Skincare review by @skinwithbes
“𝗙𝗘𝗥𝗥𝗔𝗥𝗢𝗦𝗦𝗔
𝗕𝗹𝗼𝗼𝗺 𝗗𝗲𝗲𝗽 𝗛𝘆𝗱𝗿𝗮𝘁𝗶𝗻𝗴 𝗥𝗼𝘀𝗲 𝗚𝗲𝗹 𝗠𝗼𝗶𝘀𝘁𝘂𝗿𝗶𝘀𝗲𝗿*
(MYR69.00) USD16.50 / 30g
𝗧𝗟:𝗗𝗥
/hydrating, soothing & moisturising at the same time/
⭐⭐⭐⭐⭐
𝗘𝘅𝗽𝗲𝗿𝗶𝗲𝗻𝗰𝗲.
This moisturizer comes in a glass jar with a screw cap and can be used daily in both AM & PM routines. It has awesome ingredients like Witch Hazel, Aloe Vera Leaf Extract, and Sodium Hyaluronate.
The texture is so satisfying – thick gel that spreads easily on the skin and leaves no apparent finishing due to its fast-absorbing property. It has no tackiness or greasiness at all so I can put several layers of this to be used as a sleeping mask. It has this unique floral scent, resembling rose scent but does not feel overwhelming or make me feel dizzy like any other rose-based product. Once you apply this to your skin, you can instantly sense the cooling effect and it lingers for quite some time. It helps to reduce my irritation and inflammation too! One layer is enough actually to deliver that hydration and despite it being in gel texture, it still holds some sort of weight to lock the moisture barrier. My skin feels adequately soft and supple. My pores also appear to be smaller, probably due to the Witch Hazel but so far, I have been really enjoying this moisturiser. Plus, the price is so affordable considering how little goes a long way.
No major complaints at all but I do understand that some people might not enjoy this due to its scent.
𝗙𝗶𝗻𝗮𝗹 𝘃𝗲𝗿𝗱𝗶𝗰𝘁.
Overall, this moisturiser has been my go-to lately and the texture is so unique that I sometimes just put it on my hands to play with it! Such an amazing experience!
Thank you 𝗙𝗘𝗥𝗥𝗔𝗥𝗢𝗦𝗦𝗔 for sending me this product!
What do you think of the rose-based product?” -Bes
*(PR)
share and save for future references 🥺
——
#roselgelmoisturiser #deephydrating #ferrarossa #frgirlboss #ferrarossabeauty #glowingskin #healthyskin @ferrarossabeauty @frgirlboss @ferra_rossa
同時也有26部Youtube影片,追蹤數超過1萬的網紅MingsuBingsu,也在其Youtube影片中提到,Don't be fooled fam, there's a LOT more involved than just monthly payments! This episode's timestamp guide: 00:00 Introduction 0:53 Main Budgets 1:4...
「for your references」的推薦目錄:
- 關於for your references 在 Ferrarossa Beauty Facebook 的精選貼文
- 關於for your references 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
- 關於for your references 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
- 關於for your references 在 MingsuBingsu Youtube 的精選貼文
- 關於for your references 在 jaysbabyfood Youtube 的最佳解答
- 關於for your references 在 Ghost Island Media 鬼島之音 Youtube 的精選貼文
- 關於for your references 在 "For your reference" or "For your information" - English ... 的評價
- 關於for your references 在 for your information 和for your reference 的區別/ 不一樣的英文 的評價
for your references 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
E-Road ถนนแห่งอนาคต ที่ชาร์จไฟ ให้รถยนต์ได้ /โดย ลงทุนแมน
ยานยนต์ไฟฟ้าเป็นการเปลี่ยนผ่านครั้งสำคัญของอุตสาหกรรมยานยนต์ทั่วโลก
แต่หนึ่งในปัจจัยที่ทำให้บางคนยังลังเล ที่จะเปลี่ยนมาใช้ยานยนต์ไฟฟ้าก็คือ
ความกังวลเรื่องระยะทางขับ ที่แบตเตอรี่อาจหมดระหว่างทาง
หรือที่เรียกว่า “Range Anxiety”
ซึ่งการลบจุดอ่อนนี้ นอกจากการพัฒนาความจุแบตเตอรี่และความเร็วในการชาร์จและการเร่งสร้างสถานีชาร์จแล้ว ก็คือ การชาร์จแบตเตอรี่ขณะขับขี่ยานพาหนะไปบนท้องถนนได้
ซึ่งนวัตกรรมดังกล่าว ถูกเรียกว่า Electric Road หรือ “E-Road”
แล้ว E-Road จะเข้ามาเติมเต็มอุตสาหกรรมยานยนต์ไฟฟ้าอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
แม้ว่ายอดขายรถยนต์ไฟฟ้าทั่วโลกในปี 2020 ที่ผ่านมา จะมีการเติบโตกว่า 40%
แต่ถ้ามาดูในภาพรวมของยอดขายรถยนต์ใหม่ทั่วโลก รถไฟฟ้ายังมีสัดส่วนของยานยนต์ไฟฟ้าเพียง 5%
ในขณะที่ประเทศสหรัฐอเมริกาซึ่งถือเป็นเจ้าแห่งนวัตกรรม กลับมีสัดส่วนยอดขายรถไฟฟ้าเพียง 2% เท่านั้น
ปัจจัยสำคัญที่ทำให้บางคนยังลังเลที่จะเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้าก็คือ “แบตเตอรี่”
ทั้งเรื่องความจุแบตเตอรี่ที่ยังไม่เพียงพอสำหรับการขับขี่ในระยะทางไกล ทำให้ต้องชาร์จบ่อย
สวนทางกับสถานีชาร์จที่ยังคงมีอยู่น้อย ซึ่งนี่ก็เป็นหนึ่งในนโยบายของประธานาธิบดีโจ ไบเดน
ที่ต้องการสร้างสถานีชาร์จยานยนต์ไฟฟ้า 5 แสนแห่งทั่วประเทศภายในปี 2030
แต่อีกหนึ่งนวัตกรรมที่เข้ามาช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ได้อย่างน่าสนใจไม่แพ้กันก็คือ “E-Road”
โดย E-Road คือนวัตกรรมในการสร้างถนนที่ทำให้ยานยนต์ไฟฟ้าสามารถชาร์จแบตเตอรี่ขณะขับขี่บนท้องถนนไปด้วยได้พร้อม ๆ กัน
แล้วที่ผ่านมา เทคโนโลยีในการสร้าง E-Road เป็นอย่างไร ?
สำหรับเทคโนโลยีการสร้าง E-Road แบบแรก ซึ่งมีมานานที่สุดก็คือ “ระบบรับไฟฟ้าแบบสายส่งเหนือหัว”
วิธีนี้จะเป็นการวางระบบสายไฟโยงอยู่เหนือยานพาหนะขณะขับขี่ไปด้วย ทำให้ยานพาหนะชาร์จแบตเตอรี่ได้โดยตรงจากสายไฟเหล่านั้นเลย
ตัวอย่างของบริษัทที่เลือกพัฒนาเทคโนโลยีนี้ก็คือบริษัทยักษ์ใหญ่ในประเทศเยอรมนีอย่าง Siemens
แต่แม้ว่าระบบรับไฟฟ้าแบบสายส่งเหนือหัวจะมีต้นทุนการวางระบบที่ไม่สูงมากนักและเป็นวิธีที่ส่งกระแสไฟฟ้าได้เร็ว เพราะเชื่อมต่อสายชาร์จไฟโดยตรง
แต่เทคโนโลยีดังกล่าวจะใช้ได้กับรถที่มีความสูง เช่น รถบรรทุกและรถบัสเท่านั้น การลงทุนในระบบนี้จึงมีข้อจำกัดสูงและไม่ค่อยคุ้มค่า
นั่นจึงนำมาสู่การพัฒนานวัตกรรมชาร์จแบตเตอรี่จากพื้นถนนแทน ซึ่งสามารถชาร์จแบตเตอรี่ให้กับยานยนต์ได้ทุกประเภท
เทคโนโลยีชาร์จแบตเตอรี่จากพื้นถนนที่นิยม จะแบ่งได้เป็น 2 แบบ
แบบแรกจะเป็น “ระบบรางนำไฟฟ้า” โดยจะติดตั้งรางไว้ที่ถนนตรงกลางเลนเสมอไปกับผิวถนน
ส่วนที่ใต้ท้องยานยนต์ไฟฟ้า ก็จะติดตั้งแท่งเหล็กที่สามารถพับเก็บได้แบบอัตโนมัติ
เมื่อยานยนต์วิ่งผ่านจุดที่ติดตั้งรางชาร์จไว้ ก็จะต้องปลดแท่งเหล็กนั้นลงมาให้สัมผัสกับรางเพื่อชาร์จไฟ
โดยตัวรางจะปล่อยกระแสไฟฟ้าเฉพาะเมื่อมียานยนต์ขับอยู่เท่านั้น จึงปลอดภัยสำหรับผู้คนที่เดินบนถนน
ตัวอย่างของบริษัทที่พัฒนาเทคโนโลยีนี้ก็เช่น บริษัทขนส่งขนาดใหญ่ของฝรั่งเศสอย่าง Alstom และ eRoadArlanda จากประเทศสวีเดน
แต่เทคโนโลยีชาร์จแบตเตอรี่จากพื้นถนนอีกรูปแบบที่น่าจับตามองและได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบันก็คือ “ระบบชาร์จไฟฟ้าแบบไร้สาย”
ระบบดังกล่าวจะทำให้ยานยนต์สามารถขับผ่านถนนแล้วชาร์จแบตเตอรี่ได้โดยไม่ต้องมีการเชื่อมต่อกับถนนเลย ซึ่งหลายคนน่าจะคุ้นเคย
เพราะเป็นเทคโนโลยีแบบเดียวกับแท่นชาร์จสมาร์ตโฟนไร้สายและมีพื้นฐานมาจากทฤษฎี วิธีการส่งพลังงานแบบไร้สาย ที่ Nikola Tesla ได้เคยเสนอไว้ตั้งแต่ในทศวรรษ 1890s
สำหรับการวางระบบที่ถนนจะต้องลอกผิวยางมะตอยออก แล้วติดตั้งแผ่นขดลวดทองแดงเหนี่ยวนำ หรือที่เรียกว่าคอยล์ ซึ่งมีคุณสมบัติในการสร้างสนามแม่เหล็กไฟฟ้า
โดยแผ่นคอยล์เหล่านี้จะเชื่อมต่อกับสายไฟที่วางระบบไว้ใต้ดินอยู่แล้ว ทำให้ไม่ต้องเดินระบบไฟใหม่
หลังจากติดตั้งเสร็จแล้วก็ลาดยางมะตอยทับ ซึ่งยางมะตอยมีคุณสมบัติป้องกันการเกิดไฟฟ้าลัดวงจรอยู่ในตัว
โดยระบบรางและระบบไร้สาย จะติดตั้งบนถนนเป็นช่วง ๆ เท่านั้น ไม่ได้ทำตลอดถนนทั้งเส้น เลยทำให้ปลอดภัยและไม่รบกวนผู้คนที่เดินบนถนน
ส่วนที่ตัวยานยนต์ไฟฟ้าจะติดตั้งแผ่นรับกระแสไฟฟ้าไว้ที่ใต้ท้องรถ ยานยนต์เหล่านี้จึงสามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ทันทีที่ขับผ่านถนนช่วงที่ติดตั้งแผ่นคอยล์ทองแดงไว้
แม้ว่าระบบชาร์จแบบไร้สายจะมีต้นทุนในการติดตั้งต่อระยะทาง 1 หน่วยที่สูงกว่าระบบรางเกือบเท่าตัว
แต่ระบบชาร์จแบบไร้สายก็มีข้อดีที่ผู้ลงทุนยอมแลกเพราะง่ายต่อการติดตั้งและใช้งานมากกว่าและมีค่าบำรุงรักษาที่ต่ำกว่า ทำให้ในระยะยาวแล้ว คุ้มค่ากับเงินลงทุนมากกว่านั่นเอง
เทคโนโลยีถนนชาร์จไฟฟ้าแบบไร้สายนี้ แม้ว่าจะมีการทดลองกันมานานแล้ว
แต่ประเทศแรกที่เริ่มใช้งานจริงได้ก็คือ ประเทศเกาหลีใต้
จุดเริ่มต้นก็มาจากโครงการนำร่องของสถาบันวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีขั้นสูงแห่งเกาหลี หรือ KAIST ในปี 2009 ที่ได้วิจัยและทดลองระบบ Online Electric Vehicle หรือ “OLEV” ซึ่งได้ทดลองวางระบบชาร์จไฟฟ้าแบบไร้สายในเลนของรสบัสและให้รถบัสที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้าวิ่งรับส่งผู้โดยสารด้วยการชาร์จไฟแบบไร้สาย
ระบบ OLEV เริ่มใช้งานจริงได้ในปี 2013 โดยเริ่มวิ่งรับส่งผู้โดยสารในเมือง Gumi แต่เพราะว่าในเวลานั้น รถบัสไฟฟ้ายังแทบไม่ได้รับความนิยม จึงยังไม่มีการผลิตรถบัสไฟฟ้าในเกาหลีใต้
ทีมวิศวกรจึงต้องดัดแปลงรถบัสแบบใช้น้ำมันให้กลายเป็นรสบัสไฟฟ้า
ซึ่งมีต้นทุนสูงหลักสิบล้านบาทต่อคัน โครงการนำร่องนี้จึงถูกพักไว้
แต่เมื่อรัฐบาลเกาหลีใต้ตั้งเป้าจะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกจนเหลือศูนย์
โครงการ OLEV จึงถูกนำมาปัดฝุ่นใหม่ และจะเริ่มต้นทดลอง
โครงการนำร่องได้อีกครั้งในเดือนกรกฎาคมนี้ที่เมือง Daejeon เป็นระยะทาง 14 กิโลเมตร
อีกหนึ่งประเทศที่รัฐบาลจริงจังกับการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกก็คือ ประเทศสวีเดน
ที่ต้องการวางระบบถนนชาร์จแบตเตอรี่ไร้สายให้ได้ 2,400 กิโลเมตร ภายในปี 2037
นับตั้งแต่ปี 2013 รัฐบาลได้ริเริ่มโครงการ E-Road ขึ้น และต่อมาก็ได้กลายเป็นประเทศแรกในโลก
ที่สร้างระบบชาร์จไฟฟ้าไร้สายบนถนนที่ให้ยานยนต์ไฟฟ้าทั่วไปวิ่ง แม้จะยังเป็นระยะทางสั้น ๆ
อีกโครงการใหญ่ของรัฐบาลสวีเดนที่เริ่มเมื่อ 2 ปีที่แล้วก็คือ เส้นทางรถบัสไฟฟ้าชาร์จแบตเตอรี่แบบไร้สาย เพื่อรับส่งผู้โดยสารจากสนามบินไปยังเกาะ Gotland เป็นระยะทาง 4 กิโลเมตร
แต่ระบบชาร์จไร้สายที่รัฐบาลสวีเดนเลือกใช้ เป็นเทคโนโลยีจากสตาร์ตอัปของประเทศอิสราเอลที่ชื่อว่า “ElectReon” ที่เริ่มก่อตั้งในปี 2013 และเป็นผู้นำด้านนวัตกรรมถนนชาร์จไฟฟ้าแบบไร้สายอยู่ในปัจจุบัน
หลังจากวางระบบให้กับประเทศสวีเดนแล้ว ElectReon ก็ได้เริ่มทดลองระบบในประเทศอิสราเอลด้วยเช่นกัน โดยเริ่มโฟกัสที่รถบัสไฟฟ้า
ElectReon ได้วางระบบชาร์จไร้สายบนถนนระยะทาง 2 กิโลเมตรในเมือง Tel Aviv ประเทศอิสราเอล ด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบัน รถบัสในเมืองสามารถวิ่งได้ทั้งวันโดยใช้เวลาชาร์จแบตเตอรี่รวมทั้งหมด 2 ชั่วโมง
และสิ่งที่ต้องจับตาในการพัฒนาเทคโนโลยีของถนนชาร์จไฟฟ้าแบบไร้สายต่อจากนี้ ก็คือการเพิ่มความเร็วในการชาร์จแบตเตอรี่ด้วยกำลังไฟที่สูงขึ้น
นอกจากประเทศเกาหลีใต้ สวีเดน และอิสราเอลแล้ว ก็ยังมีอีกหลายประเทศที่รัฐบาลเลือกสนับสนุนเทคโนโลยีถนนชาร์จแบตเตอรี่ไร้สายมากกว่าการเพิ่มจำนวนสถานีชาร์จไฟฟ้า โดยเฉพาะประเทศในยุโรปอย่างเช่น เยอรมนี อิตาลี และสหราชอาณาจักร รวมไปถึงหนึ่งในประเทศผู้นำยานยนต์ไฟฟ้าอย่างจีน
จากเรื่องราวของ E-Road ก็คงพอสนับสนุนมุมมองที่ว่านวัตกรรมถนนชาร์จไฟฟ้าแบบไร้สายนี้
ดูจะเป็นทางออกที่สำคัญ
ที่จะช่วยเร่งให้ผู้คนหันมาใช้ยานยนต์ไฟฟ้าได้เร็วมากขึ้นนั่นเอง..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.bloomberg.com/news/articles/2021-07-06/israel-s-electreon-charges-electric-car-batteries-on-the-go
-https://www.wsj.com/articles/these-companies-want-to-charge-your-electric-vehicle-as-you-drive-11610965800
-https://www.wsj.com/articles/SB10001424127887323980604579030340856307338
-https://www.businessinsider.com/electreon-wireless-electric-road-that-charges-electric-vehicles-2020-6
-https://www.cnbc.com/2020/06/08/researchers-work-on-the-next-generation-of-wireless-charging-for-evs.html
-http://www.koreaherald.com/view.php?ud=20210711000076
-https://www.ev-volumes.com
-https://www.statista.com/statistics/1236625/electric-vehicle-global-sales-by-region/
for your references 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳解答
Mark Cuban จากเด็กขายถุงขยะ สู่ มหาเศรษฐีแสนล้าน /โดย ลงทุนแมน
เมื่อพูดถึงวงการอาหาร หลายคนคงจะนึกถึง Gordon Ramsay
ชายที่เต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราด แต่ฝีไม้ลายมือและความอัจฉริยะด้านอาหาร
ก็เปี่ยมไปด้วยคุณภาพจนเถียงไม่ออก
สำหรับวงการธุรกิจเอง ก็มีคนหนึ่งที่มีบุคลิกคล้าย Ramsay ไม่มีผิด
เขาคนนั้นก็คือ Mark Cuban มหาเศรษฐีวัย 63 ปี ผู้ที่เด็ดขาดกับเรื่องธุรกิจ
และเป็นหนึ่งในนักลงทุนที่สร้างผลตอบแทนได้อย่างมหาศาล
เขาคนนี้มีจุดเริ่มต้นเป็นเพียงเด็กธรรมดาคนหนึ่ง
แต่ปัจจุบัน เขาได้ก้าวขึ้นมาเป็นมหาเศรษฐีแสนล้าน
แล้วเรื่องราวของ Cuban น่าสนใจอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
Mark Cuban เกิดในเมืองพิตต์สเบิร์ก รัฐเพนซิลเวเนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา ปี 1958
โดยพ่อของเขาประกอบอาชีพเป็นช่างทำเบาะรถยนต์และแม่ของเขาทำงานรับจ้างทั่วไป
จุดเริ่มต้นของเส้นทางการเป็นผู้ประกอบการของ Cuban เกิดขึ้นเมื่อเขามีอายุเพียง 12 ปี
ในขณะนั้น เขาได้ขอเงินจากพ่อเพื่อซื้อรองเท้าคู่ใหม่ แต่แทนที่จะได้รองเท้า
เขากลับได้คำตอบที่จำได้ไม่เคยลืมว่า รองเท้าที่เขามีนั้นดีอยู่แล้ว ไม่เห็นจำเป็นที่จะต้องซื้อใหม่เลย แต่ถ้าอยากได้รองเท้าคู่ใหม่ ก็ต้องทำงานเก็บเงินเอง จะได้มีเงินซื้อ
คำพูดของพ่อเขาทำให้ Cuban เกิดแรงบันดาลใจในการหาเงินด้วยตัวเอง
จึงนำไปสู่ธุรกิจแรกในชีวิตคือ “การขายถุงขยะ”
ไอเดียของเขาในตอนนั้นก็คือ ซื้อสินค้าราคาส่งมาขายในราคาปลีก
โดย Cuban เริ่มจากไปซื้อถุงขยะชุดใหญ่ในราคา 100 บาท แล้วนำมาแบ่งขายต่อราคา 200 บาท
สำหรับวิธีการขาย ก็คือเดินเคาะขายตามบ้านเรือนรอบข้างและจี้จุด Pain Point เพื่อกระตุ้นให้ผู้คนอยากซื้อ เช่น การอธิบายข้อเสียของการไม่มีถุงขยะและบอกข้อดีคือไม่ต้องเหนื่อยเดินทางออกไปซื้อเอง
จากธุรกิจนี้เอง ก็ได้ทำให้เขาตกหลุมรักการทำธุรกิจอย่างมาก เพราะเขารู้สึกว่านอกจากมันจะสร้างเงินได้แล้ว เขายังสนุกไปกับมันอีกด้วย
นั่นจึงทำให้ Cuban ในวัยเด็กรู้จักการหาเงินด้วยตัวเองอยู่เสมอ
ซึ่งนอกจากขายถุงขยะ เขายังขายของสะสม เช่น แสตมป์ หรือเหรียญต่าง ๆ ด้วย
ในเวลาต่อมา บริษัทสำนักพิมพ์ท้องถิ่นของเมืองที่ Cuban อาศัยอยู่
โดนพนักงานประท้วงหยุดงานจนต้องหยุดส่งหนังสือพิมพ์
Cuban ก็ได้ใช้เหตุการณ์นี้เป็นโอกาสเพราะเขามองว่านิสัยของคนมักชอบเสพและติดตามเหตุการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในโลก
ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจออกเดินทางไปเมืองอื่นเพื่อซื้อหนังสือพิมพ์ แล้วนำกลับมาวางขาย
และนั่นก็ทำให้เขาสามารถสร้างเงินก้อนใหญ่ให้กับตัวเองอีกครั้ง
แม้กระทั่งช่วงที่ศึกษาที่มหาวิทยาลัย
Cuban ก็ยังคงอยู่บนเส้นทางผู้ประกอบการเสมอ
เขาและเพื่อน ๆ เช่าบาร์ใกล้มหาวิทยาลัยเพื่อทำธุรกิจจัดงานปาร์ตี
ซึ่งได้ผลตอบรับที่ดี จนทำให้ในที่สุดเขาสามารถซื้อบาร์เป็นของตัวเองได้
เมื่อเรียนจบ Cuban เลือกกลับมาบ้านเกิดอีกครั้ง และทำงานที่ธนาคารแห่งหนึ่ง
แต่ในเวลาต่อมา เขาตระหนักได้ว่า เมืองนี้เล็กเกินกว่าที่จะได้เรียนรู้สิ่งใหม่
เขาจึงตัดสินใจลาออกและย้ายชีวิตไปอยู่เมืองดัลลัส รัฐเท็กซัส แทน
ก็ต้องบอกว่าช่วงแรกของเขาไม่ได้โรยไปด้วยกลีบกุหลาบอย่างที่คาดหวังไว้
เพราะ Cuban ต้องทำงานเป็นบาร์เทนเดอร์ ประทังชีวิตในแต่ละวัน และอาศัยอยู่ในอะพาร์ตเมนต์กับเพื่อนอีก 5 คน เพื่อประหยัดอดออม
แต่แล้วในที่สุดเขาก็ได้รับโอกาส เมื่อ “Your Business Software”
บริษัทซอฟต์แวร์รับเขาเข้าทำงาน ในตำแหน่งพนักงานขาย
ซึ่ง Cuban บอกว่าตอนแรกเขาไม่รู้เรื่องอะไรเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์เลย
แต่เขาก็ได้ใช้ความพยายามในการเรียนรู้ หากไม่รู้ในสิ่งไหนก็ศึกษาค้นคว้าเพิ่มเติม
Cuban ยังได้บอกอีกว่าแม้จะกลับมาที่พักดึกแค่ไหน เขาต้องอ่านหนังสืออยู่เสมอ และแม้กระทั่งที่ทำงาน ก็จะใช้เวลาในการเรียนรู้คอมพิวเตอร์อย่างเต็มที่
จากความพยายามครั้งนี้ จึงทำให้ตัวเขาเองมีความรู้ความเชี่ยวชาญมากขึ้น
ลูกค้าหลายรายจึงเชื่อใจในตัวเขา จนเขาสามารถสร้างยอดขายได้มหาศาล
เมื่อทุกอย่างกำลังไปได้ดี บริษัทที่เขาทำงานอยู่กลับไล่ Cuban ออก
เนื่องจากมองว่าเขากำลังสะสมลูกค้าเป็นของตัวเองมากเกินไป
ซึ่ง Cuban ก็ได้ยืนยันว่าเขาเพียงช่วยเพิ่มยอดขายให้กับบริษัทเท่านั้น
หลังจากถูกไล่ออก Cuban จึงตัดสินใจเอาคืน Your Business Software
ด้วยการเปิดบริษัทของตัวเองที่ชื่อว่า “MicroSolutions”
บริษัทที่จัดจำหน่ายซอฟต์แวร์และบริการให้คำปรึกษาด้านคอมพิวเตอร์
โดยในเวลานั้นเขาสามารถสร้างรายได้ต่อปีสูงที่สุดถึง 980 ล้านบาท
ซึ่งลูกค้าส่วนใหญ่ก็คือ ลูกค้าเก่าจากบริษัทที่ไล่เขาออกมา
ต่อมาเขาตัดสินใจขายธุรกิจจัดจำหน่ายซอฟต์แวร์ในปี 1990 ด้วยมูลค่าราว 200 ล้านบาท
เพื่อที่จะได้เกษียณการทำงานและกลับไปใช้ชีวิตของตนอย่างปกติ
แต่เมื่อเกษียณไปได้ไม่นาน Cuban กลับรู้สึกเบื่อและโหยหาการทำงานอีกครั้ง
เขาจึงเริ่มมองหาโอกาสการทำธุรกิจใหม่และก็ได้พบเข้ากับ AudioNet
บริการสตรีมการแข่งขันกีฬา ที่มีผู้ก่อตั้งคือ Christopher Jaeb
Cuban มองว่าบริการลักษณะนี้เป็นสิ่งที่ใคร ๆ ก็ต้องการ แม้กระทั่งตัวเขาเอง
เขาจึงให้เงินสนับสนุนไป และเมื่อ AudioNet เปิดให้บริการอย่างเป็นทางการ
บริษัทแห่งนี้ก็ได้ผลตอบรับที่ดีอย่างที่คาดการณ์ไว้
ทำให้เวลาต่อมา Cuban ตัดสินใจซื้อหุ้นจาก Jaeb จนกลายเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่
และได้เปลี่ยนชื่อบริษัทจาก AudioNet เป็น “Broadcast.com”
หลังจากนั้นไม่นาน บริษัทได้เสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไป หรือ IPO
ซึ่งก็ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมาก เพราะราคาหุ้นของ Broadcast.com
พุ่งขึ้นในวันแรกเกือบ 300% จึงทำให้ผู้ถือหุ้นรายใหญ่อย่าง Cuban ร่ำรวยอย่างก้าวกระโดด
และสิ่งที่ทำให้ Cuban รวยเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาลอีก คือการเข้ามาซื้อกิจการของ Yahoo
โดยเป็นการเข้าซื้อด้วยวิธีแลกหุ้นกัน ซึ่ง Cuban ก็ได้กลายเป็นผู้ถือหุ้นใน Yahoo
แต่หลังจากที่ Cuban ได้รับหุ้นมาแล้ว เขาก็ได้มองว่าอุตสาหกรรมเทคโนโลยีกำลังจะเกิดฟองสบู่แต่การแลกหุ้นกับ Yahoo ยังติดเงื่อนไขห้ามขายหุ้นอยู่ เขาจึงทำการประกันความเสี่ยงโดยใช้อนุพันธ์โดยร่วมมือกับ Goldman Sachs
และก็เป็นอย่างที่รู้กันดีว่าฟองสบู่ดอตคอมก็ได้เกิดขึ้นจริง
และ Cuban ก็สามารถรอดจากวิกฤติครั้งนั้นมาได้
นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา Cuban ได้นำเงินไปลงทุนในเหล่าธุรกิจอยู่เรื่อยมา
และเขาได้เข้าซื้อทีมบาสเกตบอลในดวงใจอย่าง Dallas Mavericks
ด้วยมูลค่าถึง 9,000 ล้านบาท
ช่วงที่ Cuban เข้าซื้อ Dallas Mavericks เป็นช่วงที่ Performance ของทีมตกอย่างมาก
อัตราการชนะของทีมอยู่ที่เพียง 40% เท่านั้น
แต่หลังจากการเข้ามาบริหารของ Cuban ทีม Dallas Mavericks ก็มีผลงานที่ดีขึ้นและอัตราการชนะของทีมเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 69%
สิ่งที่ Cuban ใช้สำหรับบริหารทีม คือ การใช้ความเป็นแฟนคลับผสมกับความสามารถด้านธุรกิจ
เช่น สำหรับแฟนคลับ เขาเองก็เป็นแฟนบาสเกตบอลเช่นกัน จึงทำให้รู้ว่าคนต้องการอะไร
เขาลงทุนในสิ่งต่าง ๆ ที่ช่วยให้แฟนคลับได้รับประสบการณ์ที่ดี อย่างช่องทางการสื่อสารกับผู้เล่น
นอกจากนั้น ก็ยังมีเรื่องของการดูแลและสนับสนุนผู้เล่นในทีม
Cuban สนับสนุนและดูแลสมาชิกของทีมในหลาย ๆ เรื่องอย่างที่พักและการเดินทาง
ซึ่งแตกต่างจากเจ้าของทีมคนเก่า ที่ดูจะไม่ค่อยให้การสนับสนุน
และนั่นก็เปรียบเหมือนว่า Cuban ให้ใจกับพวกเขา จึงทำให้ผู้เล่นในทีมมีความสุขและมีความเชื่อมั่น ทั้งหมดนี้จึงส่งผลให้การซ้อมและการแข่งขันเป็นไปอย่างเต็มที่
เขาเป็นคนที่คอยช่วยสร้าง Culture ใหม่ในทีมร่วมกับโค้ช Don Nelson ด้วย
เพื่อให้สมาชิกในทีมคลิกกันและให้ความสำคัญกับผลงานมากกว่าความอาวุโส
อีกส่วนสำคัญคือ การใช้ข้อมูลในการวิเคราะห์
โดย Cuban จ้าง Roland Beech นักคณิตศาสตร์สถิติ เพื่อเก็บข้อมูลตัวเลขต่าง ๆ ของผู้เล่น
แล้วนำมาวิเคราะห์ ในการวางแผนกลยุทธ์สำหรับการแข่งขัน และนั่นก็ส่งผลให้ทีมมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
จากการเข้ามาบริหารของ Cuban ส่งผลให้ Dallas Mavericks กลับมามีชื่อเสียงอีกครั้ง
และมีการประเมินว่า มูลค่าทีมปัจจุบันสูงถึง 80,000 ล้านบาท
โดยสิ่งที่ทำให้เขามีชื่อเสียงโด่งดังไม่ใช่เพียงแค่ Broadcast.com กับ Dallas Mavericks เท่านั้น
แต่การมาเป็นนักลงทุนในรายการ Shark Tank ก็ทำให้ชื่อเสียงของเขาพุ่งทะยานอีก เช่นกัน
Shark Tank คือรายการสุดฮิตของสหรัฐอเมริกาที่เหล่าผู้ประกอบการจะต้องพรีเซนต์ให้นักลงทุนฟัง
เพื่อโน้มน้าวนักลงทุนให้มาลงทุนในธุรกิจของตน
ด้วยสไตล์การวิพากษ์วิจารณ์ธุรกิจของเขาที่ให้แก่ผู้ประกอบการอย่างดุดันและตรงไปตรงมา
ซึ่งอาจจะฟังแล้วเจ็บแสบ แต่ล้วนเป็นความรู้และข้อคิดที่ดี
จึงทำให้มีแฟนคลับมากมาย ทั้งนักธุรกิจ นักลงทุน รวมถึงผู้รับชมทั่วไป
ตั้งแต่ Cuban เข้าร่วมรายการ Shark Tank
เขาลงทุนไปแล้วรวมธุรกิจมากกว่า 80 แห่ง
คิดเป็นมูลค่ารวมกว่า 650 ล้านบาท
นอกจากนี้ เขายังได้ลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวกับกลุ่ม Blockchain และ Cryptoasset อีกด้วย
เช่น OpenSea และ SuperRare แพลตฟอร์มซื้อขาย NFT ขนาดใหญ่
Polygon Blockchain ที่ได้รับความนิยมในช่วงที่ผ่านมา
ซึ่งนั่นแสดงให้เห็นว่า แม้เขาจะอายุ 60 กว่าปีแล้ว แต่ก็ไม่หยุดที่จะเรียนรู้และเปิดรับสิ่งใหม่
ปัจจุบัน Cuban ยังคงเป็นทั้งผู้ประกอบการและนักลงทุนไปพร้อม ๆ กัน
จึงทำให้เขามีมูลค่าทรัพย์สินรวมที่ 140,000 ล้านบาท
ปิดท้ายด้วยคำกล่าวของ Mark Cuban
ที่ได้พูดถึงเคล็ดลับความสำเร็จของเขาว่า
“สิ่งที่ทำให้เขาประสบความสำเร็จนั้น
เกิดขึ้นจากความพยายามค้นหาและศึกษาหาความรู้อยู่ตลอดเวลา
สิ่งเหล่านี้เอง ที่คนส่วนใหญ่ไม่มี จึงทำให้เขาได้เปรียบในการแข่งขันอยู่เสมอ”
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References
-https://www.cnbc.com/2020/10/05/mark-cuban-this-is-the-best-investment-i-ever-made.html
-https://en.wikipedia.org/wiki/Mark_Cuban
-https://www.capitalism.com/mark-cuban-net-worth/
-https://markcubancompanies.com/marks-bio/
-https://www.sportscasting.com/how-much-did-mark-cuban-pay-for-the-dallas-mavericks/
-https://www.businessinsider.com/how-mark-cuban-turned-around-dallas-mavericks-2015-4
for your references 在 MingsuBingsu Youtube 的精選貼文
Don't be fooled fam, there's a LOT more involved than just monthly payments!
This episode's timestamp guide:
00:00 Introduction
0:53 Main Budgets
1:43 Baby toast please
2:14 Upfront payments
2:45 COST 1 = BANK LOANS & DOWNPAYMENTS
4:31 Baby break
4:50 Added notes: Booking fees
5:35 COST 2= REPAIRS
7:04 COST 3 = LEGAL FEES
9:01 Baby break 2
9:41 Welcoming the finance minister of our home
10:12 COST 4 = Furniture
12:04 Baby break 3
12:20 Suyen's Tip = Bring a contractor to the property for quotes
13:20 COST 5 = Electronics & Plumbing
15:10 COST 6 = Misc. Fees
16:04 Baby break 4
16:13 COST 7 = AFTER-FUNDS
17:27 Closing Notes from us!
BIG SHOUTOUT to the PropertyGuru team!
For your references! (Surf around their site for more!)
Guides for LEGAL FEES shenanigans: https://bit.ly/3mqUPaT
Should you pay off your home loan early? https://bit.ly/2Ts2ZUf
Home Loan Tools & Calculators: https://bit.ly/3oyDsqv
SUBSCRIBE FOR MORE VIDEOS!
OR tell us what you would like to talk about! :)
--------
FOLLOW US UP AT
Suyen: @suyenpang
MingH: @dmingthing
for your references 在 jaysbabyfood Youtube 的最佳解答
#jaysbabyfood #storytime #lgbtinkorea
-----------------------------------------
- References -
- Ahn, P. (2009). Harisu: South Korean cosmetic media and the paradox of transgendered neoliberal embodiment. Discourse, 31(3), 248-272.
- Arora, S., Singhai, M., & Patel, R. (2011). Gender & Education determinants of individualism — Collectivism: A study of future managers. Indian Journal of Industrial Relations, 47(2), 321-328.
- Berry, C. (2001). Asian values, family values: Film video, and lesbian and gay identities. In Sullivan, G., & Jackson P. (Ed.), Gay and lesbian Asia: Culture, identity, community. (pp. 211-232). Binghamton, NY: Harrington Park Press.
- Bong, Y. D. (2008). The gay rights movement in democratizing Korea. Korean Studies, 32(1), 86-103.
- Cho, J. P. (2009). The wedding banquet revisited: "Contract marriages" between Korean gays and lesbians. Anthropological Quarterly, 82(2), 401-422.
- Choi, J. S. (2014). Korean culture orientation: Daily-life and religious culture volume. Sonamoo Publishing.
- Jang, H. S. (n.d.). Resource center of young women service review (늘푸른 사업 리뷰). Retrieved from http://www.seoul.go.kr/info/organ/center/1318_new/info/review/1253299_13874.html
- Kim, H. Y., & Cho, J. P. (2011). The Korean gay and lesbian movement 1993-2008: from "identity" and "community" to "human rights". South Korean Social Movements: From Democracy to Civil Society, 206-223.
- Kim, Y., & Hahn, S. (2006). Homosexuality in ancient and modern Korea. Culture, Health & Sexuality, 8(1), 59-65.
- Kwak. L. G. (2012, April 25). Who murdered a 19-year old LGBT teen (누가 열아홉살 동성애자를 죽였나). Oh My News. Retrieved from http://www.ohmynews.com/nws_web/view/at_pg.aspx? CNTN_CD=A0001724998
- Lee, J. E. (2006). Beyond pain and protection: Politics of identity and iban girls in Korea. In Khor, D., & Kamano, S. (Ed.), Lesbians in east Asia: Diversity, identities, and resistance. (pp. 49-67). Binghamton, NY: Harrington Park Press.
- Novak, K. (2015). The problem with being gay in South Korea. Retrieved from http://edition.cnn.com/2015/10/18/asia/south-korea-being-gay/
- Park, H., Blenkinsopp, J., Oktem, M., & Omurgonulsen, U. (2008). Cultural orientation and attitudes toward different forms of whistleblowing: A comparison of South Korea, Turkey, and the U.K. Journal of Business Ethics, 82(4), 929-939.
- Seo, D. J. (2001). Mapping the vicissitudes of homosexual identities in South Korea. Journal of Homosexuality, 40, 65-79.
- Song, J. (2014). Living on your own: Single women, rental housing, and post-revolutionary affect in contemporary South Korea. SUNY Press.
- Do Koreans Support LGBTQ+? (Ft. Seoul Queer Parade) | ASIAN BOSS https://youtu.be/p_vsIEs72p8
- Koreans React To K-pop Singer Coming Out As Bisexual [Street Interview] | ASIAN BOSS https://www.youtube.com/watch?v=BKL9VrqLJZE
- Is South Korea's LGBT+ community being scapegoated for COVID-19 spread? https://www.dw.com/en/is-south-koreas-lgbt-community-being-scapegoated-for-covid-19-spread/a-53423958
----------------------------------------
- SNS -
Facebook: https://www.facebook.com/jaysbabyfood/
Twitter: https://twitter.com/jaysbabyfood
Instagram: https://www.instagram.com/jaysbabyfood/
----------------------------------------
- Production -
✂️Final Cut Pro
Music by Eric Reprid - Back to Business - https://thmatc.co/?l=3ED40649
Music by ninjoi. - Acceptance - https://thmatc.co/?l=B8A316A
Music by Cassette Tapes - Balance - https://thmatc.co/?l=55784255
----------------------------------------
- Business Inquiries Only -
jaysbabyfood@gmail.com
or LINE: @jaysbabyfood (with @)
----------------------------------------
for your references 在 Ghost Island Media 鬼島之音 Youtube 的精選貼文
What is it like working for giant corporations? What is it like holding corporate executives responsible for their impact on society? Nature N8 sits down with Christine Bader, former head of CSR for Amazon, and before that, a long-term employee at BP.
We discuss how Christine’s experiences in Indonesia, China, and the U.K. led her to revelations about sustainability and work culture, and where we can begin to think about the life we really want. Now, Christine is the co-founder of The Life I Want, a story-telling project reimagining a future of work that works for all.
Here are references discussed in the episode:
+ New project by Christine: “The Life I want” (2018): https://www.thelifeiwant.co/
+ Reuters article by Christine: Commentary: Red Hen, Microsoft and the power of workplace activism (2018): https://www.reuters.com/article/us-bader-activism-commentary/commentary-red-hen-microsoft-and-the-power-of-workplace-activism-idUSKBN1JO29K
+ NYT article by Christine: The Year I Learned to Quit (2018): https://www.nytimes.com/2018/04/27/well/the-year-i-learned-to-quit.html
+ Book by Christine: “Evolution of a Corporate Idealist: When Girl Meets Oil” (2014): https://www.amazon.com/Evolution-Corporate-Idealist-When-Meets/dp/1937134881/
+ NYT article by John Elkington Opinion | Going Green (2012): https://www.nytimes.com/2012/06/22/opinion/global-agenda-magazine-going-green.html
+ A book by Wayne Muller: A Life of Being, Having, and Doing Enough (2011): https://www.amazon.com/Life-Being-Having-Doing-Enough/dp/0307591395
WASTE NOT WHY NOT
Support us on Patreon:
http://patreon.com/wastenotwhynot
Subscribe to our newsletter:
https://wastenotwhynot.substack.com/
Follow us on Twitter:
https://twitter.com/wastenotpod
Send your questions to:
ask@wastenotwhynot.com
SHOW CREDIT
Emily Y. Wu (Producer / Editing)
https://twitter.com/emilyywu
Nate Maynard (Producer)
https://twitter.com/N8MAY
Yu-Chen Lai (Production Assistant / Editing)
https://twitter.com/aGuavaEmoji
Thomas Lee (Brand Design)
Ghost Island Media (Production Company)
https://twitter.com/ghostislandme
www.ghostisland.media
MB01WR8IJHWPCOG
for your references 在 "For your reference" or "For your information" - English ... 的推薦與評價
In your answer, you have not adressed the difference between "for your information" and "for your reference". The former means that the reader is to be notified ... ... <看更多>
相關內容