เศรษฐีรวยสุดในเอเชีย มีน้องชาย เป็นบุคคลล้มละลาย ได้อย่างไร ? /โดย ลงทุนแมน
หลายคนอาจจะยังไม่รู้ว่า Mukesh Ambani เจ้าของ Reliance Industries กลุ่มธุรกิจที่ใหญ่สุดในอินเดียและเป็นมหาเศรษฐีที่รวยที่สุดในเอเชีย มีน้องชายชื่อ Anil Ambani
สำหรับน้องชายของมหาเศรษฐีคนนี้ ก็เป็นเจ้าของธุรกิจที่แยกตัวออกมาจาก Reliance Industries ของพี่ชาย มีชื่อบริษัทว่า Reliance ADA Group
ในปี 2008 Mukesh Ambani มีทรัพย์สิน 1.4 ล้านล้านบาท รวยเป็นอันดับ 5 ของโลก
ในขณะที่ Anil Ambani ตามมาติด ๆ ด้วยทรัพย์สิน 1.37 ล้านล้านบาท และรวยเป็นอันดับ 6 ของโลก
โดยในปีนั้น เศรษฐี 4 อันดับแรกของโลก ได้แก่ วอร์เรน บัฟเฟตต์ (อเมริกัน), คาร์ลอส สลิม (เม็กซิโก),
บิลล์ เกตส์ (อเมริกัน) และลักษมี นิวาส มิตตัล (อินเดีย)
หลังจากผ่านไป 13 ปี Mukesh Ambani มีทรัพย์สินเพิ่มขึ้นเป็น 3 ล้านล้านบาท
กลายมาเป็นมหาเศรษฐีรวยสุดในอินเดียและเอเชีย และรวยเป็นอันดับ 10 ของโลก
แต่ในปี 2019 Ambani คนน้องกลับมีทรัพย์สิน เพียง 5.6 หมื่นล้านบาท
จนล่าสุด มีหลายคนกล่าวว่าความมั่งคั่งตอนนี้ของ Ambani คนน้อง ลดลงจนเกือบเป็นศูนย์
แล้วมันเกิดอะไรขึ้นกับน้องชาย ของคนที่รวยสุดในเอเชีย ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ย้อนกลับไปในปี 1948 หรือเมื่อ 73 ปีก่อน ชายชาวอินเดียวัย 16 ปี
ที่ชื่อ Dhirubhai Ambani ได้ตัดสินใจเดินทางออกจากบ้านเกิดไปทำงานที่ประเทศเยเมน
ผ่านไป 10 ปี Dhirubhai กลับมาที่อินเดียพร้อมกับเงินเก็บ เพื่อมาเริ่มสร้างธุรกิจเอง
Dhirubhai เริ่มจากการนำเข้าเส้นใยสังเคราะห์และส่งออกเครื่องเทศ ก่อนจะเริ่มทำธุรกิจสิ่งทอ ซึ่งก็เติบโตอย่างรวดเร็ว จน Dhirubhai ได้ขยายกิจการไปในอุตสาหกรรมอื่น และเปลี่ยนมาใช้ชื่อบริษัทว่า “Reliance Industries” ในปี 1973
Reliance Industries สามารถ IPO ได้ในปี 1977 ซึ่งหุ้นของบริษัทก็มีชาวอินเดียสนใจลงทุนเป็นจำนวนมาก ถึงขนาดเคยจัดประชุมผู้ถือหุ้นที่สเตเดียม
ตั้งแต่ที่กิจการเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว Dhirubhai ก็เริ่มให้ลูกชายทั้ง 2 คนของเขา เข้ามาช่วยบริหารงานที่บริษัท
Mukesh Ambani ลูกชายคนโต เป็นประธาน
Anil Ambani ลูกชายคนรอง เป็นกรรมการผู้จัดการ
แต่แล้วในปี 2002 Dhirubhai ได้เสียชีวิตลงและได้ทิ้งกิจการ Reliance Industries ไว้กับลูกชายทั้ง 2 คน
Dhirubhai ที่จากโลกนี้ไปไม่ได้ทำพินัยกรรมและข้อตกลงแบ่งกิจการให้กับลูกแต่ละคนไว้ ซึ่งเขาก็คงไม่คิดว่า จะเกิดปัญหาตามมา
โดยปัญหาที่ว่านั้นเริ่มเกิดขึ้นเพราะลูกชายทั้ง 2 คน ที่เริ่มเข้าทำงานและมีบทบาทในบริษัทมาพร้อม ๆ กัน
กลับตกลงกันไม่ได้ว่าใครจะเป็นเจ้าของและใครจะดูแลและรับผิดชอบบริษัทไหนบ้าง
สุดท้ายแล้ว ในช่วงปี 2004 ถึง 2005 ผู้เป็นแม่ต้องเข้ามาช่วยแก้ปัญหา
โดยการจ้างบุคคลที่ 3 ให้เข้ามาจัดการเรื่องการแยกบริษัทออกจากกันไปเลย
Mukesh Ambani คนพี่ได้ธุรกิจหลักคือปิโตรเลียม ซึ่งเขามีบทบาทสำคัญในการขยายกิจการในส่วนนี้มาตั้งแต่แรก และยังได้ธุรกิจอื่น ๆ อย่างเช่นปิโตรเคมี ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นธุรกิจยุคเก่า โดยกลุ่มบริษัทของ Mukesh ใช้ชื่อว่า Reliance Industries
Anil Ambani คนน้องได้ธุรกิจหลักคือ Reliance Communications ธุรกิจโทรคมนาคมที่เพิ่งเริ่มกิจการได้ไม่นาน แต่ก็กลายเป็นบริษัทเทเลคอมที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ในอินเดีย ซึ่งแม้ว่า Mukesh จะมีบทบาทสำคัญมาตั้งแต่ต้น แต่ Anil ก็อยากได้ธุรกิจนี้เช่นกัน
นอกจากธุรกิจเทเลคอมแล้ว กิจการอื่นที่ Anil Ambani ได้รับไปดูแลอีกก็อย่างเช่น ธุรกิจพลังงาน และบริการทางการเงิน ซึ่งส่วนมากจะเป็นธุรกิจยุคใหม่ โดยกลุ่มธุรกิจของ Anil Ambani ใช้ชื่อว่า “Reliance ADA Group”
หลังจากจบเรื่องการแบ่งธุรกิจแล้ว แต่ละคนก็เริ่มต่อยอดธุรกิจตามเส้นทางของตัวเอง ยกตัวอย่างเช่น
Mukesh Ambani เริ่มทำธุรกิจค้าปลีกในปี 2006 จน Reliance Retail กลายมาเป็นธุรกิจค้าปลีกที่ใหญ่สุดในอินเดีย
ในขณะที่ Anil Ambani ก็ได้ต่อยอดทำธุรกิจบันเทิง อย่างเช่นในปี 2005 ได้ซื้อบริษัท Adlabs Films ที่เป็นเจ้าของโรงภาพยนตร์ Big Cinemas ซึ่งกลายมาเป็นโรงภาพยนตร์ที่มีสาขามากสุดในอินเดียในอีก 3 ปีถัดมา
ในปี 2008 Reliance Entertainment ของ Anil Ambani ก็ได้เซ็นสัญญากับบริษัทผลิตภาพยนตร์ DreamWorks ของผู้กำกับ Steven Spielberg ซึ่งได้ร่วมผลิตภาพยนตร์ที่ได้รางวัลมากมาย อย่างเช่น The Help และ Lincoln
และปีเดียวกันนี้ Anil Ambani ก็ได้นำบริษัทพลังงานอย่าง Reliance Power จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ ด้วยมูลค่าการระดมทุนที่สูงเป็นประวัติการณ์ในขณะนั้น
ผ่านไป 6 ปีหลังจากการเสียชีวิตของ Dhirubhai
ดูเหมือนว่าลูกชายของเขาทั้งคู่ก็ต่อยอดกิจการไปได้อย่างสวยงาม
จนทำให้ในปี 2008 Mukesh มีทรัพย์สิน 1.4 ล้านล้านบาท รวยเป็นอันดับ 5 ของโลก และ Anil มีทรัพย์สิน 1.37 ล้านล้านบาท รวยเป็นอันดับ 6 ของโลก
แต่หลังจากนั้น เส้นทางความมั่งคั่งของพี่น้องคู่นี้ กลับเริ่มมีทิศทางที่สวนทางกัน
คนพี่รวยขึ้น ส่วนคนน้องความมั่งคั่งหายไปเกือบหมด
แล้วมันเกิดอะไรขึ้น ?
เรื่องทั้งหมดมีจุดเริ่มต้นมาจากเงินที่บริษัท Reliance Power ของ Anil Ambani ได้มาจากการ IPO มีแผนจะใช้สร้างโรงไฟฟ้าที่ส่วนใหญ่จะผลิตจากก๊าซ
โดยก๊าซที่ Reliance Power ใช้ ก็มาจากบริษัทก๊าซธรรมชาติในเครือ Reliance Industries ของ Mukesh นั่นเอง
ซึ่งในตอนที่แยกบริษัทกัน สองพี่น้องก็ได้เซ็นสัญญาว่าบริษัทก๊าซของ Mukesh Ambani จะขายก๊าซให้โรงไฟฟ้าของน้องชายที่ราคาหนึ่ง
แต่ในวันที่โรงไฟฟ้าสร้างใกล้จะเสร็จและถึงเวลาที่พี่ชายจะขายก๊าซให้กับน้อง ราคาก๊าซในตลาดโลกกลับเพิ่มสูงขึ้นไปเกือบเท่าตัว
Anil Ambani จึงต้องการซื้อก๊าซในราคาที่ตกลงกัน เพื่อที่จะไม่ต้องเผชิญต้นทุนก๊าซที่สูงขึ้น
แต่ทาง Mukesh Ambani ไม่สามารถขายก๊าซตามราคาที่ตกลงกันไว้ได้เพราะบริษัทของเขาจะขาดทุน
แต่แทนที่จะเจรจาตกลงกัน Anil Ambani กลับเลือกที่จะยื่นฟ้องบริษัทพี่ชายในปี 2010 เพื่อให้ซื้อก๊าซได้ในราคาเดิมที่เคยตกลงกัน
แต่ศาลก็ได้มีคำสั่งให้ Anil Ambani ซื้อก๊าซในราคาใกล้เคียงกับราคาตลาดโลก ซึ่งเป็นไปตามนโยบายราคาก๊าซของประเทศ
สุดท้ายแล้ว Anil Ambani ที่ต้องแบกรับต้นทุนก๊าซเพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว จึงไม่สามารถจัดหาก๊าซเพื่อไปใช้ผลิตไฟฟ้าในโรงไฟฟ้าที่สร้างรอไว้แล้วได้
Reliance Power จึงกลายเป็นบริษัทที่มีหนี้มหาศาล จนต้องขายทรัพย์สินและกิจการบางส่วนออกไป เพื่อเอามาใช้หนี้ ซึ่งรวมถึงกิจการโรงภาพยนตร์ Big Cinemas ที่ซื้อมาเมื่อปี 2008 ด้วย
แต่ความผิดพลาดทางธุรกิจของ Anil Ambani ยังไม่ได้จบลงแค่นี้ เพราะเรื่องราวที่ร้ายแรงกว่านั้น เกิดขึ้นกับธุรกิจโทรคมนาคมอย่าง Reliance Communications (RCom)
ในปี 2002 ซึ่งเป็นช่วงที่ RCom เพิ่งเริ่มทำธุรกิจ RCom เลือกใช้เทคโนโลยีการสื่อสารที่เรียกว่า CDMA ซึ่งใช้เงินลงทุนน้อยกว่า ขณะที่บริษัทคู่แข่งอย่างเช่น Airtel เลือกใช้เทคโนโลยีที่ชื่อ GSM
แม้เทคโนโลยีทั้ง 2 แบบจะใช้ได้ดีกับ 2G และ 3G เหมือนกัน แต่ปัญหาก็คือ CDMA ที่ RCom เลือกใช้ ไม่สามารถรองรับ 4G และ 5G ได้แบบ GSM ที่เหล่าคู่แข่งเลือกใช้
นั่นจึงทำให้ช่วงเวลาที่ทั่วโลกเปลี่ยนผ่านจาก 3G มาเป็น 4G อย่างรวดเร็ว RCom เลยตามคนอื่นไม่ทัน จน RCom กลายเป็นบริษัทที่เริ่มมีหนี้มากขึ้น
และจุดพลิกผันครั้งใหญ่ของ RCom รวมไปถึงทั้งอุตสาหกรรมเทเลคอมของอินเดีย ก็เกิดขึ้นในปี 2016
เมื่อ Mukesh Ambani ได้ก่อตั้งบริษัทย่อยของ Reliance Industries ในชื่อ “Jio” ซึ่งเป็นบริษัท
ที่เน้นบริการด้านเทคโนโลยี รวมถึงการให้บริการโทรคมนาคมแบบเดียวกับ RCom ด้วย
ด้วยชื่อเสียงของ Reliance Industries ก็ทำให้ Jio มีจำนวนผู้ใช้งานเครือข่ายโทรศัพท์เพิ่มขึ้นได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้กำไรของบริษัทที่เป็นหนึ่งในผู้นำตลาดอย่าง Airtel ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ และทำให้อีก 2 บริษัทที่มีส่วนแบ่งตลาดรองลงมาอย่าง Vodafone และ Idea ต้องควบรวมกิจการกัน
ในเวลาต่อมาบริษัท Jio ของ Mukesh Ambani ก็กลายมาเป็นบริษัทเทเลคอมที่ใหญ่สุดในอินเดีย ส่วน RCom ของ Anil ที่ย่ำแย่อยู่แล้ว ก็หายไปจากการแข่งขันในตลาดเทเลคอม จนทำให้บริษัทขาดทุนและกลายเป็นหนี้มหาศาล
RCom ต้องยอมขายสินทรัพย์ของกิจการบางส่วนให้กับ Jio เพื่อลดหนี้
แต่นั่นก็ยังไม่ช่วยให้สถานการณ์ของ RCom ดีขึ้น
ย้อนกลับไปเมื่อปี 2013 RCom ได้ทำข้อตกลงกับ Ericsson โดยจ้างให้ Ericsson มาเป็นผู้บริหารเครือข่ายในบริเวณทางเหนือและตะวันตกของอินเดีย แต่ผลจากการขาดทุนต่อเนื่องก็ทำให้ RCom ไม่มีเงินจ่ายให้ Ericsson ตั้งแต่ปี 2016
RCom ติดหนี้ Ericsson 2.46 พันล้านบาท ซึ่ง RCom ก็ไม่สามารถจ่ายหนี้ได้ตามกำหนด และขอเลื่อนเวลาการจ่ายหนี้ออกไปเรื่อย ๆ ซึ่งสุดท้ายแล้ว RCom จ่ายหนี้ได้เพียง 528 ล้านบาท นำไปสู่การถูกฟ้องร้องในเวลาต่อมา
ศาลสูงสุดจึงมีคำตัดสินว่า ถ้าภายใน 1 เดือน RCom ยังจ่ายหนี้ให้ Ericsson ไม่ได้ Anil จะต้องถูกจำคุก 3 เดือน
สุดท้ายแล้วพี่ชายของ Anil Ambani อย่าง Mukesh ก็เข้ามาช่วย
โดยการจ่ายหนี้ที่เหลือ มูลค่ากว่า 2 พันล้านบาทให้
ในขณะที่ บริษัท RCom ก็ต้องยื่นล้มละลาย
แต่เรื่องราวยังไม่จบแค่นั้น เพราะ RCom ยังมีหนี้ก้อนใหญ่อีกก้อน ที่กู้ยืมมาจาก 3 ธนาคารขนาดใหญ่ของจีน ทั้ง ICBC, China Development Bank และ EXIM Bank of China เป็นมูลค่า 2.3 หมื่นล้านบาท
ทั้ง 3 ธนาคารจึงยื่นฟ้อง RCom และ Anil Ambani..
ช่วงต้นปี 2020 ที่ผ่านมา ซึ่ง Anil ได้พูดระหว่างพิจารณาคดีออนไลน์กับศาลของประเทศอังกฤษว่า เขาไม่มีเงินใช้หนี้ เพราะความมั่งคั่งของเขาตอนนี้ใกล้จะเป็นศูนย์แล้ว.. ซึ่งจนถึงตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลแน่ชัดว่าเขาจะหาเงินจากไหนมาใช้หนี้
จากความขัดแย้งเพื่อแย่งกิจการกันเองในครอบครัว บวกกับการบริหารธุรกิจที่ผิดพลาด การทุ่มเงินลงทุนขนาดใหญ่แต่ได้ผลลัพธ์แย่กว่าที่คาด ทำให้บริษัทก่อหนี้ก้อนโต
ทั้งหมดนี้ก็ได้ส่งผลไปยังทรัพย์สินของผู้ที่เคยรวยติดอันดับ 6 ของโลกอย่าง Anil Ambani ได้หายไปเกือบหมด ในขณะที่พี่ชายที่เติบโตมาพร้อมกัน กลับเดินสวนทางกัน เพราะประสบความสำเร็จในธุรกิจอย่างต่อเนื่อง จนกลายเป็นเศรษฐี ที่ร่ำรวยที่สุดในเอเชีย นั่นเอง
ถ้าใครเชื่อว่าชีวิตของเราถูกกำหนดมาแล้วตั้งแต่เกิด
เกิดมาในครอบครัวที่รวย ก็ย่อมมีแรงส่งให้พวกเขารวยขึ้น
ซึ่งมันก็เป็นจริงในหลายกรณี
แต่ในบางกรณี มันก็อาจเป็นตรงกันข้าม
ซึ่งอย่างน้อย มันก็เกิดขึ้นแล้วกับ Anil Ambani น้องชายของ มหาเศรษฐี ที่รวยสุดในเอเชีย นั่นเอง..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - ลงทุนแมน
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.businessinsider.in/thelife/personalities/news/anil-ambanis-journey-from-42-billion-net-worth-to-claiming-poverty/articleshow/74028627.cms
-https://www.scmp.com/magazines/style/celebrity/article/3093874/mukesh-vs-anil-why-did-one-ambani-brother-go-bankrupt
-https://economictimes.indiatimes.com/industry/telecom/telecom-news/from-glory-to-dust-an-ambani-brands-journey-to-bankruptcy/articleshow/67837769.cms?from=mdr
-https://www.businesstoday.in/latest/economy-politics/story/anil-ambani-road-to-bankruptcy-how-the-brother-of-indias-richest-man-lost-his-way-271119-2020-08-25
-https://www.moneycontrol.com/news/business/a-timeline-of-reliance-communications-versus-ericsson-case-3661261.html
-https://youtu.be/dBH0E20kc30
-https://www.forbes.com/forbes/2008/0324/080.html?sh=3e185f910f2e
-https://en.wikipedia.org/wiki/Reliance_Industries
-https://en.wikipedia.org/wiki/Reliance_Group
同時也有1部Youtube影片,追蹤數超過15萬的網紅DrTech,也在其Youtube影片中提到,Samsung Galaxy S21 FE vs Samsung Galaxy S20 FE Hey guys, in this video i did a animated specs comparison between the S21 FE 5G against S20 FE. So if ...
「vodafone business」的推薦目錄:
- 關於vodafone business 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
- 關於vodafone business 在 GamingDose Facebook 的精選貼文
- 關於vodafone business 在 台灣物聯網實驗室 IOT Labs Facebook 的精選貼文
- 關於vodafone business 在 DrTech Youtube 的最佳貼文
- 關於vodafone business 在 Vodafone Business - Home | Facebook 的評價
- 關於vodafone business 在 Vodafone Business - YouTube 的評價
- 關於vodafone business 在 Vodafone cloud connect. To Connect Africa, Facebook ... 的評價
vodafone business 在 GamingDose Facebook 的精選貼文
สหราชอาณาจักรดำเนินการเริ่มแบนไม่ให้อุปกรณ์ของ Huawei ฬช้งานเครือข่าย 5G ในประเทศของพวกเขาแล้ว
เรียกว่าเป็นข่าวร้อนแรงที่สุดของทางฝั่ง Tech ในฝั่งสหราชอาณาจักรกันเลย เมื่อมีมติประกาศออกมาอย่างเป็นทางการในวันนี้ว่าจะมีการแบนอุปกรณ์จากแบรนด์ Huawei ไม่ให้สามารถใช้งานเครือข่าย 5G ในประเทศได้อีกต่อไป
.
รายงานจากทาง CNN Business ระบุว่า ทางสหราชอาณาจักรและบริษัทผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์เคลื่อนที่อย่าง BT กับ Vodafone ได้ดำเนินตามนโยบายในการยกเลิกการสนับสนุนอุปกรณ์จาก Huawei ในการใช้งานเครือข่าย 5G ซึ่งจะเสร็จสิ้นขั้นตอนในการดำเนินการทั้งหมดภายในปี 2027 และจะต้องไม่มีอุปกรณ์จาก Huawei ใช้งานเครือข่ายในประเทศเครือสหราชอาณาจักรอีกต่อไป
.
การตัดสินใจครั้งนี้ของพวกเขาเป็นเสมือนกันออกมาตอบรับและสนับสนุนต่อนโยบายของ Donald Trump ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ที่ต้องการให้มีการแบนสินค้าและผลิตภัณฑ์ของ Huawei ซึ่งพวกเขานั้นมีข้อพิพาทกับทางสหรัฐอเมริกามาตั้งแต่ที่ถูกขึ้นบัญชีต้องห้ามทางการค้าไปเมื่อปี 2019 รวมไปถึงบริษัทสัญชาติอเมริกันอื่น ๆ ก็ไม่สามารถทำการค้ากับ Huawei ได้ด้วย
.
เรื่องนี้เรียกได้ว่าน่าจะส่งผลกระทบต่อทาง Huawei อย่างมาก เพราะสหราชอาณาจักรนั้นถือเป็นตลาดใหญ่ของพวกเขาด้วยในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ด้วยส่วนแบ่งการตลาดมากถึง 24% ซึ่งทาง Huawei ๗ะแก้ปัญหานี้อย่างไรก็ต้องมาติดตามดูกันต่อไปครับ
.
ที่มา: https://edition.cnn.com/…/07/14/t…/huawei-uk-ban/index.html…
#gamingdose #Huawei
It's called the hottest news of the UK Tech side. When a consensus announced today that huawei brand-new devices will be banned from 5 G networks in the country.
.
CNN Business reports indicate that UK and Vodafone mobile service providers have implemented policies to cancel device support from huawei to 5 G networks which complete the process of all processes in 2027 and No more devices from huawei UK networks are required
.
Their decision is virtual. Responds and supports Donald Trump's policies. The US President wants to ban huawei products and products. They have been dispute with the USA since the prohibited trade accounts in 2019 Including other American nationality companies can't trade with huawei
.
This is considered a big impact on huawei because Britain has been their big market in recent years with 24 % marketing share. huawei 7 solves this problem. Let's keep watching. Yes. Yes.
.
Source: https://edition.cnn.com/2020/07/14/tech/huawei-uk-ban/index.html?utm_term=link&utm_source=fbCNN&utm_content=2020-07-14T12%3A15%3A21&utm_medium=social&fbclid=IwAR2XKaE9JnWXUihvkz-c-MjtBi_uQIQxeCOBiwoeYQc82KjNeZIgfRm83Fs
#gamingdose #HuaweiTranslated
vodafone business 在 台灣物聯網實驗室 IOT Labs Facebook 的精選貼文
歐洲電信巨頭數位轉型,為何先從人資下手?
2019.10.02
撰文者:邱奕嘉
商業周刊第1664期
電信商Vodafone 30%服務營收,來自提供企業雲端與資安服務
電信公司大概是最受數位科技衝擊的產業,大數據、人工智慧、物聯網,乃至未來的5G,新科技從不同面向挑戰著這產業,造成傳統的語音收入下滑。若電信公司不開拓新服務,進行數位轉型,將難以生存。
大部分公司在面對新科技時,對於「速度節奏」與「投入程度」常面臨兩難:轉型速度太快,員工們會覺得有些科技太新且不夠成熟,因不了解而覺得不好用,甚至會唱衰,覺得一定會失敗。尤其在新科技發展的初期,沒有人有把握實際的商業化應用會是什麼?就像現在問十個人,AI的定義與可擴展的商業化應用為何,可能十個人的答案都會不同。但現在若不投入,新科技成功應用後的擴散速度又非常快,等到一切明朗才投資,又已經為時已晚。
該怎麼拿捏?成為經營者的兩難:到底該整個公司,全面擁抱數位科技、以加速轉型?或者採漸進式,先讓部分相關部門轉型?這議題除牽涉到公司的策略發展,有時也會有部門政治利益的糾葛,使得決策變得更加複雜。
速度,不是數位轉型最優先的工作,最重要的是要先讓員工、高階主管改腦袋。
分層換上科技腦
鼓勵試錯,改變管理風格
英國的電信公司Vodafone在思考這問題時,採取了完全不同的思維,讓數位轉型的發生更為快速。
據該公司公布,28%歐洲固網服務,都是透過數位通路銷售,利用機器人客服降低了12%顧客來電頻率,提升服務的效率,同時開創出許多新服務營收,如,有30%的服務營收來自提供企業雲端與資安服務。雖然公司因投入5G導致負債比提升,但是開創的新服務,可抵銷部分語音收入下滑的威脅。
Vodafone的領導階層認為,決定轉型速度,其實不是數位轉型最優先的工作,最重要是要先讓員工──尤其高階主管改腦袋。藉由重塑數位主管的腦袋,來形成未來組織發展的共識,也能共同針對上述的兩難決策,有一致的決定。從共識形成到共業承擔,一起邁向數位轉型,這段轉型過程也被收錄在哈佛個案中。
具體方法是分層「換」腦袋,Vodafone先讓Top 50(前五十位)高管參加五天的Workshop(工作坊),密集訓練他們的科技相關知識,讓他們開始習慣用科技的方式思考,更容易接納新的點子,並要求他們不再埋頭於組織內,要多看看外面的世界,有哪些新的可能與應用。
第二階層是挑選集團Top 250高階主管,轉換他們管理風格,例如:以用戶為中心的思考模式,以實驗試錯取代傳統Do Better,最終是想要把他們打造成可以快速適應科技和數位化的領導人。同時,他們也針對這群主管,設計三天的Workshop,希望讓他們更勇於去體驗新科技,並訓練他們敏捷思考的模式,重點有三:
一、科技內容:除了會有傳統的授課分享新的科技技術和應用外,還會有實作的專案,像是高管們要自己動手,在全自動化飯店中,做出一個可以讓客戶點咖啡的聊天機器人。
二、敏捷開發法:透過科技實作來體會三個核心精神──彈性調整試錯、以團隊為核心充分溝通、頻繁檢視工作方向是否正確,是否在做最重要的事。
三、改變管理心態:主要說明包容開放和溝通的重要性;另外,也有安排角色扮演的方式進行,讓領導者去體驗、同理不同角色的處境和困難,以及這些角色遇到不同領導風格可能會有的狀況。
針對Top 250的高管,還有「數位忍者(digital ninjas)」計畫,會安排外部導師(Mentor),指導他們新科技相關的知識,以及最新的資訊,讓他們不必請自己的下屬給予指導(因為通常下屬比他們更懂新科技),有外部的Mentor可以問,可以比較無負擔的溝通。最後,有些高管們和Mentor更建立起友誼,時時協助高管發展。
人資不再只是招募!
還得改造高層、創新事業
更關鍵是Vodafone在改造員工腦袋前,也先要求人資部門帶頭轉型,他們必須有能力改造高管的腦袋,推出全新的訓練方式,如,推出全球學習平台等。人資部門被要求,要從傳統幕僚單位,轉為有能力進行「事業開發」(Business Development),願意走在數位轉型的最前端,協調、開發、嘗試,從無到有完成整個集團的數位轉型學習。
當員工的腦袋開始轉變後,許多數位轉型的管理難題便不再存在,如,部門間的資源爭奪。當公司做數位轉型,但是通過這系列的改造,誰先做/拒絕等議題影響較小,而且可以更客觀評估,讓「有條件跑得快的先跑」,即便是後跑的部門,也能安心知道,自己不會被淘汰或縮編,不流於資源爭奪。
由此可知,領導者在擬定數位轉型策略與速度之前,不妨優先思考,組織和人才的改造,特別是人資團隊與高階主管的腦袋革命,才能避免內耗,讓數位轉型更順利。
資料來源:https://www.businessweekly.com.tw/ma…/Article_mag_page.aspx…
vodafone business 在 DrTech Youtube 的最佳貼文
Samsung Galaxy S21 FE vs Samsung Galaxy S20 FE
Hey guys, in this video i did a animated specs comparison between the S21 FE 5G against S20 FE. So if you like this video, sub to channel would be awesome.
Subscribe for more content (IT'S FREE)
Follow me on:
★ INSTAGRAM:https://www.instagram.com/hassantheshah
★ TWITTER:https://twitter.com/hassantheshah
★ FACEBOOK:https://facebook.com/hassantheshah
------------------------------------------------
Business Enquiries: shrs19300@gmail.com
------------------------------------------------
MUSIC USED:
Your Queries:
samsung galaxy s21 fe unboxing,
samsung galaxy s21 features,
samsung galaxy s21 fe review,
samsung galaxy s21 fe release date,
samsung galaxy s21 fe 2021,
samsung galaxy s21 fe trailer,
samsung galaxy s21 fe camera,
samsung galaxy s21 fe leaks,
samsung galaxy s21 fe 5g,
samsung galaxy s21 fe ausschalten,
samsung galaxy s21 fe colors,
samsung galaxy s21 fe cost,
samsung galaxy s21 fe características,
samsung galaxy s21 fe cena,
samsung galaxy s21 vs s20 fe camera,
samsung galaxy s21 fe 5g camera,
samsung galaxy s21 fe dimensions,
samsung galaxy s21 fe details,
samsung galaxy s21 fe dual sim,
samsung galaxy s21 fe deutsch,
samsung galaxy s21 vs s20 fe 5g deutsch,
samsung galaxy s21 fe earphones,
samsung galaxy s21 fe expected price,
samsung galaxy s21 fe edition,
samsung galaxy s21 fe features,
samsung galaxy s21 fe full specifications,
samsung galaxy s21 fe gsmarena,
samsung galaxy s21 fe gsm,
samsung galaxy s21 fe india,
samsung galaxy s21 fe 5g india,
samsung galaxy s21 vs s20 fe kamera,
samsung galaxy s21 fe launch date,
samsung galaxy s21 fe launch,
samsung galaxy s21 fe lte,
samsung galaxy s21 fe lte price in bangladesh,
samsung galaxy s21 fe malaysia,
samsung galaxy s21 fe micro sd card,
samsung galaxy s21 fe news,
samsung galaxy s20 fe overheating,
samsung galaxy s21 or s20 fe,
samsung galaxy s21 oder s20 fe,
samsung galaxy s20 fe o s21,
samsung galaxy s21 fe pubg,
samsung galaxy s21 fe price,
samsung galaxy s21 fe price in india,
samsung galaxy s21 fe price in bangladesh,
samsung galaxy s21 fe price in malaysia,
samsung galaxy s21 fe phone case,
samsung galaxy s21 fe processor,
samsung galaxy s21 fe price in bangladesh 2021,
samsung galaxy s21 fe release,
samsung galaxy s21 fe rumors,
samsung galaxy s21 fe release date in india,
samsung galaxy s21 fe 5g review,
samsung galaxy s21 fe specs,
samsung galaxy s21 fe specifications,
samsung galaxy s21 fe screen size,
samsung galaxy s21 fe snapdragon,
samsung galaxy s21 fe screen protector,
samsung galaxy s21 fe size,
samsung galaxy s21 fe sd card,
samsung galaxy s21 fe specs gsmarena,
samsung galaxy s21 ultra s pen features,
samsung galaxy s21 fe tmobile,
samsung galaxy s21 fe test,
samsung galaxy s21 fe unlocked,
samsung galaxy s21 fe vs s21,
samsung galaxy s21 fe vs oneplus 9,
samsung galaxy s21 fe vs s20 fe,
samsung galaxy s21 fe vs a71,
samsung galaxy s21 fe vodafone,
samsung galaxy s21 vs s20 fe 5g,
samsung galaxy s21 fe whatmobile,
samsung galaxy s21 fe wallpaper,
samsung galaxy s20 fe waterproof,
samsung galaxy s21 fe 256gb,
samsung galaxy s21 fe 4g,
samsung galaxy s21 fe 5g unboxing,
samsung galaxy s21 fe 5g specs,
samsung galaxy s21 fe 5g release date,
samsung galaxy s21 fe 5g price,
samsung galaxy s21 fe 91mobiles
samsung galaxy s21 fe,galaxy s21 fe,s21 fe,Samsung S21 FE,s21 fe unboxing,s21 fe samsung,S21 FE vs S20 FE,samsung galaxy s21,samsung galaxy s21 fe 5g,galaxy s21,galaxy s21 fan edition,samsung galaxy s21 fan edition,galaxy s21 fe 5g,samsung galaxy s21 fe unboxing,galaxy s21 review,galaxy s20 fe,galaxy s21 fe price,galaxy s21 fe release date,galaxy s21 fe features,samsung galaxy s21 vs s20 fe,samsung galaxy s21 fe price,samsung galaxy s21 fe review,S21
#S21FE
#SamsungGalaxyS21FE
#S20FE
#SamsungGalaxyS20FE
@DrTech subscribe!
vodafone business 在 Vodafone Business - YouTube 的推薦與評價
We partner with businesses of every size to help them progress and thrive through digital communications technologies - today, tomorrow and into the future. ... <看更多>
vodafone business 在 Vodafone cloud connect. To Connect Africa, Facebook ... 的推薦與評價
What Vodafone Teams Connect means for your business Future proofing Be ready for the future. As an AWS Direct Connect Delivery Partner, Epsilon provides ... ... <看更多>
vodafone business 在 Vodafone Business - Home | Facebook 的推薦與評價
Vodafone Business. 3209 likes · 19 talking about this. We work with the world's largest multinational companies, fast growing enterprises, Government... ... <看更多>