หุ้นกลุ่มเดินเรือ กำลังกลับมาร้อนแรง /โดย ลงทุนแมน
ถ้าถามว่า นับจากต้นปีมานี้ หุ้นกลุ่มไหนที่ปรับตัวขึ้นมาอย่างร้อนแรงบ้าง
หนึ่งในนั้นน่าจะมีหุ้นกลุ่มเดินเรือรวมอยู่ด้วย
อุตสาหกรรมเดินเรือ ดูเหมือนจะเป็นอีกธุรกิจหนึ่ง
ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด 19 ในช่วงแรก ๆ
แต่เวลาผ่านไปไม่นาน ทำไมหุ้นกลุ่มนี้ จึงกลับมาร้อนแรงอีกครั้ง ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่านและนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ก่อนอื่นเรามาดูกันก่อนว่า ตั้งแต่ต้นปี 2021
หุ้นกลุ่มเดินเรือรายใหญ่ในตลาดหุ้นไทย 3 ตัว มีมูลค่าบริษัทปรับเพิ่มขึ้นมาเท่าไร
1. บริษัท อาร์ ซี แอล จำกัด (มหาชน) หรือ RCL มูลค่าบริษัท เพิ่มขึ้นประมาณ 61%
2. บริษัท พรีเชียส ชิพปิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือหุ้น PSL มูลค่าบริษัท เพิ่มขึ้นประมาณ 47%
3. บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TTA มูลค่าบริษัท เพิ่มขึ้นประมาณ 36%
ซึ่งหุ้นทั้ง 3 ตัว ปรับตัวขึ้นมากกว่าตลาดหุ้นไทยที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาประมาณ 9%
ที่เป็นแบบนี้ ส่วนหนึ่งก็เนื่องมาจาก
นักลงทุนกำลังคาดหวังว่า รายได้ของบริษัทเดินเรือเหล่านี้กำลังจะเติบโตมากขึ้นในอนาคต
โดยรายได้ของบริษัทเดินเรือนั้น หลัก ๆ คือมาจาก
“ค่าระวางเรือ (Ocean Freight Charges)” หรือค่าขนส่งสินค้าไปทางเรือ ซึ่งจะคิดคำนวณจากรายละเอียดการขนส่ง เช่น ระยะทางการขนส่ง ประเภทของสินค้า น้ำหนักของสินค้า
และปัจจุบัน หุ้นกลุ่มเดินเรือในตลาดหุ้นไทยนั้น มีอยู่ 2 กลุ่มหลัก ๆ คือ
1. กลุ่มเดินเรือเทกอง หมายถึง เรือที่ขนสินค้าครั้งละมาก ๆ โดยไม่มีภาชนะบรรจุสินค้า
ซึ่งสินค้าพวกนี้ ก็อย่างเช่น แร่เหล็ก ถ่านหิน สินค้าเกษตร ซึ่งหุ้นที่อยู่ในกลุ่มนี้คือ หุ้น TTA และ PSL
โดยหุ้นกลุ่มนี้ มีดัชนีค่าระวางเรือที่เกี่ยวข้องก็คือ BDI (Baltic Dry Index)
2. กลุ่มเดินเรือที่ขนส่งสินค้าโดยบรรจุอยู่ในตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งหุ้นที่อยู่ในกลุ่มนื้คือ หุ้น RCL
โดยจะมีดัชนีค่าระวางเรือที่เกี่ยวข้อง คือ CCFI (China Containerized Freight Index) และ SCFI (Shanghai Containerized Freight Index)
หลายปีก่อนหน้านี้ อุตสาหกรรมขนส่งสินค้าทางเรือนั้นค่อนข้างซบเซา
เนื่องจากภาวะ Oversupply หรือปริมาณเรือในอุตสาหกรรมที่มีมากเกินไป ในช่วงปี 2551-2559
ภาวะอุตสาหกรรมที่ไม่สู้ดีนักมาหลายปี ยังถูกซ้ำเติมด้วยสงครามการค้าระหว่างจีนและสหรัฐอเมริกาในปี 2561
พอเรื่องเป็นแบบนี้ จึงส่งผลต่อห่วงโซ่อุปทานการค้าทั่วโลกอย่างหนัก และส่งผลกระทบอย่างหนักต่อหุ้นกลุ่มเดินเรืออย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
พอสงครามการค้าเริ่มจะเบาบางลงไป อุตสาหกรรมเดินเรือขนส่งสินค้าทำท่าจะกลับมาฟื้นตัว ก็ดันมาเกิดการแพร่ระบาดของโควิด 19 ตั้งแต่ปลายปี 2562 อีก จนสร้างฝันร้ายให้แก่ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมเดินเรือขนส่งสินค้า และแน่นอนว่าคนที่ลงทุนในหุ้นกลุ่มเดินเรือด้วย
แม้ว่า ผลกระทบจากโควิด 19 ทำให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยทั่วโลก
การปิดเมือง ส่งผลโดยตรงต่อความต้องการขนส่งสินค้าทางเรือ
แต่อีกด้านหนึ่ง เรื่องนี้ก็ทำให้เกิดปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ เนื่องจากมีตู้คอนเทนเนอร์ จำนวนมากที่ยังคงตกค้างอยู่ในสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป
นอกจากนี้ การชะลอตัวของอุตสาหกรรมในช่วงหลายปีก่อนหน้า
ประกอบกับการที่สถาบันการเงินหลายแห่งไม่ปล่อยกู้ให้แก่บริษัทเดินเรือ เพื่อนำไปต่อเรือใหม่ ก็ส่งผลให้อุปทานของเรือใหม่ ๆ ในอุตสาหกรรมลดลงตามไปด้วย
แต่นับตั้งแต่ครึ่งปีหลังของปี 2563 เศรษฐกิจโลกก็เริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัว
ประกอบกับการมาของวัคซีนป้องกันโควิด 19
ทำให้อุปสงค์ในการขนส่งสินค้าเริ่มกลับมาเพิ่มมากขึ้นอีกครั้ง
เมื่อความต้องการขนส่งสินค้าเพิ่มมากขึ้น
ขณะที่อุปทานเรือสำหรับขนส่งยังมีจำกัด และยังพ่วงด้วยปัญหาการขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้
พอเรื่องเป็นแบบนี้ จึงทำให้บริษัทเดินเรือ มีอำนาจในการต่อรองราคากับลูกค้า ในเรื่องของการเก็บค่าระวางสำหรับการส่งสินค้าให้เพิ่มสูงขึ้น
ซึ่งเรื่องนี้ได้สะท้อนออกมาผ่านดัชนี ที่สะท้อนราคาค่าระวางประเภทต่าง ๆ
ลองมาดูการปรับตัวของดัชนี BDI ดัชนี CCFI และ ดัชนี SCFI ในช่วงที่ผ่านมา
ณ สิ้นปี 2562
- ดัชนี BDI อยู่ที่ 976 จุด
- ดัชนี CCFI อยู่ที่ 879 จุด
- ดัชนี SCFI อยู่ที่ 959 จุด
ณ สิ้นปี 2563
- ดัชนี BDI อยู่ที่ 1,366 จุด
- ดัชนี CCFI อยู่ที่ 1,659 จุด
- ดัชนี SCFI อยู่ที่ 2,783 จุด
ดัชนี BDI ปรับขึ้นมา 40% ดัชนี CCFI ปรับขึ้นมา 89% และดัชนี SCFI ปรับขึ้นมา 190%
และเรื่องนี้จึงทำให้นักลงทุนเริ่มเพ่งความสนใจมายังหุ้นกลุ่มเดินเรือกันมากขึ้น
ส่งผลให้ราคาหุ้นของบริษัทเดินเรือเหล่านี้ ปรับตัวขึ้นอย่างร้อนแรงในช่วงที่ผ่านมา
เพราะคาดว่า ผลประกอบการของหุ้นกลุ่มนี้จะดีขึ้นมากในอนาคต
อย่างไรก็ตาม หุ้นกลุ่มเดินเรือนั้น มักถูกมองว่าเป็นหุ้นวัฏจักร (Cycle Stock) เนื่องจากผลประกอบการที่มักจะขึ้น ลงเป็นรอบ ๆ ซึ่งรอบหนึ่งบางครั้งก็อาจใช้เวลาเป็นสิบปี
ที่เป็นแบบนี้ เนื่องจากช่วงเวลาที่ดัชนีค่าระวางเรือสูง หมายถึง ช่วงที่อุตสาหกรรมเดินเรือส่งสินค้า กำลังเฟื่องฟู ความต้องการขนส่งสินค้าเพิ่มขึ้นอย่างมาก
เมื่อความต้องการขนส่งทางทะเลเพิ่มขึ้นมาก
บริษัทหลายแห่งในอุตสาหกรรม ก็มักจะส่งคำสั่งให้มีการสร้างเรือขนส่งสินค้ากันมาก
และเนื่องจากระยะเวลาก่อสร้างเรือนั้นใกล้เคียงกัน จึงทำให้มีเรือขนส่งสินค้าออกมาจำนวนมาก และนำไปสู่ภาวะ Oversupply ได้ จนสุดท้าย ก็จะทำให้ดัชนีค่าระวางเรือนั้น ค่อย ๆ ลดลงอีกครั้ง
เมื่อดัชนีค่าระวางเรือลดลง หลายบริษัทก็ต้องประสบกับภาวะขาดทุน เพราะรายได้เข้ามาไม่คุ้มต้นทุนที่เสีย
จนบางบริษัทต้องออกจากอุตสาหกรรมไป ปริมาณเรือที่ใช้ขนส่งในอุตสาหกรรมนี้ก็จะลดลงอีกครั้ง
และเมื่อมีความต้องการขนส่งสินค้าเพิ่มสูงขึ้นอีกครั้ง ปริมาณเรือที่น้อย จึงดันให้ดัชนีค่าระวางเรือเพิ่มสูงอีกครั้ง จนนำไปสู่การสร้างเรือใหม่ วนเวียนแบบนี้เรื่อย ๆ เป็นวัฏจักร
อีกหนึ่งประเด็นที่ลืมไม่ได้ก็คือ ความผันผวนของราคาน้ำมันที่เป็นสินค้าโภคภัณฑ์
ซึ่งนับเป็น ต้นทุนหลัก ของบริษัทเดินเรือ
ช่วงที่ราคาน้ำมันต่ำลง ต้นทุนของบริษัทเดินเรือก็จะลดลงจนทำให้บริษัทอาจมีกำไรเพิ่มขึ้นมาก แม้ว่าปริมาณการขนส่งสินค้าอาจจะลดลง
ในทางกลับกันช่วงที่ราคาน้ำมันเพิ่มขึ้น บริษัทเดินเรืออาจขาดทุน แม้ว่าปริมาณการขนส่งสินค้าอาจจะเพิ่มขึ้นก็ตาม
ดังนั้น การลงทุนในหุ้นกลุ่มเดินเรือที่มีลักษณะเป็นหุ้นวัฏจักร และมีปัจจัยเรื่องความผันผวนของต้นทุน อย่างเช่น ราคาน้ำมัน เราจึงควรต้องทำความเข้าใจภาพรวมของอุตสาหกรรม และปัจจัยความผันผวนเหล่านี้ให้ดี
เพราะถ้าเราเข้าไปลงทุนได้ถูกจังหวะเวลา เราก็สามารถทำกำไรจากการลงทุนได้
แต่ในทางกลับกัน ถ้าเราเข้าไปลงทุนผิดจังหวะ มันก็อาจเป็นฝันร้ายของเราได้ เช่นกัน..
หมายเหตุ: บทความนี้ไม่ได้มีเจตนาชี้นำให้ซื้อหรือขายหุ้นเหล่านี้ การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วนก่อนการตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่านและนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-รายงานประจำปี 2562, บริษัท พรีเชียส ชิพปิ้ง จำกัด (มหาชน),บริษัท อาร์ ซี แอล จำกัด (มหาชน) และบริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน)
-คำอธิบายและวิเคราะห์ของฝ่ายจัดการ ประจำปี สิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค. 2562-2563, บริษัท พรีเชียส ชิพปิ้ง จำกัด (มหาชน), บริษัท อาร์ ซี แอล จำกัด (มหาชน) และบริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน)
-https://en.macromicro.me/charts/947/commodity-ccfi-scfi
-https://www.investidea.in.th/2012/12/blog-post_24.html
-https://www.stock2morrow.com/discuss/room/1/topic/25733
rcl stock 在 雷司紀的小道投資 Facebook 的精選貼文
【疫情受災股復甦了?】
上週五,個股普遍都有不錯的漲幅,
反倒是前幾大科技股繼續盤整下跌,連帶把大盤指數帶了下來。
-
大致而言,
除了科技股以外,在原物料、能源、金融和工業等板塊都有不錯的表現,
顯示出這些由權重科技股流出的資金,或許是流向上述這些類股當中了。
-
另外值得一提的是,
許多疫情受災股也都在上週五出現比較明顯的漲幅,甚至是突破。
像是,
郵輪類股:
嘉年華郵輪 (CCL) 上漲 7.43%、皇家加勒比郵輪 (RCL) 上漲 4.99%。
航空股:
美國航空 (AAL) 上漲 5.48%
達美航空 (DAL) 上漲 2.91%
聯合大陸航空 (UAL) 上漲 6.83%
酒店:
萬豪酒店 (MAR) 上漲 3.26%
希爾頓酒店 (HLT) 上漲 2.44%
影城:
喜滿客影城 (CNK) 上漲 3.9%
-
想追這些「疫情受災股」的朋友建議還是要分配好部位,
畢竟股價最後還是要回歸基本面的。
目前持有科技股的朋友也不用太過擔心,
雖然短期上仍有可能繼續回檔,但這些大型科技股都還是有業績支撐的,讓時間來證明一切就好。
-
投資美股你也可以選擇 FTX
「用加密貨幣買美股:FTX 股權通證及代幣化股票」
💪https://www.rayskyinvest.com/22935/ftx-tokenized-stock-intro
【用最低 0.01單位購買美股,免除 5%手續費】
💪https://ftx.com/#a=rayskyFB
-
【加入Telegram 與 Line 群】
LINE:漫談美股群(美股、ETF交流)
💪 https://rayskyinvest.org.in/Line漫談美股群
LINE:漫談加密貨幣討論群
👉 https://rayskyinvest.org.in/漫談加密貨幣LINE群
TG:漫談美股吃鮪魚
👉 https://t.me/joinchat/L9lTJRvlVybefGlNDHDd3w
TG:雷司紀小道投資免費訂閱
👉 https://t.me/rayskyinvestment
rcl stock 在 Royal Caribbean Stock Analysis - $RCL - YouTube 的推薦與評價
Invest now or Wait: https://youtu.be/Ea5BEfJOnfYIn this video, we look at Royal Caribbean, to see if it's worth ... ... <看更多>