香水都可以找到它的影子,另一支吐納麝香(Tonalide)雖然單價較高,但是它的氣味比較濃郁也受到調香師的喜愛,不過這二支100% 原料都很難搞,一個濃稠到很難分裝,一個是塊狀難以溶解,果然好味道也需要付出代價。
|大環麝香(macrocyclic musk compounds);它的化合物結構是單環結構有10~15個碳原子,氣味最接近麝香酮,對環境的影響最小,但價格也比其他麝香高,麝香T(Ethylene brassylate)、黄葵内酯(Ambrettolide)、環十五烷內酯(Exaltolide)都是目前調香師常用的麝香原料,但有趣的是有些人聞不到它們的味道,建議可以稀釋成1%後再聞看看或許就會找到它們。芬美意(Firmenich)生產的 麝香烯酮(Muscenone)非常接近硝基麝香的氣味,現在已經大量取代麝香酮的使用。
|脂環麝香(Alicyclic musks):麝香家族的新成員,分子結構以烷基酯為主,有趣的是這類麝香具有一點果香,因此很常應用於果香調中,小編有一支格蓬酯(Allyl Amyl Glycolate),一開始也聞不到它的味道,直到稀釋後才聞到那種刺鼻尖銳的水果香,最初實在很難把它與麝香分類在一起,所以它分類在的果香中,但它真的是麝香家族;開司米酮(Cashmeran)有人分類在多環麝香,但也有人反對,因為它的結構比較複雜,但又不符合國際香料協會(IFRA)多環麝香的分類標準,它有麝香的氣味特質,但又綜合了果香、木質、樹脂等氣味。
不同的麝香氣味都不是一樣的,常常有學生問我為什麼不是「白麝香」的味道?不得不承認Body shop的產品實在賣的太好了,讓大家對麝香氣味產生既定印象,就算來上體驗課也會問為什麼調不出白麝香的感覺?這個真的是很大的錯誤,「白麝香」是一支產品,它裡面大概有4~5種麝香的組成,而且佔比非常的高,我們的體驗課程只用到其中之一的佳樂麝香,當然沒辦法滿足。
原料的認識一直是調香學習課程中最大的困難,這幾支麝香如果沒有同時放在面前一一比較真的很難記憶與區別,疫情期間或許也是一個自我訓練的機會,也希望每個人都能健康平安。
———————————
#專業調香師養成班
#高階班
#單體原料
#企業氣味設計
#客製化氣味設計
aromatic compounds 在 Roger Chung 鍾一諾 Facebook 的精選貼文
中大公布第二批校園環境檢測結果
香港中文大學(中大) 早前委託獨立認可實驗室於不同時間在校園不同地點,抽取空氣、水質及泥土樣本,並送往化驗。大學已收到了第二批校園環境檢測結果。
因應有大學成員對校園可能殘留CS(鄰-氯代苯亞甲基丙二腈)的疑慮,校方已經進一步安排樣本檢測,預計將於二至三星期後收到結果,並盡快公布。
今日(12月12日)公布的第二批校園環境檢測結果包括13個泥土樣本(#1至#12 、S8)以及兩個水樣本(W9、W10)的化驗結果,摘要及參考水平如下﹕
(1) 泥土樣本
表一﹕泥土樣本(#1 至#12)
污染物
測試結果
參考水平
參考文件
二噁英
0.0037至0.0059 毫微克/克
1毫微克/克
香港環保署發出的「按風險釐定的土壤污染整治標準(公園)」
總多氯聯苯
< 0.2毫克/公斤
0.756毫克/公斤
多環芳香烴
< 0.500至2.05毫克/公斤
3.83至10,000毫克/公斤
表二﹕泥土樣本(S8)
污染物
測試結果
參考水平
參考文件
二噁英
0.12 毫微克/克
1毫微克/克
香港環保署發出的「按風險釐定的土壤污染整治標準(公園)」
總氰化物
< 1 毫克/公斤
4,900毫克/公斤
總多氯聯苯
< 0.200毫克/公斤
0.756毫克/公斤
多環芳香烴
< 0.500毫克/公斤
3.83至10,000毫克/公斤
(2) 水樣本
表三﹕水樣本(W9 及 W10)
污染物
測試結果
參考水平
參考文件
二噁英
4.6至4.7 皮克/公升
30皮克/公升
美國國家環境保護局(USEPA)建議的飲用水標準
總氰化物
< 0.05毫克/公升
0.2毫克/公升
總多氯聯苯
< 0.50 微克/公升
0.5 微克/公升
多環芳香烴
< 0.1 微克/公升
0.1 至 0.4 微克/公升
結論
(1) 泥土樣本
化驗結果顯示12個泥土樣本(#1至#12)的二噁英含量遠低於香港環保署在2007年發出的《按風險釐定的土地污染整治標準的使用指引》中「按風險釐定的土壤污染整治標準(公園)」之數值。這表示二噁英在這些泥土(#1至#12)的含量水平並不顯著,化驗結果與距離2號橋較遠位置的泥土樣本 (S1至S7、S9) 相若 (見表一)。
至於總多氯聯苯的化驗結果,所有泥土樣本 (#1 - #12)都遠低於前述由香港環保署發出的使用指引中(公園)標準之總多氯聯苯含量 (0.756毫克/公斤)。(見表一)
關於泥土樣本 (#1 - #12) 中多環芳香烴的含量,全部均低於參考文件中所規定的水平 (見表一)。 至於多環芳香烴中個別的化合物含量,可於此處瀏覽。
一個含有黑色煙熏物質的泥土樣本 (S8),在夏鼎基運動場裡被火燒焦的墊褥附近採集。測試結果顯示二噁英的含量相比其他泥土樣本為高,但仍相等於使用指引中的參考水平大約十分之一。這個略高的數值可能是由燃燒塑膠或墊褥的塑料部分引起。S8的其他測試參數例如總氰化物、總多氯聯苯和多環芳香烴,它們的含量遠低於在相關參考文件所規定的最低數值(見表二)。
(2) 水樣本
兩個水樣本從賽馬會研究生宿舍(一座)採集。化驗結果顯示兩個水樣本(W9 及 W10)中二噁英含量介乎4.6至4.7皮克/升。根據美國國家環境保護局建議的飲用水標準,其水樣本 (W9 & W10)中二噁英含量並不顯著。其他測試參數例如總氰化物、總多氯聯苯和多環芳香烴,它們的含量遠低於在相關參考文件所規定的最低數值 (見表三)。
從上述結論可見,這些污染物在泥土(#1 至 #12、S8)和水(W9 及W10)樣本的含量對健康的危害不顯著。
至於其他測試結果,大學收到後盡快公布。
相關數據可於此處瀏覽。
CUHK Releases the Second Batch of Test Results on Campus Environment
The Chinese University of Hong Kong (CUHK) earlier appointed an independent accredited laboratory to collect air, water and soil samples at various locations and at different times on campus and sent them for testing. The University has just received the second batch of test results.
In addition, in response to the concerns of some University members over the level of CS (2-chlorobenzalmalononitrile) on CUHK campus, the University has arranged to conduct another round of tests. The results will be announced as soon as they are received in 2-3 weeks’ time.
Here is the summary of the second batch of test results including 13 soil samples (#1-#12 & S8) and 2 water samples (W9 & W10) compared with the guidance notes/international standards.
(1) Soil samples
Table 1: For soil samples (#1 - #12)
Contaminant
Test results
Reference Level
Reference Document
Dioxins
0.0037-0.0059 ng/g
1 ng/g
Risk-Based Remediation Goals (RBRGs) for Soil – Public Parks, published by Hong Kong Environmental Protection Department
Total PCBs
< 0.2 mg/kg
0.756 mg/kg
PAHs
< 0.500-2.05 mg/kg
3.83-10,000 mg/kg
Table 2﹕For soil sample (S8)
Contaminant
Test results
Reference Level
Reference Document
Dioxins
0.12 ng/g
1 ng/g
Risk-Based Remediation Goals (RBRGs) for Soil – Public Parks, published by Hong Kong Environmental Protection Department
Total Cyanide
< 1 mg/kg
4,900 mg/kg
Total PCBs
< 0.200 mg/kg
0.756 mg/kg
PAHs
< 0.500 mg/kg
3.83-10,000mg/kg
(2) Water samples
Table 3: For water samples (W9 & W10)
Contaminant
Test results
Reference Level
Reference Document
Dioxins
4.6-4.7 pg/L
30 pg/L
Drinking Water Standards from USEPA
Total Cyanide
< 0.05 mg/L
0.2 mg/L
Total PCBs
< 0.50 µg/L
0.5 µg/L
PAHs
< 0.1 µg/L
0.1-0.4 µg/L
Conclusion
(1) Soil samples
Among the 12 soil samples (#1-#12), the dioxins (I-TEQ) are well below the Risk-Based Remediation Goals (RBRGs) of dioxins in soil (I-TEQ) for public parks as quoted in the Guidance Manual for Use of Risk-Based Remediation Goals for Contaminated Land Management published by Hong Kong Environmental Protection Department (HKEPD) in 2007. This indicates that the dioxins (I-TEQ) levels in these soil samples (#1 - #12) are not significant, and the results are comparable to soil samples (S1-S7 & S9) collected in the more distant locations away from No. 2 Bridge (see table 1).
Based on the test results of Total Polychlorinated Biphenyls (PCBs), all soil samples (#1 - #12) are lower than the respective limits of PCBs level (0.756 mg/kg) for public parks cited in the aforementioned Guidance Manual from HKEPD (see table 1).
Regarding the Polycyclic Aromatic Hydrocarbons (PAHs) levels for these soil samples (#1 - #12), all of them are below the level as required by the reference document (see table 1). For the figures of individual PAH compounds, please click here.
A soil sample with black-smoked materials (S8) was collected in the vicinity of the burned mattress in Sir Philip Haddon-Cave Sports Field. The test result of the dioxins (I-TEQ) level is relatively higher than that of other soil samples though it is only about one tenth of the reference level cited in the Guidance Manual. The possible reason for the elevated result may be due to the burning of rubber or plastic components of the mattress. For the other testing parameters such as Total Cyanide, Total Polychlorinated Biphenyls (PCBs) and Polycyclic Aromatic Hydrocarbons (PAHs) for the sample (S8), they are all well lower than their respective limits as required by the related reference documents (see table 2).
(2) Water samples
Two water samples (W9 & W10) had been collected from Jockey Club Postgraduate Hall 1. The test results reveal that the dioxins (I-TEQ) levels for both samples (W9 & W10) are from 4.6 to 4.7 pg/L. In accordance with drinking water standards from United States Environmental Protection Agency (USEPA), the dioxins levels for these water samples (W9 & W10) are not significant. For the other testing parameters such as Total Cyanide, Total Polychlorinated Biphenyls (PCBs) and Polycyclic Aromatic Hydrocarbons (PAHs), they are all much below their respective limits as required by the related reference documents (see table 3).
In view of the aforementioned interpretation, the health hazards of these contaminants from the soil (#1 - #12 & S8) and water (W9 & W10) samples are negligible.
Other test results will be announced as soon as they are available. Related information may be viewed here.
aromatic compounds 在 Aromatic Compounds: Benzene 的推薦與評價
Aromatic hydrocarbons appear to be unsaturated, but they have a special type of bonding and do not undergo addition reactions. Exercises. Draw the structure of ... ... <看更多>