ผมบินไปอเมริกาพร้อมครอบครัวด้วยความหวังที่เหือดแห้งและเลือนลาง ผมคิดว่านี่อาจะเป็นทางออกที่หลอกตัวเองไปอย่างแกนๆ อีกครั้ง ว่าผม จะสามารถกลับมาแต่งเพลงโดยใช้หัวใจไม่ใช่หัวสมองได้หมือนชุดแรกที่เคยทำมา
นักดนตรีครบวงและห้องอัดได้ถูกจองไว้วันละ 2 คิว(คิวละ8ชั่วโมง) ติดต่อกัน2เดือน ทันทีที่ผมมาถึงแอลเอ เพื่อกดดันตัวเองให้หลุดออกมาจากการแต่งเพลงแบบใช้สูตรสำเร็จอย่างที่ผมใช้มาตลอดในช่วงสามปีหลัง
อาทิตย์แรกผ่านไปอย่างไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอันนัก David Vasquez เพื่อนรักและอาจารย์ผมก็ปลอบใจว่า ผมคงยัง jetlag อยู่ เดี๋ยวผ่านไปสักพักก็คงดีขึ้น อาทิตย์ต่อมาผมก็ได้เพลงสูตรๆ ออกมาอีกเป็นจำนวนมาก ผมก็ยังใช้คำปลอบใจเดิมๆ ของเพื่อนรัก ในการที่จะเดินหน้าต่อแบบหลอกตัวเองว่าเมื่อร่างกายพักฟื้นเต็นที่น่าจะมีความหวังที่จะกลับมาได้ เพราะสภาพแวดล้อมทั้งหมดรวมทั้งกลุ่มนักดนตรีที่มาแจมกับผมเพื่อแต่งเพลงออกมาก็แสตนด์บาย อย่างที่ผมชอบหมดแล้ว
แต่มันไม่เป็นเช่นนั้นเลย เพลงแล้วเพลงเล่าที่แต่งออกมา ผมรู้ในใจดีว่ามันคือสมองล้วนๆ ไม่ได้มาจากหัวใจเลยสักนิด ผมนับรายจ่ายที่จ่ายออกไป จากค่าห้องอัด ค่านักดนตรี ค่ากินอยู่ ค่าที่พัก และค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นมันค่อยๆ ลดงบประมาณของอัลบั้มนี้ลงเรื่อยๆ โดยที่ไม่ได้มีผลงานเพลงไหนที่พอให้มองเป็นประกายแสงไฟที่ปลายอุโมงค์ได้เลย
ผมรู้สึกกดดันมากเมื่อมันเข้ามาถึงปลายอาทิตย์ที่สาม ตุ้ยเริ่มถามว่าผมมีอะไรในใจหรือเปล่า เพราะเขาคงเห็นสีหน้าที่เครียดมากของผม
David Vasquez เริ่มบอกให้ผมพักและให้ยกเลิกคิวห้องอัดและนักดนตรีไปก่อนเพราะเห็นว่าผมเครียดอย่างมาก จากสิ่งที่เกิดขึ้น และแนะนำให้ผมพาครอบครัวไปเที่ยวแทน แล้วค่อยกลับมาทำงานสักอาทิตย์นึงก็ยังได้ ช่างน่ารักต่อผมมาก แต่ผมก็รู้ดีว่ากลับมาผมก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดีนั่นแหละ
Dave เพื่อนรักได้มอบไบเบิ้ลให้ผมก่อนกลับบ้านจากห้องอัดในวันนั้นแล้วเขาบอกให้ผมลองอธิษฐานกับพระเจ้าดูว่าพระเจ้าจะคุยอย่างไรกับผมในเวลาทีเต็มไปด้วยความเครียดนี้
สถานะการณ์ความรู้สึกของผมขณะนั้นมีความเครียดดังต่อไปนี้
1) พ่อแม่และคุณยายเริ่มป่วยและแก่ขึ้น ผมกังวลมากเลยว่าจะต้องเสียพวกเขาไป
2) ธุรกิจของ bakery music ยังไม่ฟื้นหลังจากวิกฤตต้มยำกุ้ง ค่าใช้จ่ายก็เพิ่มมากขึ้นในขณะที่รายได้เริ่มลดลงมาก
3) การแต่งเพลงจากหัวใจของผมที่เคยรู้สึกเหมือนมีเทวดามาประทานให้ตลอด ในตอนนั้นเหลือแต่เพลงหัวสมองล้วนๆ ซึ่งผมรู้สึกว่ามันช่างน่าอับอายใจทุกครั้งที่มีแฟนๆชมถึงเพลงที่ไม่ได้มาจากหัวใจนั้น
4) สำคัญมากคือไม่อยากให้ครอบครัวผมคือตุ้ย และดีใจต้องมารับรู้ความกังวลเหล่านี้ทั้งหมดของผม
และรายละเอียดอีกมากมายที่ยุบยิบ จนเหมือนใจผมแบกอะไรที่หนักเกินกำลังไว้ทุกวันอย่างฝืนยิ้ม และหลอกทุกคนว่าผมสบายดีไม่ต้องห่วง ซึ่งแท้ที่จริงแล้ว มีหลายครั้งมากที่ผมเริ่มอยากจะคิดสั้นเพื่อหนีปัญหาที่กำลังเผชิญอยู่
คืนนั้น หลังจากที่ผมลองอธิฐานหาพระเจ้าที่ผมไม่รู้ว่ามีอยู่จริงไหม และขอให้พระเจ้าตอบผมด้วยการอ่านไบเบิ้ลเพียงครั้งเดียว เพื่อที่จะได้มาบอกเพื่อนรักของผมได้ว่าลองทำตามที่แนะนำหมดแล้ว
ตีสามของคืนที่ 23 กุมภา 2002 ลอสแองเจลลิส
ผมลุกขึ้นมากจากเตียงและเข้าห้องน้ำเพื่อที่จะอ่านไบเบิ้ลเผื่อว่าจะมีคำตอบให้ผมจริงๆอย่างที่เพื่อนรักบอก
ผมอธิษฐานประมาณว่า Dear God in heaven, i'm desperately needed you to guide me now. If you are for real, please make me believe in you as soon as I turn the bible. (ตอนนั้นลืมไปว่าพูดกับพระเจ้าภาษาไทยก็ได้) และทันทีทีผมพลิกหน้าหนังสือไบเบิ้ลที่ผมเชือครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ผมไปเปิดเอาที่ หน้า Trust in the Lord with all your heart and lean not on your own understanding. In all your ways acknowledge Him, and He will make your path straight. — Proverbs 3:5. สำหรับผมนะเวลานั้น นี่คือพระเจ้ากำลังคุยอยู่หรือเทวดาอะไรสักอย่างแน่ๆ
มันช่างตรงกับความอยากที่จะเข้าใจในพระเจ้าก่อนที่จะข้ามไปเชื่อเฉยๆ สำหรับผมมาก
บางอย่างในใจผมคิดว่าหรือเมื่อกี้ฟลุ้ค? ผมก็ลองคำถามอื่นๆ ที่กำลังกังวลและคิดอยูอีกเช่นพ่อแม่คุณยายผม จะอยู่ได้นานไหมและผมควรเตรียมตัวเช่นไร แล้วก็เปิดมั่วๆ พลันสายตาไปพบประโยคที่ว่า Seek the Kingdom of God above all else, and live righteously, and he will give you everything you need. Mathew 6:33
ผมอึ้งและชะงักงันกับคำตอบที่ได้รับ ผมรู้แล้วล่ะว่าต้องมีใครเบื้องบนที่อยู่เหนือกว่าผมและกำลังตั้งใจคุยกับผมอยู่ผ่านไบเบิ้ลเล่มนี้
จากนั้นผมเริ่มถามคำถามเล็กใหญ่จนถึงพูดคุยท้าทายแบบตลกๆ กันในห้องน้ำจนบางครั้งผมก็หัวเราะเสียงดังมากสำหรับคำตอบที่ได้รับ
30 วันต่อจากนั้น ผมลุกขึ้นมาคุยกับพระเจ้าที่ผมเพิ่งรู้จักในห้องน้ำ ผ่านไบเบิ้ลเล่มที่ Dave ให้ผมมา
เช้าวันที่ผมได้คุยกับพระเจ้าผ่านไบเบิ้ลเป็นคืนแรก
ที่ความรู้สึกแบกที่มีอยู่มันถูกยกออกไปหมดสิ้น จะเป็นพระเจ้าหรือไม่ผมก็ไม่รู้ แต่ผมรู้สึกว่าเราไม่ได้แบกเรื่องราวต่างๆ นี้ ตามลำพัง เรามีบางอย่างที่อยู่เหนือเราและมองเห็นมุมมองที่กว้างกว่าเรามาคอยช่วยแนะนำทางอยู่ ความรู้สึกเคว้งคว้างอ้างว้างที่ต้องเก็บความกังวลทุกอย่างไว้ในใจคนเดียวถูกยกหายไปหมดอย่างไม่น่าเชื่อ
และด้วยคำจากไบเบิ้ลที่ว่า
I planted the seed, Apollos watered it, but God has been making it grow. So neither the one who plants nor the one who waters is anything, but only God, who makes things grow. The one who plants and the one who waters have one purpose, and they will each be rewarded according to their own labor. For we are co-workers in God’s service; you are God’s field, God’s building.
1 Corinthians 3:6-9 NIV
https://bible.com/bible/111/1co.3.6-9.NIV
สำหรับผมแล้วข้อความนี้ช่างยิ่งใหญ่เหลือเกิน นั่นหมายถึงว่า ผมแค่ทำทุกอย่างให้ดีที่สุดตามความสามารถที่มีแล้วงานหรือชีวิตจะสำเร็จหรือไม่สำเร็จไม่ได้ขึ้นอยู่กับผม แต่ขึ้นอยู่กับพระเจ้าหรือใครก็ตามที่ผมกำลังคุยอยู่ผ่านไบเบิ้ลเล่มนี้
วันรุ่งขึ้นผมไปห้องอัดเพื่อทำงานอย่างสบายใจมากที่ความรู้สึกหนักๆ ที่เคยแบกอยู่นั้นได้ถูกยกหายไปหมดแล้ว!
ขณะที่ผมกำลังแต่งเพลงอย่างมีความสุขมากอีกครั้งกับ Dave และนักดนตรีท่านอื่นๆ โทรศัพท์ทางไกลจากเมืองไทยโดยผู้ที่อยู่ปลายสายคือ สุกี้เพื่อนรักของผมพูดด้วยเสียงที่เศร้ามากที่สุดที่ผมเคยได้ยินมาจากเขา "บอย โจ้ตายแล้ว ยิงตัวตายในลิฟท์" ผมที่กำลังเพลิดเพลินอยูกับการแต่งเพลงถึงกับเข่าทรุดลงไปนั่งที่พื้น โจ้เป็นน้องที่น่ารักและใสซื่อ แต่เปี่ยมไปด้วยความสามารถและความถ่อมตัว ภาพแห่งความอ่อนโยนของโจ้ผุดขึ้นมาในสมองผมเต็มไปหมด หลังจากวางโทรศัพท์จากสุกี้แล้ว ผมเล่าเรื่องนี้ให้ Dave และนักดนตรีท่านอื่นได้ฟัง
บรรยากาศที่สนุกสนานได้พลิกกลายเป็นความหดหู่อย่างบอกไม่ถูก ทั้งๆ ที่คนอื่นนอกจากผมไม่ได้รู้จักโจ้เลยแต่พวกเขาก็รับรู้ได้ถึงความรู้สึกที่สูญเสียเพื่อนร่วมโลกที่แสนจะน่ารักไปอย่างไม่มีวันกลับได้
Dave เล่นเปียโนขึ้นมามั่วๆ ระหว่างที่ทุกคนกำลังหดหู่อยู่นั้น (ซึ่งต่อมาเป็น intro ของเพลงใคร) ผมที่อยู่ใกล้ไมโครโฟน จึงฮัมทำนองเพลงนี้ออกมา(ซึ่งก็คือเพลงใครในเวลาต่อมา) ความรู้สึกในความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ ผสมกับความรู้สึกของคนท้องผูกมานานมากแล้วระบายได้อย่างคล่องแคล่ว จึงถูกนำมาผสมกัน อย่างไม่น่าจะลงตัวได้ แต่ก็ลงตัวกันเหมือกับความหวานและความขม
เมื่อแต่งทำนองเสร็จผมจึงแต่งเนื้อทันทีและพูดถึงโจ้ว่า วันหนึ่งเราจะได้พบกันในอีกด้านนึงของโลก
Someday i'll meet you on the other side
#MWTLPt1 #MWTLLIVE2019 #BOYd50th #LOVEiSEntertainment
同時也有1部Youtube影片,追蹤數超過86萬的網紅Joseph Prince,也在其Youtube影片中提到,Are you overwhelmed by worry? Has anxiety become a familiar, yet unwelcome, companion? Watch this to find out why your heart can still be at rest in t...
「niv bible」的推薦目錄:
niv bible 在 Apple Hong 洪乙心 Facebook 的最佳貼文
Stand and See
“Moses answered the people, ‘Do not be afraid. Stand firm and you will see the deliverance the LORD will bring you today…the LORD will fight for you; you need only to be still.'”
(Exodus 14:13-14, NIV)
In the Bible, when the people of Israel came out of slavery and were headed toward the Promise Land, they were so happy to finally be free! But then Pharaoh changed his mind about letting them go and came chasing after them. They came to a dead end at the Red Sea and things looked impossible. Instead of staying in faith and focusing on the fact that God had delivered them before, the Israelites got upset, fearful and started complaining, “Moses, why did you bring us out here to die?” Moses replied, “Stand still and you will see the deliverance of the Lord.” He went on to say, “The Lord will fight for you if you will hold your peace and remain at rest.” The Lord was faithful to His Word and delivered them again.
Moses knew he had to get the people out of that negative mentality or they would be defeated, and the same is true for you. You may be in a storm of life, but don’t let that storm get in you. Instead, set your focus on God because He is faithful, and He will fight your battles. Stay calm and remain in peace today because God is going to deliver you and lead you into your promise land!
A PRAYER FOR TODAY
“Father, thank You for Your goodness and faithfulness in my life. Help me keep my heart and mind focused on You. No matter what storm I may be facing, I trust that You are working behind the scenes and ordering my steps to the promise land You have for me in Jesus’ name. Amen.“
- Joel & Victoria Osteen -
niv bible 在 Sam Tsang 曾思瀚 Facebook 的最佳解答
A new FB page by one of my former preaching students at HKBTS. Yes, we do care about biblical studies, exegesis and ethics. That's what we teach them at least.
巴別的故事-待神為神,在於「名」
(一)
創世記的巴別塔事件,是一個為人熟識的聖經故事。筆者在成長過程中得知,巴別塔的故事是講及人類驕傲和背叛上帝,結果受到上帝詛咒,使人類分散。[1] 猶太傳統相信人類不願「分散在全地上」(創11:4)而建造高達於天的塔,違返「生養眾多,遍滿地面」(創1:28)的誡命,因而受到耶和華神的介入和阻止。[2] 若然我們接納這觀點,上帝變亂口音、使人分散在全地上,就變成幫助人類、成就耶和華神誡命的行動,是一個撥亂反正的工作。這故事不應是詛咒的故事,但這卻又與巴別(בָּבֶל)一貫負面的理解產生了一個予盾的解讀。那麼,我們應該怎去理解巴別塔的故事?其中一個較多人忽略的地方,是巴別塔故事的上文下理,與巴別塔故事核心的關係。因此,筆者將首先討論有關巴別塔故事的上文下理,繼而透過其文學結構來了解故事的核心,最後才分析兩者間的關係。
(二)
了解上文下理,似乎是一種老新常談。然而,了解上文下理的箇中關係,有助我們進入編修者的敍事世界,嘗試明白編修者選材的原因。首先,當我們仔細閱讀創世記第十章,十章5、20和31節,我們不難發現,挪亞的三個兒子,閃、含和雅弗的後裔已經「各隨其方言及地土」。換句話說,人類已開始有不同的語言,並分散居住。明顯,編修者並非按時序,將巴別塔的故事寫下來,而是將巴別塔故事放置在十章之後。第二,巴別塔的故事是一個沒有記錄任何名字的故事,[3] 但卻被放置在挪亞與閃這兩個充滿名字的家譜之中(創10:1-32;11:10-26)格格不入,若我們將整個巴別塔的故事從創世記十一章拿走,經文脈絡更顯得完整流暢。第三,有學者將創世記的結構分為兩大部份,一至十一章,和十二至五十章。[4] 這方法雖然好像能夠將巴別塔的故事,與十二章耶和華神呼召亞伯蘭的故事分割開來,但事實上,編修者已在十一章末段開始引介亞伯蘭(創11:27-32),並記載了「撒萊不生育,沒有孩子」,突顯耶和華神的主權及對亞伯拉罕的揀選。另一方面,十二章是以敍述式動詞(waw consecutive imperfect)「他說」(וַיֹּאמֶר)開始,這希伯來文文法表示,十一章的內容跟十二章是相連的。因此,亞伯拉罕被耶和華神呼召的故事,應從十一章末段開始。將十一章跟十二章分割實為不恰當。
(三)
那麼,閱讀巴別塔故事的恰當範圍應是怎樣?筆者借助Mark A. Awabdy的一個研究。Awabdy在JSOT發表了一篇有關將巴別塔故事與亞伯蘭呼召的故事作對照閱讀的文章。[5] 他指出,創世記其中一個很重要的元素為「後代」(תּוֹלְדֹת,ESV和NASB翻譯為generations,NIV則翻譯成family line)所建構的家譜。不同家譜形成既連貫(continuity)又中斷(discontinuity)的敍事。Awabdy指出,巴別塔的故事中提及「為自己立名(שֵׁם)」,與之後所連接家譜的袓宗閃(שֵׁם)同一字根,和耶和華神祝福阿伯蘭擁有偉大的名(שְׁמֶךָ)是同一字根。[6] 與此同時,將巴別塔與亞伯蘭故事連接、閃的家譜是以垂直結構寫成,與挪亞家譜的橫向結構有所不同。[7] 因此,閃的家譜既是挪亞家譜的延伸、接連亞伯蘭的故事,卻以不同的寫作手法,呈現之間差異的存在。因此筆者估計,巴別塔故事置放在挪亞與閃的家譜中,是作為對挪亞時期的人類,至耶和華神呼召亞伯蘭之間的一個轉折的故事,帶出兩者之間的差異。
(四)
另外我們需要討論的,是有關巴別塔故事的結構。學術界對此大致有兩種看法。第一種是交叉結構(chiasmus),以「耶和華降臨,要看(וַיִּרֵד יְהוָה לִרְאֹת)」(創10:5上)為整個故事的中心點。第二種是平衡結構,十一章1-4節與十一章6-9節平衡。[8] 雖然兩種結構並不相同,但它們均突顯耶和華神如何介入,並扭轉巴別塔故事的發展。更為重要的是,透過這兩種結構分析,「耶和華降臨」(創11:5)這行動成為了整個敍事情節中的轉捩點及故事的核心。故事重點從耶和華神分散人類(創11:9),轉而至耶和華降臨,對我們理解巴別塔故事有甚麼幫助?我們必須掌握巴別塔的歷史背景。大部份學者均相信,其歷史背景約為古代美索不達米亞烏爾第三王朝(Third Dynasty of Ur)時期。[9] 巴別塔故事中所提及的塔,就是當時人類作供奉神明的廟宇(ziggurat)。這廟宇建築成塔型,塔身可有60米長、45米闊,及30米高,其功用是將分開了的天和地連接起來,讓神明得以藉此來到人間,居在其中。[10] John H. Walton進一步討論廟宇的社會功用,廟宇的建造與城市化往往連上關係。Walton指出,當時人為要達至聚居而非分散,人要建立城市。建立城市則需要政府體制。古代美索不達米的政府體制,被視為神明的展現。[11] 換句話說,一個城市和政府體制得以建立,標記著神明來到人間。要達至神明來到人間,廟宇就得以被建造。[12] 換句話說,在美索不達米亞中,人類將神明降為像人類一樣的層次。[13] 諷刺的是,在巴別塔的故事中,人類的名字沒有一個被記下來,耶和華不用人類所建成的塔而降臨顯明,[14] 祂甚至使人類分散,而非聚居。因此,耶和華神所處理的問題,「為自己立名」背後的核心原因,或許就是人類將耶和華神降次為人類思想和行動。
(五)
這會否是洪水事件後人類的光景?若是這樣,就筆者而言,這比挪亞時期「人在地上罪大惡極」的光景更為恐怖,因為人類明明的犯罪,總比人類自以為敬拜神,卻是將神降貶至如人類一般。若我們從這裡出發,來閱讀亞伯蘭被呼召的故事,其重點不再在於亞伯蘭有何等大的信心,順服回應耶和華神的呼召,仍在於神親見恢復與人恰當的關係。將亞伯蘭被呼召的故事,與巴別塔的故事作對比,我們會發現一些對立的場景。
人類遷移並聚居在那裡 - 神呼召亞伯蘭離開本地
人類決定建造城市和塔 - 神使亞伯蘭成為大國
人類為自己立名 - 神叫亞伯蘭的名為大
尤有甚者,亞伯蘭根本沒有能力使自己成為大國,因「撒萊不生育,沒有孩子」(創11:30)。兩個故事的對照,我們看到耶和華神扭轉整個局面。在巴別塔的故事中,人類藉可見的宗教行動,立自己的名,將神降貶如人;在呼召亞伯蘭的故事中,神在亞伯蘭一生中也沒法看見的情況下,應許他的名為大,重新恢愎與人類的恰當關係。神終歸是神,我們怎樣看待神與我們的關係,在人類追求可見的名,或是一生默默服事上帝中,顯而易見。
[1] 早期教父亦有類近的說法,詳參Andrew Louth, Genesis 1-11, Ancient christian Commentary on Scripture: Old Testament, vol 1, 167-168.
[2] Jeffrey S. Rogers, “Babel, Tower of,” in Eerdmans Dictionary of the Bible, ed. David Noel Freedman (Grand Rapids: William b. Eerdmans Publishing Company, 2000)
[3] 在整個巴別塔的故事中,作者或編修者沒有留下任何一個人類的名字。故事的起首,作者或編修者只用了代名詞「他們」(陽性眾數),來表達他們往東邊遷移。
[4] 這分類方法建基於第一部份所涵蓋的時間是不可衡量,其歷史背景亦較第二部份難以決定。
[5] Mark A. Awabdy. “Babel, Suspense, and the Introduction to the Terah-Abram Narrative.” JSOT 35.1 (2010): 3-29.
[6] 亦參BDB, ‘שׁם’.
[7] Awabdy, “Babel, Suspense, and the Introduction to the Terah-Abram Narrative,” 8, 12.
[8] Awabdy, “Babel, Suspense, and the Introduction to the Terah-Abram Narrative,” 20-21.
[9] 如有Gordon J. Wenham, Genesis, WBC, 237; Walter Brueggemann, Genesis, Interpretation, 98; T. Desmond Alexander, David W. Baker ed., Dictionary of the Old Testament: Pentateuch, The IVP Bible dictionary Series, 73.
[10] 有關巴別塔歷史背景的討論,可參Dale S. De Witt. “The Historical Background of Genesis 11:1-9: Babel or Ur.” JETS 22/1 (March, 1979):15-26.
[11] John H. Walton, “The Mesopotamian Background of the Tower of Babel Account and its Implications,” BBR 5 (1995): 167.
[12] Walton指出,在古代美索不達米的神觀中,神明只能以表達其功用的形像存在於地上,如君王的形像;詳參John H. Walton, Ancient Near Eastern Though and the Old Testament: Introducing the Conceptual World of the Hebrew Bible (Grand Rapids, Baker Academic, 2006), 89.
[13] Walton, “The Mesopotamian Background of the Tower of Babel Account and its Implications,” 169.
[14] HALOT, ‘ירד’.
niv bible 在 Joseph Prince Youtube 的最讚貼文
Are you overwhelmed by worry? Has anxiety become a familiar, yet unwelcome, companion? Watch this to find out why your heart can still be at rest in the midst of life’s challenges. You have a God who is your refuge and strength, an ever-present help in trouble. (Psalm 46:1, NIV)
-----
Decibel.one: A digital magazine and online channel by Joseph Prince Ministries. Check us out at https://decibel.one/ for more grace-centered content.
Stay Connected –
Decibel Website: https://decibel.one/
Decibel Facebook: https://www.facebook.com/dcbl.one/
Decibel Instagram: https://www.instagram.com/decibel.one/
#decibelone #decibel #JosephPrince
niv bible 在 NIV Bible by Biblica and Zondervan Staff (2015, Hardcover) 的推薦與評價
Apr 2, 2019 - Find many great new & used options and get the best deals for NIV Economy Bible by Biblica and Zondervan Staff (2015, Hardcover) at the best ... ... <看更多>
niv bible 在 NIV Bible - Home | Facebook 的推薦與評價
NIV Bible. 331215 likes · 7048 talking about this. Welcome to the official home of the New International Version (NIV) on Facebook. The NIV is the... ... <看更多>