0521紐約時報
*【資料顯示,美國封鎖政策的延遲導致至少3.6萬人付出生命】
哥倫比亞大學一項研究發現,如果美國提前一周實施保持社交距離的規定,能夠多挽救3.6萬人的生命。而如果提前兩周,即從3月1日就開始實施封鎖並限制社會接觸,該國83%死於新冠病毒的患者將倖免于難。
https://www.nytimes.com/2020/05/20/us/coronavirus-distancing-deaths.html
*【川普考慮於6月在大衛營舉行G7會議】
但目前尚不清楚他是否已與七國集團其他領導人進行商議,以及這些領導人是否已經做好了前往美國參加會議的準備。受疫情影響,今年的G7會議原定於6月10日至12日以視訊方式舉行。
https://www.nytimes.com/2020/05/20/us/politics/trump-g7-coronavirus.html
*【冠狀病毒疫苗研發競賽進入希望的里程碑】
科學家們謹慎樂觀地認為明年可以研製出新冠疫苗。Inovio、輝瑞等公司已經開始對人體進行早期試驗,以確定其候選疫苗是否安全;牛津大學的研究人員說,他們最早可能在9月準備好一種可用於緊急情況的疫苗;本週一,美國生物技術公司Moderna宣佈在八名志願者身上進行的疫苗安全性試驗得到令人鼓舞的結果。如今,科學家們越來越樂觀地認為疫苗可以在創紀錄的短時間內生產出來,但是如何生產和銷售這些疫苗也將是一個巨大挑戰。
https://www.nytimes.com/2020/05/20/health/coronavirus-vaccines.html
*【川普加劇對郵寄投票的抨擊,稱其是項欺騙選民的非法行動】
密西根州及內華達州政府決定,11月總統大選時,關鍵選區的所有註冊選民都可以透過郵件收到郵寄投票的申請書,讓選民不用承擔外出投票卻感染新型冠狀病毒病的風險。但此舉惹來川普不滿,雖無證據,但他在推特上說,這是非法行為,如果各州繼續擴大郵寄投票的方式,他可能會取消對密西根州和內華達州的聯邦資助。
https://www.nytimes.com/2020/05/20/us/politics/trump-michigan-vote-by-mail.html
*【遭疫毒纏身的密西根,又遇洪水危機】
美國密西根州因連日大量降雨,使得洪水沖破Sanford與Edenville兩座水壩,並淹沒周遭林地,不到24小時緊急撤離附近數萬居民。
https://www.nytimes.com/2020/05/20/us/michigan-flooding-dams-midland.html
*【潰壩破壞了陶氏化學公司,需耗巨資清理】
密西根州兩處大壩遭到破壞,洪水湧入陶氏化學綜合工廠,有毒化學物質威脅著下游地區,引發了大壩災難造成的環境污染。密西根大學地球與環境科學教授Allen Burton認為,令人擔憂的是,洪水會攪動河床受污染的沉積物,將污染擴散到下游和整個河岸。而這恐將花數年及巨資來處理。
https://www.nytimes.com/2020/05/20/climate/michigan-dam-dow-chemical-superfund.html
*【香港通訊:在大流行時代的香港,發現非正常時期的常態】
公共建築裡的體溫檢測設施、電梯按鈕上的消毒標識、被隔斷的星巴克……這座城市的面貌已經被大流行改變,即使它已經開始重新煥發生機,人們還能回歸真正的常態嗎?
https://cn.nytimes.com/china/20200520/coronavirus-hong-kong/
*【觀點:川普的“中國牌”能奏效嗎?】
美國前國家安全顧問蘇珊•賴斯在時報觀點與評論版面撰文稱,通過攻擊拜登、拿中國做文章,川普迫切希望掩蓋自己在疫情應對上的致命錯誤,更試圖將自己在中國問題上的明顯軟弱變成政治武器。
https://cn.nytimes.com/opinion/20200520/trump-biden-china/
*【超級氣旋“ Amphan”席捲印度東部和孟加拉】
可怕的颶風在印度東部和孟加拉國肆虐,摧毀樹木、棚屋,造成至少數人死亡,百萬人遠離家園。不過疏散行動加上氣旋轉向陸地時威力的減弱,似乎挽救了許多生命。由於這個氣旋在大流行期間到來,社會的封鎖狀態使準備工作變得更加複雜。一些印度人擔心在避難所群聚會感染病毒,有些避難所也因被改造成隔離中心而無法使用。
https://www.nytimes.com/2020/05/20/world/asia/cyclone-amphan-india-bangladesh.html
*【歐洲計劃在夏天重新開放邊境】
夏日將至,一些依賴旅遊業的歐洲國家開始考慮重新對外開放。希臘、西班牙、葡萄牙、義大利等國均計畫於6月開始陸續接待遊客,並放寬旅客入境後的隔離限制。
https://www.nytimes.com/2020/05/13/world/europe/coronavirus-europe-vacation.html
*【經濟訊息最新】
#感染迫使福特汽車公司在兩家重新開放的工廠暫停生產。福特汽車本週重啟了其在北美的組裝工廠,週三表示,在員工的冠狀病毒檢測呈陽性反應後,福特汽車暫時停止了位於芝加哥和密歇根州迪爾伯恩的兩家工廠的生產。
#美聯準會官員擔心這一大流行病對經濟造成的持久損害。聯準會官員對經濟的未來表示擔憂,聲明中說,大流行在中期會給經濟前景帶來“相當大的風險”。而根據會議紀要:"與會人員擔心,病毒的繼發性爆發可能導致企業在一段時間內不願從事新項目,僱用工人或進行新的資本支出。”同時也擔心外國經濟,特別是新興市場,“可能因大流行而承受巨大壓力,這種壓力可能會蔓延到並阻礙美國的經濟活動。”
#" Plandemic”電影及其謊言如何在網上廣泛傳播。Facebook、YouTube和其他社交網路正在努力刪除一段包含各種新冠病毒大流行陰謀論的視頻,這凸顯了線上內容的審核所帶來的挑戰。這段近26分鐘的視頻是一系列片段的一部分,在一部名為 《Plandemic》的紀錄片播出之前被發佈,製片人稱這“將揭露科學和政治精英們運行的騙局,即我們的全球衛生系統”。
#華爾街股市和石油價格繼續攀升。週三股市上漲,從前一天的跌幅回升,原因是投資者對零售商的一些強勁業績感到鼓舞,而石油價格的另一次上漲也提振了能源生產商的股票。
#美國聯合航空公司試圖與Clorox和克利夫蘭診所合作,以吸引旅客。
#勞斯萊斯週三表示,由于冠狀病毒大流行,該公司將裁員近20%,以應對不斷萎縮的需求。
https://www.nytimes.com/2020/05/20/business/coronavirus-economy-stock-market.html
*【復工後,美國民眾預計復甦需要數年時間】
在線研究平台SurveyMonkey本月對《紐約時報》進行的一項民意測驗顯示,只有五分之一的美國人期望明年的整體商業狀況會“非常”或“有些” 。60%的人表示,他們預計未來五年的特點是“普遍失業或沮喪的時期”。這種前景可能會對經濟復甦產生嚴重影響。如果美國人擔心自己的工作處於危險之中或業務會保持緩慢,那麼即使他們的財務狀況穩定,他們的支出可能性也較小。
https://www.nytimes.com/2020/05/20/business/economy/coronavirus-economy-survey.html
dow chemical 在 ลงทุนแมน Facebook 的精選貼文
โรนัลด์ รีด ภารโรง ที่มีทรัพย์สิน 200 ล้าน /โดย ลงทุนแมน
โรนัลด์ รีด ชายคนนี้เป็นภารโรงคนหนึ่ง ที่ใช้ชีวิตตามปกติในสังคม ไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งดัง
แต่แล้วตอนที่เขาเสียชีวิตลง ทุกคนก็ต้องประหลาดใจ
เมื่อพบว่า รีด มีทรัพย์สินเก็บไว้สูงถึง 200 ล้านบาท
คำถามคือ เขามีเงินเยอะขนาดนี้ได้อย่างไร?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
┏━━━━━━━━━━━━┓
Blockdit โซเชียลมีเดีย รูปแบบใหม่
Blockdit.com/download
┗━━━━━━━━━━━━┛
นายโรนัลด์ รีด (Ronald Read) เป็นชาวอเมริกัน เกิดเมื่อปี ค.ศ. 1921
โดยครอบครัวอาศัยอยู่ในรัฐเวอร์มอนต์ มีฐานะค่อนข้างยากจน และส่งเขาเรียนได้แค่ชั้นมัธยม
หลังจากปลดประจำการทหาร เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง
เขาได้กลับมาทำงานเป็นพนักงานช่างที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในเมืองบ้านเกิด
ผ่านมาถึงปี 1980 เขาเปลี่ยนมาทำงานเป็นภารโรงแบบพาร์ตไทม์ ที่ร้านค้าปลีก JCPenney
โดยมีหน้าที่ดูแลความเรียบร้อย และรับผิดชอบงานช่างเทคนิคต่างๆ ภายในร้าน
เขาทำอาชีพนี้อยู่นาน 17 ปี ก่อนเกษียณตัวเองในปี 1997 และกลับไปใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างสงบสุข
ดูเหมือนว่าชีวิตของผู้ชายธรรมดาคนนี้ จะไม่มีเรื่องราวอะไรน่าสนใจเป็นพิเศษ
จนกระทั่งเขาเสียชีวิตลงในปี 2014 ตอนอายุ 92 ปี
สิ่งที่น่าเหลือเชื่อก็ถูกเปิดเผยออกมา
เพราะครอบครัวพบว่า มรดกที่พ่อเหลือเอาไว้นั้น
คือทรัพย์สินที่มีมูลค่าถึง 240 ล้านบาท
ซึ่งตามพินัยกรรม เขาต้องการแบ่งทรัพย์สินเป็นสัดส่วนดังนี้
60 ล้านบาท ยกให้กับครอบครัว
40 ล้านบาท ยกให้กับห้องสมุด Brooks Memorial
140 ล้านบาท ยกให้กับโรงพยาบาล Brattleboro Memorial
เรื่องนี้สร้างความประหลาดใจให้กับคนในท้องถิ่นเป็นอย่างมาก รวมไปถึงครอบครัว
ว่าโรนัลด์ รีด มีทรัพย์สินเยอะขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่
เพราะถ้าดูจากข้อมูลแล้ว เขาน่าจะมีรายได้จากการทำงานน้อยกว่าคนอื่นอยู่พอสมควร
ปัจจุบัน ที่สหรัฐอเมริกา ประชาชนมีรายได้เฉลี่ยอยู่ที่ 1,440,000 บาทต่อปี
ในขณะที่อาชีพภารโรง มีรายได้เฉลี่ยอยู่ที่ 910,000 บาทต่อปี
ยิ่งถ้าเป็นฐานเงินเดือนและค่าเงินในอดีตหลายสิบปีก่อน รายได้ของรีดคงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยมาก
แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น เขาก็ได้ทำให้เงินเก็บดังกล่าว มีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล
ด้วยการนำมันไป “ลงทุน” อย่างสม่ำเสมอ
อันที่จริงแล้ว ทรัพย์สินส่วนใหญ่ที่รีดถือครองอยู่ ก็คือ หุ้นของ 95 บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
แน่นอนว่า รีด ไม่เคยมีความรู้เกี่ยวกับการลงทุน
แต่ด้วยความสนใจ เขาจึงมักจะศึกษาข้อมูลผ่านหนังสือพิมพ์ The Wall Street Journal อยู่ทุกวัน
รวมทั้งเข้าไปหาความรู้เพิ่มเติมที่ห้องสมุด Brooks Memorial เป็นประจำ
ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่า เขาใช้เงินลงทุนไปเท่าไหร่
แต่เพื่อนสนิทได้เปิดเผยว่า จากที่รู้จักนิสัยกันมานาน
เขามั่นใจว่า เพื่อนจะแบ่งเงินเดือนสัดส่วน 80% ไปลงทุน
ทั้งนี้หลักการลงทุนของรีด เป็นวิธีง่ายๆ ที่ใครก็สามารถทำได้ และไม่ต้องใช้ปัจจัยทางเทคนิคใดๆ
โดยเขาจะเลือกซื้อเฉพาะหุ้นของบริษัทที่มีพื้นฐานธุรกิจเข้าใจง่าย มีมูลค่าตลาดสูง และเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมตัวเอง หรือที่นักลงทุนเรียกกันว่า หุ้น Blue-Chip
นอกจากนี้ กิจการจะต้องมีการจ่ายปันผลที่แน่นอน เพราะเขาจะถือหุ้นเอาไว้ระยะยาวหลายปี
ซึ่งรีดได้เข้าลงทุนในบริษัทจากหลายกลุ่มอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็น
ธุรกิจสินค้าผู้บริโภค เช่น Procter & Gamble, Johnson & Johnson, General Electric
ธุรกิจโทรคมนาคม เช่น AT&T
ธุรกิจการเงิน เช่น J.P. Morgan, Bank of America
ธุรกิจยานยนต์ เช่น General Motors
ธุรกิจพลังงาน เช่น Dow Chemical
และเขาจะหลีกเลี่ยงการลงทุนในบริษัทเทคโนโลยี ที่รูปแบบธุรกิจเข้าใจยาก แม้ราคาหุ้นพุ่งสูงขึ้นมาก
อย่างไรก็ตาม ก็มีบางบริษัทที่ทำให้เขาต้องขาดทุน เช่น Lehman Brothers ที่ล้มละลายจนเป็นจุดเริ่มต้นของวิกฤติการเงินโลกในปี 2008
แต่เนื่องจากว่า รีดมีการกระจายความเสี่ยง จึงทำให้ผลกระทบอยู่ในวงจำกัด
จะเห็นได้ว่า วิธีการลงทุนนี้ คล้ายกับนักลงทุนชื่อดังอย่าง วอร์เรน บัฟเฟตต์ เป็นอย่างมาก
ซึ่งมันได้ส่งผลให้พอร์ตการลงทุนของ โรนัลด์ รีด เติบโตขึ้นตามกาลเวลา
จนสุดท้ายมีมูลค่า 240 ล้านบาท ในปี 2014
แต่สาเหตุที่ไม่มีใครสังเกตเห็น ว่าชายคนนี้เป็นเศรษฐี
ก็เพราะว่าเขายังคงใช้ชีวิตเรียบง่ายเหมือมเดิม
การได้นั่งทานอาหารเช้าที่ร้านโปรดในโรงพยาบาล Brattleboro Memorial ทุกวัน
ขับรถมือสองที่ซื้อมาตั้งแต่อดีต
ใส่เสื้อตัวเดิมที่คุ้นเคย
และอ่านข่าวเกี่ยวกับการลงทุน
สำหรับเขา แค่นั้นก็ถือว่ามีความสุขแล้ว
เรื่องราวนี้อาจทำให้เราได้คิดว่า
มันคงไม่สำคัญว่าเราประกอบอาชีพอะไร หรือมีพื้นฐานความรู้มากน้อยแค่ไหน
ถ้าตั้งใจศึกษาข้อมูลใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา
และยึดมั่นในหลักการอย่างมีวินัย
เราก็มีโอกาสเป็นได้เหมือน โรนัลด์ รีด..
┏━━━━━━━━━━━━┓
Blockdit โซเชียลมีเดีย รูปแบบใหม่
Blockdit.com/download
┗━━━━━━━━━━━━┛
References
-https://www.cnbc.com/…/janitor-secretly-amassed-an-8-millio…
-https://www.fool.com/…/how-did-a-janitor-amass-8-million-th…
-https://www.salary.com/rese…/salary/benchmark/janitor-salary
-https://www.thebalancecareers.com/average-salary-informatio…
dow chemical 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
โรนัลด์ รีด ภารโรง ที่มีทรัพย์สิน 200 ล้าน /โดย ลงทุนแมน
โรนัลด์ รีด ชายคนนี้เป็นภารโรงคนหนึ่ง ที่ใช้ชีวิตตามปกติในสังคม ไม่ได้มีชื่อเสียงโด่งดัง
แต่แล้วตอนที่เขาเสียชีวิตลง ทุกคนก็ต้องประหลาดใจ
เมื่อพบว่า รีด มีทรัพย์สินเก็บไว้สูงถึง 200 ล้านบาท
คำถามคือ เขามีเงินเยอะขนาดนี้ได้อย่างไร?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
┏━━━━━━━━━━━━┓
Blockdit โซเชียลมีเดีย รูปแบบใหม่
Blockdit.com/download
┗━━━━━━━━━━━━┛
นายโรนัลด์ รีด (Ronald Read) เป็นชาวอเมริกัน เกิดเมื่อปี ค.ศ. 1921
โดยครอบครัวอาศัยอยู่ในรัฐเวอร์มอนต์ มีฐานะค่อนข้างยากจน และส่งเขาเรียนได้แค่ชั้นมัธยม
หลังจากปลดประจำการทหาร เมื่อสงครามโลกครั้งที่ 2 สิ้นสุดลง
เขาได้กลับมาทำงานเป็นพนักงานช่างที่ปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่งในเมืองบ้านเกิด
ผ่านมาถึงปี 1980 เขาเปลี่ยนมาทำงานเป็นภารโรงแบบพาร์ตไทม์ ที่ร้านค้าปลีก JCPenney
โดยมีหน้าที่ดูแลความเรียบร้อย และรับผิดชอบงานช่างเทคนิคต่างๆ ภายในร้าน
เขาทำอาชีพนี้อยู่นาน 17 ปี ก่อนเกษียณตัวเองในปี 1997 และกลับไปใช้ชีวิตบั้นปลายอย่างสงบสุข
ดูเหมือนว่าชีวิตของผู้ชายธรรมดาคนนี้ จะไม่มีเรื่องราวอะไรน่าสนใจเป็นพิเศษ
จนกระทั่งเขาเสียชีวิตลงในปี 2014 ตอนอายุ 92 ปี
สิ่งที่น่าเหลือเชื่อก็ถูกเปิดเผยออกมา
เพราะครอบครัวพบว่า มรดกที่พ่อเหลือเอาไว้นั้น
คือทรัพย์สินที่มีมูลค่าถึง 240 ล้านบาท
ซึ่งตามพินัยกรรม เขาต้องการแบ่งทรัพย์สินเป็นสัดส่วนดังนี้
60 ล้านบาท ยกให้กับครอบครัว
40 ล้านบาท ยกให้กับห้องสมุด Brooks Memorial
140 ล้านบาท ยกให้กับโรงพยาบาล Brattleboro Memorial
เรื่องนี้สร้างความประหลาดใจให้กับคนในท้องถิ่นเป็นอย่างมาก รวมไปถึงครอบครัว
ว่าโรนัลด์ รีด มีทรัพย์สินเยอะขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่
เพราะถ้าดูจากข้อมูลแล้ว เขาน่าจะมีรายได้จากการทำงานน้อยกว่าคนอื่นอยู่พอสมควร
ปัจจุบัน ที่สหรัฐอเมริกา ประชาชนมีรายได้เฉลี่ยอยู่ที่ 1,440,000 บาทต่อปี
ในขณะที่อาชีพภารโรง มีรายได้เฉลี่ยอยู่ที่ 910,000 บาทต่อปี
ยิ่งถ้าเป็นฐานเงินเดือนและค่าเงินในอดีตหลายสิบปีก่อน รายได้ของรีดคงต่ำกว่าค่าเฉลี่ยมาก
แต่ถึงแม้จะเป็นเช่นนั้น เขาก็ได้ทำให้เงินเก็บดังกล่าว มีมูลค่าเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล
ด้วยการนำมันไป “ลงทุน” อย่างสม่ำเสมอ
อันที่จริงแล้ว ทรัพย์สินส่วนใหญ่ที่รีดถือครองอยู่ ก็คือ หุ้นของ 95 บริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
แน่นอนว่า รีด ไม่เคยมีความรู้เกี่ยวกับการลงทุน
แต่ด้วยความสนใจ เขาจึงมักจะศึกษาข้อมูลผ่านหนังสือพิมพ์ The Wall Street Journal อยู่ทุกวัน
รวมทั้งเข้าไปหาความรู้เพิ่มเติมที่ห้องสมุด Brooks Memorial เป็นประจำ
ไม่มีใครรู้แน่ชัดว่า เขาใช้เงินลงทุนไปเท่าไหร่
แต่เพื่อนสนิทได้เปิดเผยว่า จากที่รู้จักนิสัยกันมานาน
เขามั่นใจว่า เพื่อนจะแบ่งเงินเดือนสัดส่วน 80% ไปลงทุน
ทั้งนี้หลักการลงทุนของรีด เป็นวิธีง่ายๆ ที่ใครก็สามารถทำได้ และไม่ต้องใช้ปัจจัยทางเทคนิคใดๆ
โดยเขาจะเลือกซื้อเฉพาะหุ้นของบริษัทที่มีพื้นฐานธุรกิจเข้าใจง่าย มีมูลค่าตลาดสูง และเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมตัวเอง หรือที่นักลงทุนเรียกกันว่า หุ้น Blue-Chip
นอกจากนี้ กิจการจะต้องมีการจ่ายปันผลที่แน่นอน เพราะเขาจะถือหุ้นเอาไว้ระยะยาวหลายปี
ซึ่งรีดได้เข้าลงทุนในบริษัทจากหลายกลุ่มอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็น
ธุรกิจสินค้าผู้บริโภค เช่น Procter & Gamble, Johnson & Johnson, General Electric
ธุรกิจโทรคมนาคม เช่น AT&T
ธุรกิจการเงิน เช่น J.P. Morgan, Bank of America
ธุรกิจยานยนต์ เช่น General Motors
ธุรกิจพลังงาน เช่น Dow Chemical
และเขาจะหลีกเลี่ยงการลงทุนในบริษัทเทคโนโลยี ที่รูปแบบธุรกิจเข้าใจยาก แม้ราคาหุ้นพุ่งสูงขึ้นมาก
อย่างไรก็ตาม ก็มีบางบริษัทที่ทำให้เขาต้องขาดทุน เช่น Lehman Brothers ที่ล้มละลายจนเป็นจุดเริ่มต้นของวิกฤติการเงินโลกในปี 2008
แต่เนื่องจากว่า รีดมีการกระจายความเสี่ยง จึงทำให้ผลกระทบอยู่ในวงจำกัด
จะเห็นได้ว่า วิธีการลงทุนนี้ คล้ายกับนักลงทุนชื่อดังอย่าง วอร์เรน บัฟเฟตต์ เป็นอย่างมาก
ซึ่งมันได้ส่งผลให้พอร์ตการลงทุนของ โรนัลด์ รีด เติบโตขึ้นตามกาลเวลา
จนสุดท้ายมีมูลค่า 240 ล้านบาท ในปี 2014
แต่สาเหตุที่ไม่มีใครสังเกตเห็น ว่าชายคนนี้เป็นเศรษฐี
ก็เพราะว่าเขายังคงใช้ชีวิตเรียบง่ายเหมือมเดิม
การได้นั่งทานอาหารเช้าที่ร้านโปรดในโรงพยาบาล Brattleboro Memorial ทุกวัน
ขับรถมือสองที่ซื้อมาตั้งแต่อดีต
ใส่เสื้อตัวเดิมที่คุ้นเคย
และอ่านข่าวเกี่ยวกับการลงทุน
สำหรับเขา แค่นั้นก็ถือว่ามีความสุขแล้ว
เรื่องราวนี้อาจทำให้เราได้คิดว่า
มันคงไม่สำคัญว่าเราประกอบอาชีพอะไร หรือมีพื้นฐานความรู้มากน้อยแค่ไหน
ถ้าตั้งใจศึกษาข้อมูลใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา
และยึดมั่นในหลักการอย่างมีวินัย
เราก็มีโอกาสเป็นได้เหมือน โรนัลด์ รีด..
┏━━━━━━━━━━━━┓
Blockdit โซเชียลมีเดีย รูปแบบใหม่
Blockdit.com/download
┗━━━━━━━━━━━━┛
References
-https://www.cnbc.com/2016/08/29/janitor-secretly-amassed-an-8-million-fortune.html
-https://www.fool.com/investing/general/2015/02/15/how-did-a-janitor-amass-8-million-the-same-way-you.aspx
-https://www.salary.com/research/salary/benchmark/janitor-salary
-https://www.thebalancecareers.com/average-salary-information-for-us-workers-2060808
dow chemical 在 Dow - Home | Facebook 的推薦與評價
... conversation forward about the Dow Chemical Company (Dow) brand, our products, solutions, applications, industries, services and up-to-date information. ... <看更多>