TRUE เสนอขายหุ้นกู้ 4 ชุด ดอกเบี้ย 3.20% ถึง 4.60% ต่อปี
TRUE x ลงทุนแมน
บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE เป็นหนึ่งในบริษัทผู้ให้บริการสื่อสารโทรคมนาคมที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยที่ดำเนินธุรกิจมายาวนานกว่า 31 ปี
และเร็ว ๆ นี้ TRUE จะเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ต่อผู้ลงทุนทั่วไปและผู้ลงทุนรายใหญ่ ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งโอกาสที่เราสามารถสร้างผลตอบแทนสม่ำเสมอ ในรูปแบบของหุ้นกู้ ด้วยอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทและหุ้นกู้ที่ระดับ “BBB+” แนวโน้มอันดับเครดิต “คงที่” เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2564 เสนอดอกเบี้ยตั้งแต่ 3.20% ถึง 4.60% ต่อปี ตามอายุของหุ้นกู้แต่ละชุด
ภาพรวมธุรกิจของ TRUE เป็นอย่างไร
แล้วรายละเอียดหุ้นกู้ของทางบริษัท มีอะไรบ้าง ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
ก่อนอื่น เราลองมาดูภาพรวมธุรกิจของ TRUE กันก่อน
TRUE เป็นผู้ให้บริการสื่อสารโทรคมนาคมและบริการดิจิทัลครบวงจร
โดยเราสามารถแบ่งธุรกิจหลักของบริษัท ออกเป็น
- ทรูมูฟ เอช ธุรกิจบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ครอบคลุมตั้งแต่ 3G จนถึง 5G โดยเครือข่ายอัจฉริยะ True5G มีย่านความถี่มากที่สุด และครอบคลุมสูงสุดทั่วประเทศ
- ทรูออนไลน์ ธุรกิจบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต ด้วยโครงข่ายไฟเบอร์คุณภาพสูงที่ให้ความเร็วระดับ 1 Gbps
- ทรูวิชั่นส์ ธุรกิจบริการโทรทัศน์แบบบอกรับสมาชิกและทีวีดิจิทัล และเป็นผู้ผลิตคอนเทนต์ มีคอนเทนต์คุณภาพสูงทั้งในและต่างประเทศ
- ทรูดิจิทัลกรุ๊ป ธุรกิจบริการดิจิทัลครบวงจร สำหรับผู้บริโภค ธุรกิจรายย่อย และลูกค้าองค์กร อาทิ แพลตฟอร์มสื่อดิจิทัล (Digital Media Platform) หรือทรูไอดี แพลตฟอร์มที่เชื่อมระหว่างออนไลน์และออฟไลน์ (O2O) พร้อมสิทธิประโยชน์หลากหลาย เทคโนโลยีการวิเคราะห์ข้อมูล (Data Analytics) เทคโนโลยี Internet of Things (IoT) ดิจิทัลโซลูชันต่าง ๆ และธุรกิจดิจิทัล เฮลท์ (Digital Health) เป็นต้น
และแม้ว่าในปีที่ผ่านมา หลายธุรกิจในประเทศไทยยังคงได้รับผลกระทบจากโรคระบาดโควิด 19 แต่ธุรกิจให้บริการสื่อสาร และบริการดิจิทัล ก็ยังคงแข็งแกร่ง สะท้อนให้เห็นจากผลประกอบการของบริษัท
ในช่วงครึ่งปีแรก ของปี 2564 กลุ่ม TRUE มีรายได้รวม 69,223 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.7%
กำไรจากการดำเนินงาน 6,909 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38.2%
เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
ในด้านจำนวนผู้ใช้บริการ ก็เติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องด้วยเช่นกัน
- ทรูมูฟ เอช มีผู้ใช้บริการรายใหม่เพิ่มขึ้นสุทธิ 4.9 แสนราย ณ ไตรมาส 2 รวมทั้งหมดเป็น 31.7 ล้านราย คิดเป็นมากถึง 46% ของจำนวนประชากรในประเทศไทย
- ทรูออนไลน์ มีผู้ใช้บริการรายใหม่เพิ่มขึ้นสุทธิ 1.05 แสนราย ณ ไตรมาส 2 รวมทั้งหมดเป็น 4.4 ล้านราย
- แพลตฟอร์มทรูไอดี มีจำนวนผู้ใช้งานรายเดือนเพิ่มขึ้นเป็นมากกว่า 25 ล้านคน มียอดรับชมคอนเทนต์วิดีโอต่อเดือนโดยเฉลี่ยเพิ่มสูงขึ้นที่ 265 ล้านครั้งต่อเดือน
จากตรงนี้ จะเห็นได้ว่าแต่ละกลุ่มธุรกิจของ TRUE ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง
แม้จะอยู่ในช่วงที่สถานการณ์โรคระบาดในประเทศยังไม่เป็นปกติ
รวมทั้งบริษัทยังมีบริการที่เข้ากับพฤติกรรมการรับชมคอนเทนต์ของคนรุ่นใหม่ ที่มีการเติบโตที่น่าสนใจ รวมถึงบริการดิจิทัลโซลูชันและ IoT ที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคและภาคธุรกิจได้อย่างตรงจุด
และเพื่อสร้างการเติบโตต่อไปในอนาคต ทางบริษัท TRUE จึงได้เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่สำหรับทั้งผู้ลงทุนทั่วไปและผู้ลงทุนสถาบัน
โดยมีจุดประสงค์ของการออกหุ้นกู้ดังนี้
- นำไปชำระคืนหนี้คงค้าง เช่น หนี้เงินกู้และหนี้จากการออกตราสารที่ครบกำหนดชำระในปี พ.ศ. 2564
- ใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการของกลุ่มบริษัท
สำหรับการเสนอขายหุ้นกู้ชุดใหม่ที่เสนอขายให้กับผู้ลงทุนทั่วไป (Public Offering, “PO”) ครั้งนี้ มีทั้งหมด 4 ชุด ได้แก่
ชุดที่ 1 อายุ 3 ปีอัตราดอกเบี้ย 3.20% ต่อปี
ชุดที่ 2 อายุ 4 ปีอัตราดอกเบี้ย 3.60% ต่อปี
ชุดที่ 3 อายุ 5 ปีอัตราดอกเบี้ย 4.05% ต่อปี
ชุดที่ 4 อายุ 7 ปีอัตราดอกเบี้ย 4.60% ต่อปี
โดยทั้ง 4 ชุดนี้ จะมีงวดการจ่ายดอกเบี้ยทุก ๆ 3 เดือนในวันที่ 15 มกราคม, 15 เมษายน, 15 กรกฎาคม และ 15 ตุลาคม ของแต่ละปี ตลอดอายุของหุ้นกู้
ซึ่งหุ้นกู้ที่ออกครั้งนี้ของ TRUE ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือ “BBB+” แนวโน้มอันดับเครดิต “คงที่” โดยบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2564
สำหรับนักลงทุนที่สนใจ หุ้นกู้ของ TRUE จะเสนอขายตั้งแต่วันที่ 11-12 และวันที่ 14 ตุลาคม 2564
มีจำนวนจองซื้อขั้นต่ำ 100,000 บาท และทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท โดยมีผู้จัดจำหน่าย ดังนี้
- ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา (ยกเว้นสาขาไมโคร) หรือ โทร. 1333 หรือจองซื้อผ่าน แอป Bualuang mBanking
- ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) โทร. 02 888 8888 กด 819 โดยบุคคลธรรมดาจองซื้อทางออนไลน์ผ่าน https://www.kasikornbank.com/kmyinvest
- ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา หรือ โทร. 02 777 6784 หรือจองซื้อผ่าน แอป SCB Easy
- ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) ทุกสาขา หรือ โทร. 02 626 7777 หรือจองซื้อผ่าน แอป CIMB THAI Digital Banking
และด้วยสถานการณ์ที่มีการแพร่ระบาดของโควิด 19 ผู้ลงทุนทั่วไปที่เป็นบุคคลธรรมดาสามารถจองซื้อผ่านระบบออนไลน์หรือแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ โดยไม่จำเป็นต้องเดินทางไปที่สาขาของสถาบันการเงินทั้ง 4 แห่ง เป็นการเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ลงทุนทั่วไปที่สนใจ สามารถอยู่บ้านและหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาก็สามารถจองซื้อหุ้นกู้ได้แล้ว
-ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) โทร 1428 กด #4 (สำหรับผู้ลงทุนรายใหญ่เท่านั้น)
คำเตือน
1. โปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้าเงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุนการลงทุนมีความเสี่ยงโปรดศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วนก่อนตัดสินใจลงทุน
2. การจัดสรรขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ เงื่อนไขการจัดจำหน่ายเป็นไปตามที่กำหนดในร่างหนังสือชี้ชวน
3. ตลาดตราสารหนี้ในประเทศไทยมีสภาพคล่องต่ำ การขายตราสารในตลาดรองนั้นอาจได้รับมูลค่าขายตราสารลดลงหรือเพิ่มขึ้นได้โดยขึ้นอยู่กับสภาวะและความต้องการของตลาดในขณะนั้น
4. อันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้เป็นเพียงข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุนเท่านั้นมิใช่สิ่งชี้นำการซื้อขายตราสารหนี้ที่เสนอขายและไม่ได้เป็นการรับประกันความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ออกตราสาร และเมื่อผู้ออกหุ้นกู้หยุดจ่ายดอกเบี้ย (กรณีบริษัทไม่ได้แจ้งเลื่อนการจ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้) หรือเงินต้นก็เป็นการผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ (default) ซึ่งหากผู้ออกหุ้นกู้ประกาศล้มละลายหรือผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ ผู้ถือหุ้นกู้และเจ้าหนี้อื่นของบริษัทผู้ออกหุ้นกู้จะมีบุริมสิทธิเหนือผู้ถือหุ้นสามัญของบริษัทผู้ออกหุ้นกู้ ในการประเมินความเสี่ยงด้านเครดิตของผู้ออกหุ้นกู้ผู้ลงทุนสามารถดูผลการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้หรือผู้ออกหุ้นกู้ (credit rating) ที่จัดทำโดยสถาบันจัดอันดับความเสี่ยงประกอบการตัดสินใจลงทุนได้ถ้า credit rating ของหุ้นกู้หรือผู้ออกหุ้นกู้ต่ำแสดงว่าความเสี่ยงด้านเครดิตของหุ้นกู้หรือผู้ออกหุ้นกู้สูงผลตอบแทนที่ผู้ลงทุนได้รับควรจะสูงด้วยเพื่อชดเชยความเสี่ยงที่สูงของหุ้นกู้ดังกล่าว
bbb- credit rating 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
'หุ้นกู้ EDL-Gen’ โอกาสการลงทุนในพลังงานสะอาดที่สนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนในภูมิภาคอาเซียน
EDL-Gen x ลงทุนแมน
รู้หรือไม่ว่า ไทยซื้อไฟฟ้าจากประเทศใดมากที่สุด ?
ปัจจุบัน กำลังการผลิตไฟฟ้าที่ใช้ในไทยกว่า 5,721 เมกะวัตต์ หรือ 12% ของกำลังการผลิตในระบบ มาจากผู้ผลิตในต่างประเทศ
โดยเกือบทั้งหมดเป็นการนำเข้าจาก สปป.ลาว ซึ่งเป็นการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานน้ำ
สอดคล้องกับข้อมูลของธนาคารแห่ง สปป.ลาว ที่รายงานว่า ไฟฟ้าเป็นหนึ่งในสินค้าส่งออกหลักของประเทศ
ถึงตรงนี้ บางคนอาจสงสัยว่า ทำไม สปป.ลาว ผลิตไฟฟ้าพลังงานน้ำได้มากขนาดนั้น ?
ด้วยภูมิศาสตร์ของประเทศที่อุดมสมบูรณ์ เป็นภูเขาสูง มีแม่น้ำหลายสาย รวมถึงนโยบายของรัฐที่เปิดกว้างให้ผู้ผลิตไฟฟ้าอิสระในภาคเอกชนร่วมลงทุน ทำให้ สปป.ลาว ก้าวสู่การเป็นผู้นำผลิตพลังงานสะอาดในภูมิภาคอาเซียนได้
โดยหนึ่งในผู้ผลิตไฟฟ้าพลังงานสะอาดรายใหญ่ ที่ส่งออกไฟฟ้าให้ไทยคือ ‘บริษัท ผลิต-ไฟฟ้าลาว (มหาชน)’ หรือ EDL-Gen’
ธุรกิจของ EDL-Gen มีความน่าสนใจและมีบทบาทใน สปป.ลาว อย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
EDL-Gen เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ ที่ทำธุรกิจมายาวนานกว่า 50 ปี
โดยบริษัทฯ ได้นำมาตรฐาน ISO14001 ซึ่งเป็นมาตรฐานระบบการจัดการสิ่งแวดล้อมที่ได้รับการยอมรับมากที่สุด มาใช้ในกระบวนการผลิตไฟฟ้าผ่านเขื่อนที่ให้น้ำไหลผ่านตลอดเวลา (Run-off-the-river)
ซึ่งรูปแบบของ Run-off-the-river คือปริมาณน้ำที่ไหลเข้าโรงไฟฟ้าจะเท่ากับปริมาณน้ำที่ไหลออก โดยจะไม่มีการเปลี่ยนทิศทางน้ำหรือกักเก็บน้ำไว้เหนือเขื่อน
เพราะฉะนั้น ระดับน้ำและคุณภาพน้ำจะเป็นไปตามธรรมชาติ ทั้งเหนือเขื่อนและท้ายเขื่อน
จึงไม่ก่อให้เกิดปัญหาน้ำแล้ง น้ำท่วม รวมถึงไม่มีผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของสัตว์น้ำในลุ่มน้ำโขง
ปัจจุบัน EDL-Gen มีกำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้งรวม 1,949 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นโครงการโรงไฟฟ้าที่เปิดดำเนินการแล้ว 27 โครงการ กำลังการผลิตรวม 1,683 เมกะวัตต์
แบ่งเป็นโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำที่ EDL-Gen เป็นเจ้าของ 100% จำนวน 11 โครงการ และโครงการร่วมภาคเอกชน (IPP) 16 โครงการ
ซึ่งไทยถือเป็นลูกค้ารายใหญ่ที่ซื้อไฟฟ้าจาก EDL-Gen ในสัดส่วนสูงถึง 42% ของปริมาณการผลิตไฟฟ้าติดตั้งทั้งหมด
แล้วฐานะการเงินของ EDL-Gen เป็นอย่างไร ?
ปี 2561 สินทรัพย์ 75,149 ล้านบาท รายได้ 5,964 ล้านบาท
ปี 2562 สินทรัพย์ 78,825 ล้านบาท รายได้ 5,292 ล้านบาท
ปี 2563 สินทรัพย์ 82,313 ล้านบาท รายได้ 5,698 ล้านบาท
สำหรับการเติบโตของ EDL-Gen หลังจากนี้ บริษัทฯ จะเปิดให้เอกชนจากประเทศเพื่อนบ้านเข้าร่วมลงทุน
เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายที่จะมีกำลังการผลิตติดตั้งรวม 2,435 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้ารวมทั้งสิ้น 42 โครงการ ภายในปี 2572
แบ่งเป็นโครงการที่ลงทุนและพัฒนาเอง 18 โครงการ กำลังการผลิตไฟฟ้าติดตั้ง 974 เมกะวัตต์
และโครงการร่วมทุน 24 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งตามสัดส่วนถือหุ้นรวม 1,461 เมกะวัตต์
สอดคล้องกับแนวโน้มการใช้ไฟฟ้าในอาเซียนที่ยังมีความต้องการเพิ่มขึ้น ตามการเติบโตของภาพรวมเศรษฐกิจและวิชั่นของ EDL-Gen ที่จะเป็นผู้ผลิตไฟฟ้าที่มั่นคงเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม
และขับเคลื่อน สปป.ลาว ให้พัฒนาสู่การเป็นผู้นำการผลิตพลังงานสะอาดของภูมิภาค
ตามเทรนด์ Green Energy ที่เป็นเมกะเทรนด์ด้านสิ่งแวดล้อมที่ทั่วโลกกำลังให้ความสำคัญ
หลายปีที่ผ่านมา ไทยได้พึ่งพิงพลังงานไฟฟ้าจาก สปป.ลาว เป็นจำนวนมาก
จากแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศปี 2561-2580 (PDP 2018) ก็ระบุว่า ประเทศไทยสามารถรับซื้อ ไฟฟ้าจากต่างประเทศได้อีก 3,500 เมกะวัตต์ โดยจะเป็นการซื้อจาก สปป.ลาว ในปริมาณกว่า 3,000 เมกะวัตต์
เร็ว ๆ นี้ EDL-Gen เตรียมเสนอขายหุ้นกู้มูลค่ารวมไม่เกิน 6,000 ล้านบาท จำนวนหน่วยที่เสนอขายไม่เกิน 6 ล้านหน่วย
ครบกำหนดไถ่ถอนในปี 2567 หรือมีอายุ 3 ปี อัตราดอกเบี้ย 5.90% ต่อปี กำหนดชำระดอกเบี้ยทุก ๆ 3 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้
เพื่อนำเงินที่ได้ไปใช้ในการชำระคืนหุ้นกู้ที่จะครบกำหนดในปี 2564
โดยหุ้นกู้และผู้ออกหุ้นกู้ EDL-Gen ได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ที่ระดับ “BBB-” และแนวโน้มอันดับเครดิต “Negative” เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน 2564
หุ้นกู้จะถูกเสนอขายแก่นักลงทุนสถาบัน และ/หรือ นักลงทุนรายใหญ่ที่ราคาเสนอขายหน่วยละ 1,000 บาท จองซื้อขั้นต่ำ 100 หน่วย
ที่บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), และ บริษัทหลักทรัพย์ ไอร่า จํากัด (มหาชน) จองซื้อประมาณวันที่ 5, 6, 7 กรกฎาคม 2564
โดยมี บริษัท ทวิน ไพน์ กรุ๊ป จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาการเงินชั้นนำในการระดมทุนให้กลุ่มประเทศกัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม และไทย (CLMVT) เป็นที่ปรึกษาในการออกและเสนอขายหุ้นกู้ของ EDL-Gen ครั้งนี้
สำหรับนักลงทุนที่สนใจหุ้นกู้ EDL-Gen สามารถศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.edlgen.com.la
คำเตือน
1. โปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วนก่อนตัดสินใจลงทุน
2. ตลาดตราสารหนี้ในประเทศไทยมีสภาพคล่องต่ำ การขายตราสารในตลาดรองนั้นอาจได้รับมูลค่าขายตราสารลดลง หรือเพิ่มขึ้นได้ โดยขึ้นอยู่กับสภาวะและความต้องการของตลาดในขณะนั้น
3. อันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้เป็นเพียงข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุนเท่านั้น มิใช่สิ่งชี้นำการซื้อขายตราสารหนี้ที่เสนอขาย และไม่ได้เป็นการรับประกันความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ออกตราสาร และเมื่อผู้ออกหุ้นกู้หยุดจ่ายดอกเบี้ย (กรณีบริษัทไม่ได้แจ้งเลื่อนการจ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้) หรือเงินต้น ก็เป็นการผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ (default) ซึ่งหากผู้ออกหุ้นกู้ประกาศล้มละลายหรือผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ ผู้ถือหุ้นกู้ และเจ้าหนี้อื่นของบริษัทผู้ออกหุ้นกู้จะมีบุริมสิทธิเหนือผู้ถือหุ้นสามัญของบริษัทผู้ออกหุ้นกู้ ในการประเมินความเสี่ยงด้านเครดิตของผู้ออกหุ้นกู้ ผู้ลงทุนสามารถดูผลการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้ หรือผู้ออกหุ้นกู้ (credit rating) ที่จัดทำโดยสถาบันจัดอันดับความเสี่ยง ประกอบการตัดสินใจลงทุนได้ ถ้า credit rating ของหุ้นกู้ หรือผู้ออกหุ้นกู้ต่ำ แสดงว่าความเสี่ยงด้านเครดิตของหุ้นกู้หรือผู้ออกหุ้นกู้สูง ผลตอบแทนที่ผู้ลงทุนได้รับควรจะสูงด้วยเพื่อชดเชยความเสี่ยงที่สูงของหุ้นกู้ดังกล่าว
References
- EDL-Gen’s Presentation
- https://www.facebook.com/thematterco/posts/2054511904764201/
- https://www.egat.co.th/index.php?option=com_content&view=article&id=80&Itemid=116
- https://thaipublica.org/2021/04/edl-gen-supports-lao-to-become-asean-clean-energy-leader/
bbb- credit rating 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
ข่าวประชาสัมพันธ์..
SUPER เตรียมเสนอขายหุ้นกู้ ดอกเบี้ย 5% ต่อปี มูลค่าไม่เกิน 1,500 ล้านบาท เปิดจองซื้อวันที่ 20 - 22 เมษายน 2564
บริษัท ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SUPER กำลังเสนอขายหุ้นกู้ ครั้งที่ 1 ปี 2564 โดยจะเปิดให้จองซื้อในระหว่างวันที่ 20 - 22 เมษายน 2564 โดยมีอัตราดอกเบี้ยคงที่ที่ 5% ต่อปี ตลอดอายุของหุ้นกู้ ชำระดอกเบี้ยทุก 3 เดือน อายุหุ้นกู้ 3 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนในปี 2567
โดย SUPER ได้รับอันดับความน่าเชื่อถือที่จัดอันดับโดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด (TRIS) ที่ระดับ BBB แนวโน้ม Stable เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2563
สำหรับ SUPER นั้น ประกอบธุรกิจถือหุ้นในบริษัทย่อย และ/หรือ บริษัทร่วม (Holding Company) ที่ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทน ธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค รวมถึงธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Information & Communications Technology)
โดยสำหรับธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนซึ่งเป็นธุรกิจหลักของ SUPER นั้น แบ่งออกเป็น
1). ธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทย โดยได้รับสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) เป็นระยะเวลา 25 ปี จากการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การไฟฟ้านครหลวง และ การไฟฟ้าฝ่ายผลิต ซึ่งได้เริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) แล้ว จำนวน 100 โครงการ มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 563.60 MW
นอกจากนี้ SUPER ยังเริ่มขยายธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ออกไป โดยเริ่มมีการจำหน่ายไฟฟ้าให้แก่ภาคเอกชนที่มีฐานะทางการเงินมั่นคง เช่น บมจ. จัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก (EASTW) และ บมจ. เจริญโภคภัณฑ์อาหาร (CPF) เป็นต้น
2). ธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศเวียดนาม โดยได้รับสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) เป็นระยะเวลา 20 ปี จาก Vietnam Electricity หรือ EVN ที่เป็นหน่วยงานภาครัฐที่มีหน้าที่กำกับดูแลด้านไฟฟ้าในประเทศเวียดนาม ซึ่งได้เริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) แล้ว จำนวน 9 โครงการ มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 836.72 MW
3). ธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานขยะในประเทศไทย โดยได้รับสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) เป็นระยะเวลา 5 ปี และต่ออายุสัญญาอัตโนมัติทุก 5 ปี ซึ่งได้เริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) แล้ว จำนวน 2 โครงการ มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 18.00 MW และอยู่ระหว่างการก่อสร้างอีก 1 โครงการ ขนาดกำลังการผลิต 6.00 MW
4). ธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานลมในประเทศเวียดนาม โดยได้รับสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) เป็นระยะเวลา 20 ปี โดยโรงไฟฟ้าพลังงานลมทั้งหมดอยู่ระหว่างดำเนินการก่อสร้าง จำนวน 4 โครงการ มีขนาดกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 421.00 MW
นอกจากธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนแล้ว SUPER ยังมีธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค ซึ่งจัดหา ผลิต และจำหน่าย ทั้งน้ำดิบ น้ำเพื่อการอุตสาหกรรม และน้ำประปา ในเขตพื้นที่จังหวัดชลบุรี จังหวัดสมุทรสาคร และภูเก็ต ซึ่งล้วนเป็นพื้นที่ที่ปริมาณน้ำใช้ไม่เพียงพอต่อความต้องการ โดยมีสัญญาจำหน่ายน้ำให้แก่หน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชน
นอกจากนั้น SUPER ยังมีธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (Information & Communications Technology) ซึ่งให้บริการงานด้านการพัฒนาและวางระบบสารสนเทศ งานด้านการบริการบำรุงรักษาอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ระบบสารสนเทศ และจัดหาบุคลากรให้บริการแบบครบวงจร รวมไปถึงงานด้านการบริหารงานและให้คำปรึกษาอีกด้วย
โดยผลประกอบการย้อนหลัง 3 ปีของ SUPER มีดังนี้
ปี 2561 รายได้รวม 5,729 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,274 ล้านบาท สินทรัพย์รวม 49,650 ล้านบาท
ปี 2562 รายได้รวม 6,246 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,392 ล้านบาท* สินทรัพย์รวม 55,669 ล้านบาท
ปี 2563 รายได้รวม 6,515 ล้านบาท กำไรสุทธิ 1,528 ล้านบาท สินทรัพย์รวม 73,160 ล้านบาท
*เป็นตัวเลขกำไรสุทธิจากการดำเนินงานตามปกติ ซึ่งยังไม่ได้รวมกำไรพิเศษจากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน SUPEREIF (สุทธิภาษี) จำนวน 982 ล้านบาท
ซึ่งในปี 2563 มีสัดส่วนรายได้จาก
ธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ 86.2%
ธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานขยะ 8.6%
ธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค 2.5%
ธุรกิจอื่น ๆ 2.7%
จุดเด่นของ SUPER คือ ความสามารถในการสร้างกระแสเงินสดที่แข็งแกร่งได้อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะจากธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานทดแทนทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งได้รับสัญญาระยะยาวจากการไฟฟ้าต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง และโรงไฟฟ้าพลังงานทดแทนสามารถผลิตไฟฟ้าได้อย่างสม่ำเสมอ ทำให้รายได้ของ SUPER มีความมั่นคงแน่นอน ไม่เปลี่ยนแปลงไปตามสถานการณ์เศรษฐกิจการเมือง
หากพิจารณากระแสเงินสดจากการดำเนินงานในปี 2563 ซึ่งแม้จะมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด 19 ซึ่งส่งผลกระทบต่อสภาวะเศรษฐกิจทั่วทั้งโลก แต่ SUPER ยังสามารถดำเนินธุรกิจ โดยมีผลประกอบการและกระแสเงินสดจากการดำเนินงานเติบโตจากปีก่อนหน้าได้ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพและความมั่นคงในการดำเนินธุรกิจของ SUPER ได้เป็นอย่างดี
สำหรับวัตถุประสงค์ของการเสนอขายหุ้นกู้ มูลค่าไม่เกิน 1,500 ล้านบาท ในครั้งนี้ เพื่อใช้ในการชำระคืนหุ้นกู้เดิมที่จะถึงกำหนดชำระ และใช้ในการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ รวมถึงใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของบริษัท
โดยหุ้นกู้ดังกล่าวจะเสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือ ผู้ลงทุนรายใหญ่ โดยมีมูลค่าการจองซื้อขั้นต่ำที่ 100,000 บาทขึ้นไป ทวีคูณครั้งละ 100,000 บาท โดยมีระยะเวลาในการจองซื้อ ตั้งแต่วันที่ 20 ถึง 22 เมษายน 2564 มีอัตราดอกเบี้ย 5% ต่อปี ตลอดอายุของหุ้นกู้ ชำระดอกเบี้ยทุก ๆ 3 เดือน โดยหุ้นกู้จะมี 3 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 2567
ผู้ที่สนใจลงทุนในหุ้นกู้ของ SUPER สามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.supercorp.co.th หรือสามารถขอรับหนังสือชี้ชวนและสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
บริษัทหลักทรัพย์ เคจีไอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โทร 0-2658-8888
บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด โทร 0-2680-4004
บริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย ซีมิโก้ จำกัด โทร 0-2695-5000
บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด โทร 0-2009-8351 ถึง 56
บริษัทหลักทรัพย์ อาร์เอชบี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โทร 0-2088-9999
<คำเตือนที่สำคัญ>
1). โปรดทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทนและความเสี่ยงก่อนตัดสินใจลงทุน การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วนก่อนตัดสินใจลงทุน
2). ตลาดตราสารหนี้ ในประเทศไทยมีสภาพคล่องต่ำ การขายตราสารในตลาดรองนั้น อาจได้รับมูลค่าขายตราสารลดลง หรือเพิ่มขึ้นได้ โดยขึ้นอยู่กับสภาวะและความต้องการของตลาดในขณะนั้น
3). อันดับความน่าเชื่อถือของผู้ออกตราสารเป็นเพียงข้อมูลประกอบการตัดสินใจลงทุนเท่านั้น มิใช่สิ่งชี้นำการซื้อขายตราสารหนี้ที่เสนอขาย และไม่ได้เป็นการรับประกันความสามารถในการชำระหนี้ของผู้ออกตราสาร และเมื่อผู้ออกหุ้นกู้หยุดจ่ายดอกเบี้ย (กรณีบริษัทไม่ได้แจ้งเลื่อนการจ่ายดอกเบี้ยหุ้นกู้) หรือเงินต้น ก็เป็นการผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ (Default) ซึ่งหากผู้ออกหุ้นกู้ประกาศล้มละลายหรือผิดนัดชำระหนี้หุ้นกู้ ผู้ถือหุ้นกู้และเจ้าหนี้อื่นของบริษัท จะมีบุริมสิทธิเหนือผู้ถือหุ้นสามัญของบริษัทผู้ออกหุ้นกู้ ในการประเมินความเสี่ยงด้านเครดิตของผู้ออกหุ้นกู้ ผู้ลงทุนสามารถดูผลการจัดอันดับความน่าเชื่อถือของหุ้นกู้หรือผู้ออกหุ้นกู้ (Credit Rating) ที่จัดทำโดยสถาบันจัดอันดับความเสี่ยงประกอบการตัดสินใจลงทุนได้ ถ้า Credit Rating ของหุ้นกู้หรือผู้ออกหุ้นกู้ต่ำ แสดงว่าความเสี่ยงด้านเครดิตของหุ้นกู้หรือผู้ออกหุ้นกู้สูง ผลตอบแทนที่ผู้ลงทุนได้รับควรจะสูงด้วยเพื่อชดเชยความเสี่ยงที่สูงของหุ้นกู้ดังกล่าว
bbb- credit rating 在 Fitch affirms PH's BBB credit rating but outlook remains negative 的推薦與評價
... <看更多>