การแก้ปัญหา ส้มหล่น ของสเปน /โดย ลงทุนแมน
48,000 ต้น คือจำนวนต้นส้ม ที่ปลูกประดับประดาไปทั่วเมืองเซบิยา
เมืองหลวงของแคว้นอันดาลูซิอา ทางตอนใต้ของประเทศสเปน
ด้วยความที่มีภูมิอากาศเหมาะสม แคว้นแห่งนี้จึงเป็นเขตปลูกส้มที่สำคัญที่สุดของประเทศสเปน ซึ่งการปลูกส้มก็ไม่ได้เพื่อการส่งออกเพียงอย่างเดียว แต่ยังนิยมปลูกไว้เพื่อประดับประดาไปทั่วเมืองด้วย
แต่ปัญหาก็มักเกิดขึ้นในช่วงฤดูหนาว เมื่อต้นส้มทั่วทั้งเมือง ต่างออกผล
จนเกิดมหกรรม “ส้มหล่น” จำนวนกว่า 5.7 ล้านกิโลกรัม เกลื่อนกลาดไปทั่วทางเท้าและถนนหนทาง
สำนวน “ส้มหล่น” ในภาษาไทย มักมีความหมายสื่อถึงสิ่งดี ๆ ที่ได้มาโดยไม่คาดคิด
แต่สำหรับเมืองเซบิยาแล้ว มหกรรม “ส้มหล่น” ในแต่ละครั้ง คงไม่ได้นำสิ่งดี ๆ มาให้สักเท่าไร
แล้วเซบิยา มีแผนจัดการกับปัญหานี้ อย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ก่อนอื่นมารู้จักความสัมพันธ์ของส้มกับประเทศสเปนกันสักนิด..
แต่เดิมส้มเป็นผลไม้พื้นเมืองของทวีปเอเชีย โดยเฉพาะในแถบตอนเหนือของอินเดียและจีนตอนใต้ โดยพ่อค้าชาวอาหรับเป็นผู้นำผลไม้ชนิดนี้มาเผยแพร่ในแถบตะวันออกกลางและแอฟริกาเหนือ
เมื่อดินแดนสเปนถูกยึดครองโดยชาวมัวร์ ซึ่งเป็นชาวมุสลิมจากแอฟริกาเหนือในช่วงศตวรรษที่ 7 ชาวมัวร์ก็ได้นำต้นส้มเข้ามาทดลองปลูกบนแผ่นดินสเปน
ความโชคดีประการหนึ่ง คือ ผลไม้ตระกูลส้ม จะเจริญเติบโตได้ในที่ที่มีอากาศร้อนและแห้งแล้งในฤดูร้อน และมีฝนตกมากในฤดูหนาว ซึ่งพื้นที่ส่วนใหญ่ของสเปนมีภูมิอากาศแบบนี้
ซึ่งเรียกว่า ภูมิอากาศแบบเมดิเตอร์เรเนียน
จากจุดเริ่มต้นโดยชาวมัวร์ สเปนได้กลายเป็นแหล่งปลูกส้มที่สำคัญของโลกในปัจจุบัน
ในปี 2020 สเปนส่งออกส้มเป็นอันดับ 1 ของโลก คิดเป็นมูลค่า 46,200 ล้านบาท
และคิดเป็นสัดส่วนถึง 1 ใน 4 ของโลก
พื้นที่ปลูกส้มส่วนใหญ่ของสเปนจะอยู่ทางตอนใต้ โดยเฉพาะในแคว้นอันดาลูซิอา ที่ให้ผลผลิตส้มมาจากแคว้นนี้ปีละกว่า 1.6 ล้านตัน
หนึ่งในส้มที่ปลูกมากในแคว้นนี้ คือ Bitter Orange หรือ ส้มขม เป็นส้มที่มีรสชาติออกขม และคนสเปนก็ไม่ค่อยนิยมกินสด ๆ เท่าไร นิยมนำไปทำ Marmalade หรือแยมผิวส้มมากกว่า
โดยประเทศที่เป็นจุดหมายปลายทางของการส่งออกส้มและแยมผิวส้มมากที่สุด ก็คือ สหราชอาณาจักร ซึ่งคนอังกฤษจะเรียกส้มชนิดนี้ว่า “ส้มเซบิยา”..
ซึ่งแน่นอนว่าในเมืองหลวงของแคว้นอันดาลูซิอา อย่างเมืองเซบิยา
เราก็จะสามารถพบเห็นต้นส้มเซบิยาได้อย่างง่ายดาย เพราะจะถูกปลูกประดับประดาอยู่ริมถนน สถานที่สำคัญ สวนสาธารณะ หรือแม้แต่ในเขตที่อยู่อาศัย
ข้อโดดเด่นอีกอย่างของต้นส้มเซบิยา คือกลิ่นดอกที่หอมหวน ทำให้ในช่วงฤดูใบไม้ผลิ ต้นส้มในเมืองกว่า 48,000 ต้นก็จะผลิดอกหอมหวน ตลบอบอวลไปทั่วทั้งเมือง
แต่สัญญาณของความวุ่นวายก็มักจะเกิดขึ้น เมื่อเมืองเซบิยาเข้าสู่ฤดูหนาวในช่วงปลายเดือนตุลาคม ถึงต้นเดือนพฤศจิกายน
ส้มเป็นผลไม้ไม่กี่ชนิดที่จะออกผลในช่วงฤดูหนาว และฤดูหนาวของเซบิยาก็ไม่ได้หนาวรุนแรงเหมือนเมืองอื่น ๆ ทางตอนเหนือของยุโรป
และเมื่อส้มทั้งเมืองออกผลในช่วงเวลาไล่เลี่ยกัน
นั่นก็ทำให้เซบิยาเต็มไปด้วย “ส้มหล่น” กว่า 5.7 ล้านกิโลกรัม
ด้วยความที่ส้มเหล่านี้มีรสขม และไม่เป็นที่นิยมของชาวเมือง พื้นถนนและทางเท้าจึงเต็มไปด้วยส้มหล่นที่ไม่มีใครต้องการ
บางแห่งก็เจิ่งนองไปด้วยน้ำส้มที่แตกจากผล บางแห่งมีแมลงวันตอมและเริ่มส่งกลิ่นเหม็น มีผู้คนไม่น้อยที่เดินเหยียบส้มเหล่านี้จนเกิดอุบัติเหตุ จนกลายเป็นความวุ่นวายไปทั่วทั้งเมือง
ทางเทศบาลเมืองเซบิยาต้องใช้พนักงานกว่า 200 คน ทำการเก็บกวาดส้มตลอดทั้งเดือน ยังไม่นับรวมค่าใช้จ่ายในการกำจัดซากส้มหล่นมหาศาลที่ไม่มีใครต้องการเหล่านี้
“ส้มหล่น” สำหรับชาวเมืองเซบิยา นอกจากจะไม่ได้นำสิ่งดี ๆ เข้ามาแล้ว
ยังกลายเป็นปัญหาที่สร้างความกระอักกระอ่วนใจให้กับผู้คน และผู้บริหารในเมืองมานานแสนนาน จะตัดทิ้งก็ไม่ได้เพราะเป็นเหมือนต้นไม้ประจำเมือง จะกินก็ไม่ได้เพราะรสชาติไม่อร่อย
จึงนำมาสู่การคิดแก้ปัญหานี้อย่างจริงจัง ในปี 2020..
บริษัท Emasesa บริษัทบริหารจัดการน้ำของเทศบาลเมืองเซบิยา ได้คิดโครงการนำร่องเพื่อแก้ปัญหาส้มหล่น โดยได้ทดลองนำส้ม 35,000 กิโลกรัม ไปหมักบ่ม
การหมักบ่มทำให้เกิดแก๊สชีวภาพอย่างแก๊สมีเทน ที่สามารถนำไปผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้ในกระบวนการกรองน้ำให้บริสุทธิ์ ซึ่งก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี
Benigno Lopez ผู้บริหารฝ่ายสิ่งแวดล้อมของ Emasesa ได้เสนอให้มีแผนการต่อไป
คือการนำส้มทั้งหมดในเมืองมาหมักเพื่อให้เป็นพลังงานชีวมวล สำหรับใช้ผลิตไฟฟ้าให้กับระบบกรองน้ำของเมืองทั้งหมด
โดยทางเทศบาลอาจต้องลงทุนเพิ่มประมาณ 250,000 ยูโร หรือราว 10 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าพลังงานที่ได้ จะเหลือให้นำไปผลิตไฟฟ้าเพื่อแจกจ่ายให้ครัวเรือนในเมืองเซบิยาอีกด้วย
โดยส้ม 1,000 กิโลกรัม สามารถผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้งานเป็นระยะเวลา 1 วัน เพียงพอสำหรับ 5 ครัวเรือน
ซึ่งหากคำนวณส้มหล่นทั้งหมดในเมืองกว่า 5.7 ล้านกิโลกรัม ซึ่งรวมทั้งส้มที่ร่วงหล่นลงมาแล้วและยังไม่หล่น ก็จะสามารถผลิตไฟฟ้าให้ผู้คนในเมืองได้ไม่ต่ำกว่า 28,500 ครัวเรือน
ซึ่งคิดเป็นเกือบ 20% ของครัวเรือนในเขตเทศบาลเมืองเซบิยา
Juan Espadas Cejas นายกเทศมนตรีของเซบิยา ได้ให้คำสัญญาว่าจะผลักดันโครงการนี้อย่างเต็มที่ เพื่อให้ชาวเมืองเซบิยามีน้ำสะอาดสำหรับใช้อุปโภคบริโภค โดยใช้พลังงานสะอาดจากชีวมวล และต่อยอดไปสู่การสร้างเศรษฐกิจพึ่งพาตัวเอง และการแก้ไขปัญหาพลังงานและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน..
สเปนตั้งเป้าว่าจะเป็นประเทศที่ปล่อยคาร์บอนเป็น 0 หรือ Carbon Neutral ภายในปี 2050 หรืออีก 29 ปีข้างหน้า ซึ่งเป้าหมายแรก ๆ คือการผลิตไฟฟ้าทั้งหมด 100% จากพลังงานหมุนเวียน
ในปี 2020 พลังงานที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้าของสเปน มาจากพลังงานหมุนเวียน 43% โดยเป็นพลังงานลม 21% พลังงานน้ำ 12% พลังงานแสงอาทิตย์ 8% และชีวมวลราว 2%
การจัดการ “ส้มหล่น” ของเมืองเซบิยา อาจกลายเป็นจุดเริ่มต้นให้สเปน พัฒนากระบวนการผลิตไฟฟ้าจากชีวมวลในอนาคต เพื่อให้สามารถเติมเต็มเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมได้เร็วขึ้น
เรื่องราว “ส้มหล่น” อาจสร้างปัญหาให้กับชาวเมืองเซบิยามาเนิ่นนาน
แต่สำหรับอนาคตของพลังงานและสิ่งแวดล้อมแล้ว
เมืองเซบิยาก็อาจกำลังเจอ “ส้มหล่น” ที่ได้รับสิ่งดี ตามความหมายของสำนวนไทย ขึ้นมาจริง ๆ..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://atlas.cid.harvard.edu/explore?country=undefined&product=5282&year=2019&productClass=HS&target=Product&partner=undefined&startYear=undefined
-https://www.statista.com/statistics/743119/orange-production-volume-spain-by-region/
-https://www.worldstopexports.com/oranges-exports-by-country/
-https://globalshakers.com/how-a-city-in-spain-is-making-electricity-out-of-oranges/?fbclid=IwAR1yTR9FwkunabzT9Cbo1x3n0CI39-l795Kxw5vDIhVtDMpsEl_CK4zI4o4
-https://www.theguardian.com/environment/2021/feb/23/how-seville-is-turning-leftover-oranges-into-electricity?fbclid=IwAR3d4IPlyhtfZQpnQZp0LTxYLpSsPBN9xjgc8ZY_bKp7NnTGiKU1RSiCcfA
-https://ourworldindata.org/renewable-energy
-https://www.euractiv.com/section/circular-economy/news/spain-sets-2050-target-for-a-circular-carbon-neutral-economy/
同時也有2部Youtube影片,追蹤數超過2,810的網紅蔓蔓?蔓時尚 Slow Vashion,也在其Youtube影片中提到,以前讀大學和研究所時,都在服飾專櫃打工過,對於衣服材質的特性要略知一二,才能和客人解釋(自以為在寫104履歷🥺) 記得之前會回家科普櫃內的有機棉、聚酯纖維、天絲等等材質的外部環境成本,但當時遇到的客人普遍都比較在乎穿起來的舒適度😆 如今,社會上越來越多在意環保的人,而且呀,近幾年多了好多理念很棒的...
「energy statistics」的推薦目錄:
- 關於energy statistics 在 ลงทุนแมน Facebook 的最讚貼文
- 關於energy statistics 在 ลงทุนแมน Facebook 的最讚貼文
- 關於energy statistics 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
- 關於energy statistics 在 蔓蔓?蔓時尚 Slow Vashion Youtube 的最讚貼文
- 關於energy statistics 在 CarDebuts Youtube 的精選貼文
- 關於energy statistics 在 Online training 2: Fundamentals of Energy Statistics - YouTube 的評價
energy statistics 在 ลงทุนแมน Facebook 的最讚貼文
รู้จักเดนมาร์ก ผ่าน 10 บริษัท ที่ใหญ่สุดในประเทศ /โดย ลงทุนแมน
หากพูดถึง บริษัทที่ใหญ่ที่สุด หรือมีมูลค่าตลาดมากที่สุดของแต่ละประเทศ ก็พอจะบอกได้อย่างคร่าว ๆ ว่า ประเทศเหล่านั้นมีอุตสาหกรรมด้านไหนที่โดดเด่น
หรือให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมอะไรที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจต่อไปในอนาคต
ประเทศมหาอำนาจด้านเทคโนโลยีอย่างสหรัฐอเมริกา 10 บริษัทที่มีมูลค่าตลาดมากที่สุด เป็นบริษัทด้านอุตสาหกรรมไอทีถึง 6 บริษัท
โดยบริษัทที่มีมูลค่าตลาดมากที่สุด คือ Apple มีมูลค่ากว่า 73 ล้านล้านบาท และเป็นบริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในโลก
ประเทศฝรั่งเศส ที่คนทั้งโลกยอมรับในเรื่องคุณภาพสินค้าและความหรูหรา ทั้งเครื่องแต่งกาย เครื่องสำอาง และเครื่องประดับ 10 บริษัทที่มีมูลค่าตลาดมากที่สุดของฝรั่งเศส จึงเป็นบริษัทที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์หรูถึง 6 บริษัท โดยบริษัทที่มีมูลค่าตลาดมากที่สุด ก็คือ LVMH มีมูลค่ากว่า 12 ล้านล้านบาท
ส่วนเดนมาร์ก ประเทศเล็ก ๆ ทางตอนเหนือของทวีปยุโรป ซึ่งเป็นประเทศร่ำรวยระดับ Top 10 ของโลกมานานหลายทศวรรษ
สิ่งที่น่าสนใจก็คือ บริษัทที่มีมูลค่าตลาดมากที่สุดของประเทศนี้ ไม่ใช่บริษัทด้านไอที พลังงาน แบรนด์หรู หรืออุตสาหกรรมการผลิต แต่กลับเป็น “อุตสาหกรรมยา” ที่เป็น 1 ในปัจจัย 4 ที่สำคัญของชีวิตมนุษย์..
เดนมาร์กมีบริษัทยาอะไรที่มีมูลค่ามากที่สุด
และ 10 บริษัทที่ใหญ่ที่สุดของประเทศนี้ เกี่ยวข้องกับอะไรบ้าง ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
เดนมาร์กเป็นประเทศเล็ก ๆ ที่จัดอยู่ในกลุ่มประเทศสแกนดิเนเวีย ร่วมกับสวีเดนและนอร์เวย์
ในปี 2020 ชาวเดนมาร์ก 5.8 ล้านคน มี GDP ต่อหัวอยู่ที่ 1,890,000 บาทต่อปี
ความร่ำรวยของชาวเดนมาร์ก มีที่มาจากบริษัทน้อยใหญ่ ที่สามารถสร้างสินค้าคุณภาพสูงและขายได้ทั่วโลก โดยเฉพาะ 10 บริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดของเดนมาร์ก ที่ล้วนแต่เป็นบริษัทที่ขายสินค้าและบริการให้กับผู้คนทั้งโลก
ใน 10 บริษัทนั้นประกอบไปด้วย
บริษัทเบียร์ 1 บริษัท
ธนาคาร 1 บริษัท
บริษัทขนส่ง 2 บริษัท
บริษัทด้านพลังงาน 2 บริษัท
บริษัทยา เครื่องมือแพทย์ และไบโอเทคโนโลยี 4 บริษัท
เริ่มจากบริษัทเบียร์ 1 บริษัท คือ Carlsberg มีมูลค่าบริษัท 930,000 ล้านบาท
เบียร์สัญชาติเดนมาร์กที่คนทั้งโลกรู้จักนี้ ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 1847 หรือเมื่อ 174 ปีที่แล้ว
Carlsberg เป็นหนึ่งในผู้นำเบียร์ลาเกอร์ หรือเบียร์ที่ต้องเก็บรักษาไว้ในที่เย็น และหมักบ่มเป็นเวลาหลายเดือน
Carlsberg ยังเป็นบริษัทแรกที่คิดค้นยีสต์บริสุทธิ์ สายพันธุ์ Saccharomyces Pastorianus
ที่ใช้ในการหมักเบียร์มาตั้งแต่ปี 1883 ซึ่งยีสต์ดังกล่าวยังคงใช้เป็นหนึ่งในวัตถุดิบของเบียร์ลาเกอร์มาจนถึงปัจจุบัน
ธนาคาร 1 บริษัท คือ Danske Bank มีมูลค่าบริษัท 470,000 ล้านบาท
ธนาคารที่ก่อตั้งในกรุงโคเปนเฮเกน มาตั้งแต่ปี 1871 จุดประสงค์แรกเริ่มคือเพื่อให้เป็นธนาคารสำหรับเกษตรกร ปัจจุบัน Danske Bank คือธนาคารที่ใหญ่ที่สุดในประเทศเดนมาร์ก และให้บริการในหลายประเทศในยุโรป ทั้งสวีเดน นอร์เวย์ ฟินแลนด์ ลิทัวเนีย และไอร์แลนด์
กรุงโคเปนเฮเกนที่มีประชากรเพียง 1.8 ล้านคน ถูกจัดให้เป็นเมืองศูนย์กลางการเงินของภูมิภาคยุโรปเหนือ และเป็นศูนย์กลางการเงินอันดับที่ 34 ของโลก จากการจัดอันดับของ Long Finance
ซึ่งใกล้เคียงกับเมืองโอซากาของญี่ปุ่น และอันดับสูงกว่ากรุงเทพมหานครของไทย ที่อยู่ในอันดับ 59
บริษัทขนส่ง 2 บริษัท คือ Maersk และ DSV Panalpina
Maersk เจ้าแห่งเรือเดินสมุทรที่ใหญ่ที่สุดในโลก เป็นอันดับหนึ่งในการให้บริการขนส่งสินค้าทางเรือระหว่างประเทศ มีมูลค่าบริษัท 2,170,000 ล้านบาท
DSV Panalpina บริษัทด้านโลจิสติกส์ระดับโลก มีมูลค่าบริษัท 1,660,000 ล้านบาท
ให้บริการขนส่งทั้งทางบก ทางเรือ และทางอากาศ รวมถึงให้บริการระบบการจัดการห่วงโซ่อุปทาน และบริหารสินค้าคงคลังทั่วโลก
ชาวเดนมาร์กมีความเชี่ยวชาญในการเดินเรือมาตั้งแต่สมัยโบราณ เพราะได้รับสืบทอดมาจากบรรพบุรุษชาวไวกิง
เมื่อรวมกับทำเลที่ตั้งของเดนมาร์ก ซึ่งเป็นคาบสมุทรที่กั้นระหว่างทะเลเหนือทางตะวันตก กับทะเลบอลติกทางตะวันออก ประเทศที่ติดชายฝั่งทะเลบอลติก ไม่ว่าจะเป็นสวีเดน ฟินแลนด์ รัสเซีย หรือโปแลนด์
หากต้องการนำเข้าหรือส่งออกสินค้าจากโลกภายนอกก็ล้วนต้องผ่านเดนมาร์กทั้งสิ้น
เดนมาร์กจึงก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางการส่งสินค้าในภูมิภาคยุโรปเหนือ
โดยบริการด้านการขนส่ง มีสัดส่วนสูงถึง 25% ของการส่งออกสินค้าและบริการทั้งหมดของประเทศเดนมาร์ก
บริษัทพลังงาน 2 บริษัท คือ Ørsted และ Vestas Wind Systems ซึ่งล้วนแต่เป็นบริษัทที่เน้นการผลิตกังหันลม
เดนมาร์กเป็นประเทศที่มีการผลิตไฟฟ้ามาจากพลังงานลมเป็นหลัก คิดเป็นสัดส่วนถึง 56.3%
ข้อได้เปรียบก็มาจากทำเลที่ตั้งของเดนมาร์ก ซึ่งติดกับทะเลเหนือที่มีลมพัดแรง
ประกอบกับในช่วงวิกฤติน้ำมัน ราวทศวรรษ 1970s รัฐบาลเดนมาร์กต้องการลดการพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิล ทั้งเพื่อลดการนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศ และเพื่อพัฒนาคุณภาพของสิ่งแวดล้อม
รัฐบาลจึงได้สนับสนุนงบประมาณแก่ทีมวิศวกร ในการพัฒนากังหันลมแห่งแรกของประเทศตั้งแต่ปี 1979 และประสบความสำเร็จในการสร้างกังหันลมนอกชายฝั่งเพื่อผลิตไฟฟ้าแห่งแรกของโลกในอีก 12 ปีถัดมา
ปัจจุบัน เดนมาร์กกลายเป็นหนึ่งในประเทศที่ส่งออกเทคโนโลยีการผลิตไฟฟ้าจากกังหันลม รวมทั้งการผลิตอุปกรณ์สำหรับการผลิตไฟฟ้าจากกังหันลมรายใหญ่รายหนึ่งของโลก
มูลค่าบริษัทพลังงานลมทั้ง 2 บริษัท
Ørsted มีมูลค่าถึง 1,990,000 ล้านบาท
และ Vestas Wind Systems มีมูลค่า 1,270,000 ล้านบาท
และก็มาถึงภาคอุตสาหกรรมที่มีสัดส่วนมากที่สุดในบริษัท Top 10 ซึ่งก็คือ บริษัทยาและเทคโนโลยีทางการแพทย์ ที่มีถึง 4 บริษัท ได้แก่ Genmab, Coloplast, Novozymes และ Novo Nordisk
อุตสาหกรรมยา และเทคโนโลยีทางการแพทย์ เป็นภาคอุตสาหกรรมที่สำคัญที่สุดของเดนมาร์ก
ในปี 2020 เดนมาร์กส่งออกยารักษาโรค เป็นสินค้าส่งออกอันดับ 1
ด้วยมูลค่าการส่งออกกว่า 595,200 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนถึง 18% ของสินค้าส่งออกทั้งหมดของเดนมาร์ก
ส่วนอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์ เดนมาร์กส่งออกเป็นอันดับ 4 ด้วยมูลค่า 131,000 ล้านบาท
คิดเป็นสัดส่วน 4% ของสินค้าส่งออกทั้งหมด
Genmab เป็นบริษัทไบโอเทคโนโลยี ที่พัฒนายาชีวภาพสำหรับรักษาโรคมะเร็ง
มีมูลค่าบริษัท 860,000 ล้านบาท
Coloplast บริษัทอุปกรณ์การแพทย์ เน้นพัฒนาอุปกรณ์ที่เกี่ยวกับระบบทางเดินปัสสาวะ และระบบขับถ่าย เช่น ทวารเทียม (Ostomy Bag)
มีมูลค่าบริษัท 1,090,000 ล้านบาท
Novozymes บริษัทไบโอเทคโนโลยี เป็นผู้นำระดับโลกในการผลิตเอนไซม์ จุลินทรีย์ และชีวเภสัชภัณฑ์ที่ใช้ในทางอุตสาหกรรม
มีมูลค่าบริษัท 1,320,000 ล้านบาท
Novo Nordisk บริษัทยาที่มีผลิตภัณฑ์หลักคืออินซูลิน ฮอร์โมนที่ใช้สำหรับรักษาผู้ป่วยโรคเบาหวาน ครองส่วนแบ่งอันดับ 1 ของโลกในแง่ของมูลค่ายารักษาโรคเบาหวาน
มีนวัตกรรมเฉพาะทาง เช่น ปากกาอินซูลิน ที่หลากหลายและครอบคลุมในทุกระดับการรักษา
และจากจำนวนผู้ป่วยโรคเบาหวานทั่วโลกที่มีเพิ่มมากขึ้นทุกปี ก็เป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้บริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในประเทศเดนมาร์ก ก็คือ “Novo Nordisk” นั่นเอง
โดย Novo Nordisk มีมูลค่าบริษัทสูงถึง 6,100,000 ล้านบาท..
เดนมาร์กให้ความสำคัญกับการวิจัยและพัฒนา
โดยเฉพาะในด้านเภสัชกรรม และเทคโนโลยีทางการแพทย์
มีการจัดตั้ง Medicon Valley ชานกรุงโคเปนเฮเกน ตั้งแต่ปี 1997 ให้เป็นศูนย์รวมสถาบันวิจัยทางการแพทย์ โรงพยาบาล สำนักงานของบริษัทยาและไบโอเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของยุโรป
งบประมาณที่ใช้ในกระบวนการวิจัยและพัฒนาของเดนมาร์กอยู่ที่ 3.0% ต่อ GDP ในปี 2020
สูงเป็นอันดับ 6 ของโลก
จากการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันของแต่ละประเทศในปี 2021 โดย International Institute for Management Development
เดนมาร์กถูกจัดให้อยู่ในอันดับ 3 ของโลก โดดเด่นด้วยศักยภาพการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ที่เดนมาร์กให้ความสำคัญมาโดยตลอด โดยเฉพาะด้านการศึกษาที่ทั่วถึง ฟรี และมีคุณภาพ
ชาวเดนมาร์ก 5.8 ล้านคน จึงสามารถพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ สร้างบริษัทที่ขายสินค้าและบริการเฉพาะทางให้กับผู้คนได้ทั้งโลก
โดยใน 10 บริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดของเดนมาร์ก มีถึง 6 บริษัท ที่มีมูลค่าบริษัทมากกว่า 1,100,000 ล้านบาท ซึ่งเป็นมูลค่าที่เทียบเท่าได้กับมูลค่าบริษัท ปตท. บริษัทที่มีมูลค่ามากที่สุดในประเทศไทย
หากการสังเกตบริษัทชั้นนำ 10 บริษัทของแต่ละประเทศ เราก็สามารถบอกได้คร่าว ๆ ว่าประเทศเหล่านั้นมีความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมด้านไหน และให้ความสำคัญกับอุตสาหกรรมอะไรในอนาคต
สำหรับเดนมาร์ก คงบอกได้ว่า
ประเทศนี้สามารถรักษาความเชี่ยวชาญที่มีมานาน ทั้งการทำเบียร์ การธนาคาร และการขนส่ง
ควบคู่ไปกับการวางแผนพัฒนาพลังงานสะอาด และไบโอเทคโนโลยี
ซึ่งเป็นเทคโนโลยีแห่งโลกอนาคตได้อย่างลงตัว..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://companiesmarketcap.com/denmark/largest-companies-in-denmark-by-market-cap
-https://ourworldindata.org/renewable-energy
-https://novonordiskfonden.dk/en/about-the-foundation/history/
-https://www.longfinance.net/media/documents/GFCI_29_Full_Report_2021.03.17_v1.1.pdf
-https://atlas.cid.harvard.edu/explore?country=64&product=undefined&year=2018&productClass=HS&target=Product&partner=undefined&startYear=undefined
-https://companiesmarketcap.com/denmark/largest-companies-in-denmark-by-market-cap/
-https://www.worldstopexports.com/denmarks-top-10-exports/
-https://www.imd.org/centers/world-competitiveness-center/rankings/world-competitiveness/
-https://www.statista.com/statistics/732269/worldwide-research-and-development-share-of-gdp-top-countries/
energy statistics 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
ทำไม ซาอุดีอาระเบีย ถึงอยากเป็น "The Next Germany" /โดย ลงทุนแมน
ซาอุดีอาระเบียติด Top 10 ประเทศที่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มากที่สุดในโลก
ทั้งที่มีประชากรเพียง 34 ล้านคน อยู่ในอันดับ 41 ของโลก
ทำให้เมื่อหารเฉลี่ยต่อหัวแล้ว ชาวซาอุดีอาระเบียจะปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
สูงที่สุดเป็นอันดับ 1 ของโลก มากถึงปีละ 18.5 ตันต่อคน มากกว่าชาวเยอรมันถึง 2 เท่า
การปล่อยก๊าซที่เป็นผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมมาอย่างยาวนาน
ทำให้ประเทศเศรษฐีน้ำมันแห่งนี้ ต้องการเปลี่ยนแปลงตัวเองครั้งใหญ่
โดยมุ่งหน้าสู่การเป็นผู้ผลิตพลังงานหมุนเวียนชั้นนำของโลก
การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ ไม่เพียงแต่ต้องการที่จะลดการสร้างมลพิษต่อสิ่งแวดล้อมเท่านั้น
แต่เป้าหมายของซาอุดีอาระเบียคือการเป็นผู้ส่งออกพลังงานหมุนเวียน
โดยประเทศที่ซาอุดีอาระเบียอาศัยเป็นต้นแบบด้านพลังงานหมุนเวียนก็คือ ประเทศเยอรมนี
ถึงขนาดผู้นำประเทศประกาศว่า เป้าหมายของซาอุดีอาระเบีย
คือการเป็น “The Next Germany”
เรื่องนี้มีความน่าสนใจอย่างไร ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ซาอุดีอาระเบียเป็นประเทศที่มีปริมาณสำรองน้ำมันดิบกว่า 267,026 ล้านบาร์เรล
มากเป็นอันดับ 2 ของโลก ทำให้น้ำมันเป็นสินค้าส่งออกสำคัญของซาอุดีอาระเบีย
กว่าร้อยละ 80 ของสินค้าส่งออกทั้งหมด
น้ำมันที่มีอยู่อย่างเหลือเฟือยังถูกนำมาใช้ในประเทศ ทั้งการขนส่ง และการผลิตกระแสไฟฟ้า
ซาอุดีอาระเบียผลิตไฟฟ้าจากน้ำมันเป็นสัดส่วนถึง 42% ของการผลิตไฟฟ้าทั้งหมด
ซึ่งเป็นไม่กี่ประเทศที่ผลิตไฟฟ้าจากน้ำมันในสัดส่วนสูงขนาดนี้
นอกจากน้ำมัน แหล่งพลังงานที่สำคัญในการผลิตไฟฟ้าของประเทศนี้ ก็คือก๊าซธรรมชาติอีกราว ๆ 57.8%
เท่ากับว่า การผลิตไฟฟ้าในประเทศซาอุดีอาระเบีย จะมาจากเชื้อเพลิงฟอสซิลเกือบ 100%
ซึ่งแน่นอนว่า เป็นการสร้างปัญหามลภาวะในอากาศ โดยเฉพาะการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมาในระหว่างกระบวนการผลิต
พอเรื่องเป็นแบบนี้ ซาอุดีอาระเบียจึงต้องการเปลี่ยนแปลงมาใช้พลังงานหมุนเวียน
และพลังงานสะอาดเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า ซึ่งยังรวมไปถึงการส่งออกพลังงานดังกล่าวเพื่อสร้างรายได้มาชดเชยรายได้จากการส่งออกน้ำมันที่ในอนาคตมีแนวโน้มที่จะลดลง
และประเทศซึ่งเป็นต้นแบบของพลังงานหมุนเวียนและพลังงานสะอาดที่ประสบความสำเร็จ
จนซาอุดีอาระเบียต้องการจะเดินรอยตาม จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก “เยอรมนี”
เรื่องนี้ถึงขนาดทำให้ เจ้าชายมูฮัมมัด บิน ซัลมาน มกุฎราชกุมารของซาอุดีอาระเบียถึงกับกล่าวว่า “ประเทศเราจะเป็นเหมือนกับเยอรมนี เมื่อพูดถึงการใช้พลังงานหมุนเวียน”
รู้ไหมว่า เยอรมนีเป็นประเทศอันดับต้น ๆ ของโลก ที่เชี่ยวชาญการใช้พลังงานหมุนเวียนหลากหลายประเภทเพื่อการผลิตไฟฟ้า ซึ่งนับเป็นเวลากว่า 30 ปีแล้ว ที่สัดส่วนการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานหมุนเวียนของเยอรมนีเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
ปี 1990 สัดส่วนการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานหมุนเวียน 3%
ปี 2005 สัดส่วนการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานหมุนเวียน 10%
ปี 2020 สัดส่วนการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานหมุนเวียน 45%
ถือได้ว่า พลังงานไฟฟ้าที่ใช้ในเยอรมนีในวันนี้ เกือบครึ่งมาจากพลังงานหมุนเวียน
และยังมาจากหลายแหล่ง ไม่ว่าจะเป็นพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม ชีวมวล และโรงไฟฟ้าพลังน้ำ
เยอรมนีเป็นประเทศที่ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์มากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก โดยในปี 2020 มีกำลังการผลิตไฟฟ้าจากแผงโซลาร์เซลล์กว่า 51 เทระวัตต์-ชั่วโมง (TWh)
สูงเป็นอันดับ 5 ของโลก และเป็นอันดับ 1 ในยุโรป
และยังเป็นประเทศที่มีกำลังการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมสูงถึง 134.5 เทระวัตต์-ชั่วโมง (TWh) สูงเป็นอันดับ 3 ของโลก และเป็นอันดับ 1 ในยุโรป
ที่น่าสนใจคือ ภายในปี 2050 รัฐบาลเยอรมันตั้งเป้าไว้ว่า
การผลิตไฟฟ้าภายในประเทศจะมาจากพลังงานหมุนเวียนทั้งหมด 100%
ความสำเร็จของอุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียนของเยอรมนี ล้วนเกิดจากการวางแผนที่ดี
การสนับสนุนและลงมือทำอย่างจริงจัง รวมไปถึงความร่วมมือกันระหว่างทั้งภาครัฐและเอกชน จนทำให้เยอรมนีได้รับการยอมรับจากหลายประเทศ ว่าเป็นหนึ่งในประเทศต้นแบบในด้านพลังงานหมุนเวียนที่หลายประเทศต้องการเดินรอยตาม ซึ่งรวมไปถึงซาอุดีอาระเบีย
สำหรับซาอุดีอาระเบียปี 2018 นั้น การผลิตไฟฟ้าในประเทศมาจากพลังงานหมุนเวียน
น้อยกว่า 1% ของแหล่งพลังงานทั้งหมด
พอเรื่องเป็นแบบนี้ จึงทำให้ซาอุดีอาระเบียตั้งเป้าที่จะผลิตไฟฟ้าด้วยการใช้แหล่งพลังงานหมุนเวียนให้ได้ 50% ภายในปี 2030
แต่การเพิ่มสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนให้ไปถึงสัดส่วนดังกล่าว
นอกจากการศึกษากระบวนการทำงานของประเทศต้นแบบที่ประสบความสำเร็จแล้ว ซาอุดีอาระเบียจำเป็นต้องใช้เงินลงทุนจำนวนมหาศาล
รัฐบาลของซาอุดีอาระเบียตั้งเป้าหมายว่า ในช่วงระหว่างปี 2020-2023
ซาอุดีอาระเบียจะลงทุนในโครงการพลังงานหมุนเวียนไม่ต่ำกว่า 1.5 ล้านล้านบาท
ปัจจุบันซาอุดีอาระเบียได้ก่อสร้างโครงการพลังงานลมที่ชื่อว่า The Dumat Al Jandal
ซึ่งเป็นโครงการพลังงานลมที่ใหญ่ที่สุดในภูมิภาคตะวันออกกลาง
นอกจากนี้ รัฐบาลของซาอุดีอาระเบียยังวางแผนที่จะพัฒนาโครงการ Green Hydrogen ซึ่งนับเป็นโรงงานผลิตไฮโดรเจนสะอาดที่ใหญ่ที่สุดในโลก ซึ่งโครงการนี้มีมูลค่าโครงการสูงกว่า 2.1 แสนล้านบาท
Green Hydrogen นั้นเป็นการผลิตไฮโดรเจนโดยการแยกน้ำด้วยไฟฟ้า ที่ไม่มีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ออกมา และก๊าซไฮโดรเจนที่ได้จะถูกนำไปผ่านเซลล์เชื้อเพลิงเพื่อเป็นแหล่งพลังงานในการผลิตกระแสไฟฟ้าต่อไป ซึ่งรัฐบาลของซาอุดีอาระเบียวางแผนที่จะส่งออกไฮโดรเจนสะอาดไปขายยังตลาดโลกอีกด้วย
ซึ่งการลงทุนดังกล่าวนั้น นับเป็นหนึ่งในแผนภายใต้ Vision 2030 ที่เป็นนโยบายหนึ่งของการพัฒนาซาอุดีอาระเบียไปสู่ยุคสมัยใหม่ ที่ต้องการลดการพึ่งพาน้ำมัน
เรื่องนี้เป็นกรณีศึกษาที่น่าสนใจ จากประเทศที่มีรายได้จากการส่งออกน้ำมันในปี 2019
กว่า 6 ล้านล้านบาท เป็นหนึ่งในประเทศที่มั่งคั่งที่สุดของโลก
แต่เมื่อแนวโน้มความต้องการใช้น้ำมันซึ่งเป็นสินค้าส่งออกหลักของประเทศเริ่มลดลงเรื่อย ๆ
ซาอุดีอาระเบียก็ต้องปรับตัวให้ทันตามกระแสโลก
และที่สำคัญคือ การกระจายความเสี่ยง ไม่ให้พึ่งพาพลังงานใดพลังงานหนึ่งมากเกินไป..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://en.wikipedia.org/wiki/Energy_in_Saudi_Arabia#:~:text=Electricity%20generation%20is%2040%25%20from,to%20120%20GW%20by%202032
-http://www.nst.or.th/powerplant/pp04.html
-https://www.arabnews.com/node/1801291/business-economy
-https://ourworldindata.org/renewable-energy
-https://www.cleanenergywire.org/factsheets/solar-power-germany-output-business-perspectives
-https://en.wikipedia.org/wiki/Solar_power_by_country
-https://www.ucsusa.org/resources/each-countrys-share-co2-emission
-https://energy.economictimes.indiatimes.com/news/renewable/worlds-top-10-countries-in-wind-energy-capacity/68465090#:~:text=China%20has%20a%20installed%20capacity,larger%20than%20its%20nearest%20rival.&text=The%20US%20comes%20second%20with%2096.4%20GW%20of%20installed%20capacity.
-https://sustainabledevelopment.un.org/index.php?page=view&type=99&nr=24&menu=1449#:~:text=Supply%20by%202050-,Germany%20has%20promised%20to%20transform%20its%20electricity%20supply%20to%20100,by%202050%20from%201990%20levels
-https://www.rechargenews.com/energy-transition/we-will-be-pioneering-saudi-arabia-reveals-50-renewables-goal-by-2030-but-is-that-realistic-/2-1-954094
-https://www.greentechmedia.com/articles/read/us-firm-unveils-worlds-largest-green-hydrogen-project#:~:text=Energy-,World%27s%20Largest%20Green%20Hydrogen%20Project%20Unveiled%20in%20Saudi%20Arabia,gigawatts%20of%20Saudi%20renewable%20electricity.&text=Massive%20green%20hydrogen%20facility%20would,Neom%20%22smart%20city%22%20project
-https://www.ammoniaenergy.org/articles/saudi-arabia-to-export-renewable-energy-using-green-ammonia/#:~:text=Last%20week%2C%20Air%20Products%2C%20ACWA,to%20be%20operational%20by%202025.
-https://www.statista.com/statistics/223231/opec-net-oil-export-revenue-streams-by-country/#:~:text=Saudi%20Arabia%20is%20the%20largest,Iraq%27s%2087%20billion%20U.S.%20dollars
energy statistics 在 蔓蔓?蔓時尚 Slow Vashion Youtube 的最讚貼文
以前讀大學和研究所時,都在服飾專櫃打工過,對於衣服材質的特性要略知一二,才能和客人解釋(自以為在寫104履歷🥺)
記得之前會回家科普櫃內的有機棉、聚酯纖維、天絲等等材質的外部環境成本,但當時遇到的客人普遍都比較在乎穿起來的舒適度😆
如今,社會上越來越多在意環保的人,而且呀,近幾年多了好多理念很棒的永續品牌。最近看到某新品牌Veg and things在他們的的Ins帳號分享的限動,在每個小細節都燒腦研究以降低對環境的傷害,覺得超級感動。
看見那麼努力的大家,於是我也鼓起勇氣把這些東西做成影片,希望對大家有幫助啦!🥰
(影片中提到關於快時尚的庫存浪費,可以參考這篇文章:https://www.google.com.tw/amp/s/www.thenewslens.com/amparticle/94586 )
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
任意門🚪
00:00 讓大家傻眼的衣服污染數據
01:17 聚酯纖維的微塑膠污染
02:44 棉花「環保」嗎?
03:11 有機棉真的比棉花「環保」嗎?
05:00 看似環保的羊毛
05:38 蠶絲是怎麼來的?
06:07 環境友善的作物:麻
07:21 名字看起來很化學的嫘縈:天絲/萊塞爾/莫代爾
08:43 合成纖維的機能性才好?
08:59 關於寶特瓶回收衣
09:20 永續材質小Tips
12:04 使用永續材質的衣服品牌
🌱veg. & Things https://www.vegandthings.com
🌱冶綠 https://wildgreen.tw
🌱Hempable https://www.zeczec.com/projects/Hempable
🌱和諧生活 https://www.harmonylife.com.tw/categories/2020春夏設計師新品
🌱SiSSO https://www.sisso.com.tw/products/babyclothes/
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
📷Instagram: @slow_vashion
🔗https://www.instagram.com/slow_vashion/
👩🏻Facebook: 蔓時尚 Slow Vashion
🔗https://www.facebook.com/slow.vashion/
▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬▬
[1] 環保署109年統計年報
https://www.epa.gov.tw/Page/4CE99E90109C419B
[2] 《為什麼你該花更多的錢,買更少的衣服?拯救地球,也拯救你衣櫃的新購衣哲學》 Lucy Siegle, 2015
[3] Athalye, A.Carbon footprint in textile processing, 2012
http://images.fibre2fashion.com/ArticleResources/PdfFiles/60/5965.pdf
[4] Catherine, SalfinoStudies Show Performance Activewear Could be Harming Your Health, Sourcing Journal, 2017
https://sourcingjournal.com
[5] Frequency of Microplastics in Mesopelagic Fishes from the Northwest Atlantic
A. M. Wieczorek, L. Morrison1, P. L. Croot, A. L. Allcock, E. MacLoughlin, O. Savard4, H. Brownlow, T. K. Doyle Front. Mar. Sci., 2018
https://www.frontiersin.org/articles/10.3389/fmars.2018.00039/full
[6] A New California Bill Would Require Labe, Arthur Friedmanl 2018.2.26
https://leginfo.legislature.ca.gov/faces/billTextClient.xhtml?bill_id=201720180AB2379
[7] Carbon footprint of three different textile products during its life cycle Jungmichel, N., The Carbon Footprint of Textiles, Systain Consulting, Berlin, Germany, 2010.
https://www.researchgate.net/publication/276193965_Carbon_Footprint_of_Textile_and_Clothing_Products (last accessed: Sep. 5 2020)
[8] 環境資訊中心 邪惡的白T Shirt
https://e-info.org.tw/node/20857
[9] Nations, U. Statistics: Graphs and Statistics. 2013, from UN
[10] Jungmichel, N., The Carbon Footprint of Textiles, Systain Consulting, Berlin, Germany, 2010.
[11] Textile Exchange, 2018
[12] A.Barber, G. Pellow. Life Cycle Assessment: New Zealand Merino. Industry – Merino Wool Total Energy Use and Carbon Dioxide.
[13] 羊毛的製程
https://www.peta.org/issues/animals-used-for-clothing/wool-industry/
[14] Is silk vegan?
https://www.peta.org/blog/is-silk-vegan/
[15] How sustainable is linen
https://goodonyou.eco/how-sustainable-is-linen/
[16] 夏日穿這最防曬
https://health.tvbs.com.tw/regimen/318013
[17] 天絲、萊賽爾、木代爾、嫘縈有什麼不同?
https://oghome.com.tw/tencel-level/
[18] Rayon Man Made Fiber: Spinning-methods
https://www.brainkart.com/article/Rayon---Man-Made-Fiber---Spinning-methods,-Manufacturing,-Properties_1767/
[19] Bernie Thomas, Matt Fishwick, James Joyce, A Carbon Footprint for UK Clothing and Opportunities for Savings, Anton van Santen Environmental ResourcesManagement Limited (ERM)
[20] 紡織品資訊應用知識服務網 全球有機棉生產飆升56% http://monitor.textiles.org.tw/newsdetail.aspx?id=32992
energy statistics 在 CarDebuts Youtube 的精選貼文
? คลิปรถใหม่ 2019-2020 มาแล้วครับ คลิกที่นี่ https://www.youtube.com/channel/UCSebcviE-UeYMxVRNozwqtw/videos
2018 Isuzu D-MAX 1.9 & 3.0 Ddi BluePower debut in Thailand & prices
THE ULTIMATE EXTERIOR
The Ultimate Exterior is a testament to Isuzu’s advanced design capability that has transformed its visual appearance into the ultimate exterior for the Isuzu pickup once again. Under the Sharp/ Aggressive/ Solid design concept which uses continuous lines displaying power, aggression, sporty, style to deliver futuristic results that complements the newly designed front grille. And yet another industry first for the pickup industry…New! The newly designed Bi-LED headlamps featuring advanced illumination technology for 63% more brightness and less energy consumption along with Multifunctional Daylight for improved illumination during daytime while working as dimmer lights at night time; the new headlamp has a 4-level adjustable feature to reflect the innovative capability of the pickup of the future in the truest sense.
THE ULTIMATE INTERIOR
Prepare to experience the Ultimate Interior that features the perfect interior cabin area that will deliver the ultimate driving experience with new functions and features which are more user-friendly and will elevate a new level of luxury and a futuristic appearance in every dimension thanks to its abundant space and ambience beyond others.
THE ULTIMATE ENTERTAINMENT
Featuring more advanced functions with the ultimate Entertainment system for a most pleasant journey to every destination. An experience like no other, unique, comfortable for a lifestyle that is beyond others.
• New! Isuzu iConnect with Built-in Navigator for every journey transformed into a simple pleasurable experience with an 8-inch monitor display that is modern and user-friendly, fast response, and the Air Mirroring system that provides wireless connectivity with your smart phone (only for models that accommodates the technology) via the Wi-Fi Dongle and can be used for CD/DVD/MP3/WMA/AAC and USB along with smart phone and compatible with MP3 or Flash Drive in addition to connectivity with phone system and Blue Tooth audio function for listening to music.
You will experience the Ultimate Technology in intelligent drive innovation through the “Isuzu Insight”…the one and only technology by Isuzu that has been developed into a new application capable of downloading Isuzu Insight driving data via the Isuzu iConnect system through Bluetooth which accommodates both iOS and Android technology for the most efficient driving experience, safety and fuel efficiency.
THE ULTIMATE POWER
The Ultimate Power by one of the automotive industry’s most important innovations in engine technology that will change the world! A Diesel engine which displaces 1,900 cc is by far the first of its kind in the world. This advanced diesel technology was developed under the “The Power of Less” concept in order to achieve a new industry standard that surpassed previous statistics, possessed excellent performance levels, delivered superb fuel efficiency, durability at its best and is environment-friendly by showing low CO2 ratings of 161 grams/kilometer – the lowest rating of any vehicle in its class. Adding impeccable credibility to its quality is its EURO 6 standard.
The “New! Isuzu D-Max Blue Power” is available in the following models:
• The ultimate innovation in the guise of the “Isuzu 1.9 Ddi Blue Power” 1,900 cc engine has received overwhelming market response and Thai motorists which was achieved mainly in part to its superb performance takes to its 150 hp and maximum torque of 350 Nm for the best performance levels of all aspects in its class.
• And another alternative for an exciting ride that needs a lot of power is the “Isuzu 3.0 Ddi Blue Power” 3,000 cc 177 hp with maximum torque of 380 Nm.
• The ultimate power train innovation highlighted by a 6-speed transmission with 2 Overdrive ratios at the 5th and 6th gears available in both the manual and automatic transmission models; both models have transmission systems that were designed specifically to transfer every aspect of the abundant power delivered by the power source of the Isuzu 1.9 Ddi Blue Power on to actual daily usage at its optimal efficiency. The Isuzu 5-speed Manual model is capable of power with the efficiency for every type of job requirement in the Isuzu 3.0 Ddi Blue Power with the Genius Sport Shift display feature which tells the driver the position of the gear ratio and also tells the driver to change gears at the optimal engine revolution and vehicle speed for enhanced efficiency and fuel savings.
“New! Isuzu D-Max 1.9 and 3.0 Ddi Blue Power” is offered in many model selections to meet various types of job requirements, available in 8 body colors consisting of 3 brand new colors made up of Etna Red, Zermatt Silver and Polynesian Blue.
energy statistics 在 Online training 2: Fundamentals of Energy Statistics - YouTube 的推薦與評價
This is a short introduction to energy statistics in general and at the IEA in particular. We also explore the fundamentals of energy ... ... <看更多>