[Keywords / #法式甜點關鍵詞] 為什麼法式甜點需要鑑賞? / Why "tasting" is needed when we enjoy french pastries? (for English, please click "see more")
「吃東西就好好吃、幹嘛搞那麼複雜?」、「法式甜點難道比其他甜點高級?幹嘛要知道那麼多?」、「好吃就好了,知道更多難道它會變得更好吃嗎?」你是不是也有相同的疑問呢?今天就讓我們用 #詳細案例解析與書籍介紹 來回答這些問題吧!
📌 #吃與品嚐的差別:
「動物求飽足而人類吃東西,但唯有智者才懂得怎麼吃。」
👉👉 來看看創立世界第一個美食評鑒(可不是米其林喔!)、為品嚐美食寫了一整本探討「味覺」對生理產生的影響、甚至連「美食家」都有至少四個不同單字代表的法國人怎麼說!
📌 #飲食是瞭解人和瞭解異文化的途徑:
「告訴我你吃什麼,我就知道你是怎麼樣的人。」
👉👉 你知道在法國,「開心果與覆盆子」、「鳳梨與茉莉花茶」、「熱帶水果與芫荽」是非常常見的甜點口味組合嗎?如果不了解經典甜點的結構組成,又怎麼能看懂創作者在哪裡做了變化、哪裡是原創、哪裡是傳統、哪裡又是從別人那裡得到的靈感與借鏡?
📌 #品味甜點就是藝術鑑賞:
「餐桌是唯一一個在開頭一小時內絕對不會讓人感到無聊的地方。」
👉👉 如果在一小時之後你還感到無聊,那一定是甜點還沒上桌的緣故!
點開連結,讓我們一起進入法式甜點迷人多彩的世界!
(本文提到的幾本重要書籍皆有中譯本,有興趣的讀者不用懂法文、在台灣也能欣賞!)
*****
"Let's just eat, why making it so complicated?",
"Are French pastries 'more premium' than pastries from other countries or cultures? Why do we need to know that much?",
"It's alright as long as it tastes good! Would it taste better if we know more about it?"
Have you ever posed questions like the above? Let's have a look and try to answer them today!
📌 The difference between "eating" and "tasting":
"Animals feed themselves; men eat; but only wise men know the art of eating."
👉👉 The French have created the world's first food and restaurant guide, wrote a whole book meditating on the influences of taste on human physiology, such as sleep, dreams, sex, and even death; they have at least four different words referring to a foodie. Let's have a look on what they say about "tasting".
📌 Through food and eating, we get to know people and foreign cultures:
"Tell me what kind of food you eat, and I will tell you what kind of man you are."
👉👉 Do you know in France, the match between pistachio and raspberries, pineapples and jasmine tea, and tropical fruits and coriander are very common? If you have no idea on the composition and essentials of classics, how would you know the original ideas, modifications, as well as the inspirations the chef has drawn from elsewhere?
📌 Pastry and dessert tasting is an art and aesthetic experience:
"The table is the only place where one does not suffer, from ennui during the first hour."
👉👉 If you feel bored after the first hour, this must be the fact that desserts are not served yet.
Click on the following link and let's dive into the wonderful world of French pastries!
#yingspastryguide #frenchpastrykeywords #dégustation #tasting 三采文化Suncolor 時報出版 馬可孛羅文化 Ritz Paris François Perret Four Seasons Hotel George V Paris Maxime Frederic
「how to answer where are you from in french」的推薦目錄:
- 關於how to answer where are you from in french 在 Ying C. 一匙甜點舀巴黎 Facebook 的最佳解答
- 關於how to answer where are you from in french 在 Opal Panisara Official Facebook 的最佳貼文
- 關於how to answer where are you from in french 在 Sam Tsang 曾思瀚 Facebook 的最讚貼文
- 關於how to answer where are you from in french 在 Ways of saying “you're welcome” in French 的評價
- 關於how to answer where are you from in french 在 Learn French - Facebook 的評價
how to answer where are you from in french 在 Opal Panisara Official Facebook 的最佳貼文
ที่สุด ❤
จำสี่ชื่อนี้ให้ดีครับ
Vern Unsworth
John Volanthen
Rick Stanton
Dr. Richard Harris
เพราะสี่ท่านนี้คือผู้ที่โชคชะตาพาให้เข้ามาเกี่ยวข้องกับภารกิจนี้อย่างไม่น่าเชื่อ ที่ TAF จะมาเล่าให้ฟังกันครับ
-----------------------------------------------------------
Vern Unsworth
นักสำรวจถ้ำชาวอังกฤษ ผู้มีภรรยาเป็นคนไทย และอาศัยอยู่ในจังหวัดเชียงรายมา 7 ปี หลังจากทราบข่าวว่าเด็ก ๆ หายเข้าไปในถ้ำหลวง เขาก็รีบมาเสนอความช่วยเหลือทันที เพราะตัวเขาเองเข้าออกถ้ำหลวงมาแล้วหลายครั้ง เขารู้จักซอกมุมในนั้นเป็นอย่างดี
แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ โน้ตกระดาษแผ่นเล็ก ๆ ที่เขียนส่งให้เจ้าหน้าที่ไทย
Time is running out! (เวลาใกล้หมดแล้ว!)
1. Rob Harper
2. Rick Stanton MBE (MBE คือเครื่องราชอิสริยาภรณ์ชั้น The Order of the British Empire)
3. John Volanthen
They are the world's best cave diver (พวกเขาคือนักดำน้ำในถ้ำที่เก่งที่สุดในโลก)
Please contact them through (กรุณาติดต่อพวกเขาผ่าน)
UK EMBASSY ASAP (สถานทูตสหราชอาณาจักร อย่างเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้)
ต้องขอบคุณที่เจ้าหน้าที่ไทยฟังเขา และติดต่อไปยังกระทรวงการต่างประเทศ ซึ่งติดต่อไปยังสถานทูตสหราชอาณาจักร ที่ก็รีบติดต่อไปยัง British Cave Rescue Council ซึ่งทั้งสามท่านตกลงที่จะเดินทางมาประเทศไทย กระทรวงการต่างประเทศไทยจึงออกตั๋วเครื่องบินของการบินไทยให้อย่างเร่งด่วน
-----------------------------------------------------------
John Volanthen และ Rick Stanton
คู่บัดดี้ดำน้ำในถ้ำสองท่านนี้คือนักดำน้ำในถ้ำที่เก่งที่สุดในโลก เจ้าของสถิติโลกการดำน้ำในถ้ำที่ยาวที่สุดกว่า 9 กิโลเมตรในสเปนเมื่อปี 2011
Rick Stanton เป็นนักดับเพลิงในโคเวนทรี ผู้ซึ่งได้ได้แรงบันดาลใจในการดำน้ำในถ้ำจากการดูสารคดี Underground Eiger เกี่ยวกับนักดำน้ำสองคนที่พยายามทำสถิติโลกการดำน้ำในถ้ำในตอนนั้น และทำให้เขาตัดสินใจได้ว่า การดำน้ำในถ้ำคือสิ่งที่เขาอยากจะทำ
John Volanthen วิศวกรคอมพิวเตอร์ที่ก็ได้แรงบันดาลใจจากการดำน้ำในถ้ำมาตั้งแต่ยังเป็นวัยรุ่น ด้วยบุคลิคที่มุ่งมั่นและเอาจริงเอาจัง เขารักการดำน้ำในถ้ำมาก มากถึงขนาดที่ในวันแต่งงาน เขาตัดสินใจไปดำน้ำในถ้ำเพื่อแก้เครียด
แม้ว่าพวกเขาจะไม่ชอบการเป็นจุดสนใจ และยืนยันว่าการดำน้ำในถ้ำเป็นแค่กิจกรรมยามว่างและงานอาสาสมัครเท่านั้น แต่พวกเขาทั้งสองคนสร้างวีรกรรมที่กล้าหาญที่ช่วยชีวิตคนมาแล้วหลายคน
หนึ่งในภารกิจที่มีชื่อเสียงที่สุดของ Rick Stanton ก็คือการดำน้ำเข้าไปช่วยเหลือทหารอังกฤษที่ติดอยู่ในถ้ำนานถึง 8 วันในเม็กซิโกเมื่อปี 2004 ซึ่งเขาดำไปพบและได้ช่วยให้กำลังใจและสร้างแรงผลักดันให้ทหารรายหนึ่งที่กลัวน้ำให้กล้าที่จะดำน้ำความยาวกว่า 180 เมตรออกมาจากถ้ำได้สำเร็จ
และเมื่อเขามาพบกับ John Volanthen ทั้งสองคนก็กลายมาเป็นคู่บัดดี้ที่เก่งที่สุดในโลก ที่รัฐบาลฝรั่งเศสเชิญพวกเขาไปค้นหานักดำน้ำในถ้ำที่หายไปในถ้ำลึกกว่า 1 กิโลเมตร โดยสมาคมกู้ภัยและช่วยชีวิตของอังกฤษ Royal Humane Society บอกว่าพวกเขาเป็น "นักดำน้ำในถ้ำเพียงไม่กี่คนในโลกที่มีทักษะและอุปกรณ์ และอยู่ใกล้ที่สุด" ซึ่งพวกเขาใช้เวลา 8 วันในการค้นหาร่างผู้เสียชีวิตจนพบ รวมถึงในปี 2014 ที่รัฐบาลนอร์เวย์ขอให้เขาทั้งสองช่วยค้นหาศพของนักดำน้ำในถ้ำสองรายที่เสียชีวิตในถ้ำอีกด้วย
พวกเขาไม่ต้องการมีชื่อเสียง ชอบอยู่เงียบ ๆ และทำกิจกรรมที่เขารัก แต่เมื่อมีเหตุการณ์เกิดขึ้น พวกเขาก็พร้อม พวกเขามาถึงประเทศไทยและเริ่มปฏิบัติงานทันที ทักษะและประสบการณ์ของเจ้าของสถิติโลกการดำน้ำในถ้ำนั้นช่วยให้ #หน่วยซีล ของไทยปฏิบัติงานได้ง่ายและปลอดภัยขึ้น
แม้ต้องล่าถอยออกจากถ้ำทั้งหมดจากฝนที่ตกกระหน่ำเมื่อราววันที่ 28 มิถุนายน จนมีภาพที่ผู้สื่อข่าว #BBC พยายามถามพวกเขาทั้งสองที่เดินออกมาจากถ้ำเพราะน้ำท่วมกระหน่ำว่า มีอะไรอัพเดตกับ BBC ไหม แต่ได้คำตอบเป็นหน้าบูด ๆ และสายตาที่ไม่แม้แต่จะมองนักข่าว BBC คนนั้น
เมื่อสภาพอากาศเป็นใจ พวกเขาวางแผนกลับเข้าไปอีกครั้ง และครั้งนี้เป็นการวาง "ค่ายกล" ที่ประกอบด้วยเชือกนำทางและถังอากาศทุก ๆ 25 เมตรตลอดทางที่พวกเขาไป
ซึ่งก็เป็นทั้งสองคนนั่นเองที่พบเด็ก ๆ ทั้ง 13 คน ที่พวกเขาเล่าว่า เชือกที่นำทางนั้นหมดลง ทำให้เขาต้องขึ้นสู่ผิวน้ำ และพบกับสายตาทั้ง 13 คู่ที่มองลงมา
"How many of you?" ในวิดีโอของหน่วยซีลของไทยก็คือเสียงของ John Volanthen นั่นเอง
แม้ว่าพวกเขาจะพบเด็ก ๆ แล้ว แต่นั้นก็นำมาสู่ปัญหาต่อไปว่าจะพาเด็ก ๆ ออกมาอย่างไร เมื่อทางเลือกอย่างการเจาะถ้ำนั้นยังไกลจากความเป็นจริง และระดับของออกซิเจนในถ้ำที่ลดลงจนเป็นส่วนหนึ่งที่นำมาสู่การเสียชีวิตของจ่าเอกสมาน กุนัน อดีตนักทำลายใต้น้ำ/จู่โจมของกองทัพเรือไทย ประกอบกับ #พยากรณ์อากาศ ที่เชื่อว่าจะมีฝนตกลงมามากกว่านี้ในอีกไม่กี่วัน ทำให้พวกเขาต้องเลือกทางที่เสี่ยงที่สุด เป็นทางเลือกที่ทุกคนไม่เชื่อว่าจะเป็นไปได้ และไม่เคยมีใครทำมาก่อนในโลกนี้
คือการให้เด็ก ๆ ดำน้ำออกมาทางเดิม!
-----------------------------------------------------------
Dr. Richard Harris
นั่นทำให้ทั้งสองได้ร้องขอไปยังเจ้าหน้าที่ของไทย ให้เชิญ Dr. Richard Harris วิสัญญีแพทย์ชาวออสเตรเลีย นักดำน้ำในถ้ำที่มีประสบการณ์ 30 ปี ผู้ถือสถิติการดำน้ำในถ้ำน้ำเย็นจัดลึก 194 และ 221 เมตร ที่เชื่อกันว่าคือสถิติที่ลึกที่สุดในการดำน้ำในถ้ำในน้ำเย็นจัด เพื่อตามหาต้นกำเนิดของแม่น้ำ Pearse ในนิวซีแลนด์ ที่พวกเขาต้องวางแผนที่สลับซับซ้อนในการจัดตั้งแคปซูลกู้ภัยในถ้ำเพื่อปรับความดันและหยุดพักในน้ำที่อุณหภูมิใกล้ศูนย์องศา ซึ่งการดำน้ำของเขาในครั้งนี้เมื่อปี 2011 และ 2012 ได้นำไปทำเป็นสารคดีโดย National Geographic ด้วย
Dr. Richard Harris คือผู้ที่ประเมินสุขภาพของเด็ก ๆ ทั้ง 13 คน และตัดสินใจเปลี่ยนแผนในถ้ำเป็นการนำเด็กที่อ่อนแอและมีปัญหาสุขภาพที่สุดออกมาก่อนเด็กที่แข็งแรงที่สุด Dr. Richard Harris คู่บัดดี้ และตำรวจออสเตรเลียอีก 6 นาย ถือเป็นหนึ่งในหลายสิบชีวิตของทีมดำน้ำในถ้ำที่ดีที่สุดทั่วโลกที่ถูกเรียกตัวมายังจังหวัดเชียงรายเพื่อปฏิบัติภารกิจที่ยากที่สุด เสี่ยงอันตรายที่สุด และไม่เคยมีใครทำมาก่อนในประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ!
จากการประชุมและวิเคราะห์ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ของไทย ประกอบกับการประเมินปัจจัยเสี่ยงต่าง ๆ ทำให้ทุกคนตกลงใจที่จะเลือกวันที่ 8 กรกฎาคม เป็นวันปฏิบัติการครั้งประวัติศาสตร์ที่นักดำน้ำในถ้ำที่ดีที่สุดในโลก 50 คน จะร่วมมือกับนักทำลายใต้น้ำ/จู่โจมของกองทัพเรือไทยอีก 40 คน ปฏิบัติภารกิจนำทีม #หมูป่า ดำน้ำในถ้ำที่เต็มไปด้วยหินที่แหลมคม กระแสน้ำที่รุนแรง ทัศนวิสัยที่เป็นศูนย์ ความมืดที่มีแสงไฟที่พวกเขาถืออยู่เป็นเพียงแสงสว่างเดียว นำเด็กที่อายุไม่ถึงเกณฑ์ที่จะดำน้ำในถ้ำ ไม่มีแม้แต่ประสบการณ์ในการดำน้ำ ออกจากถ้ำหลวงที่ผู้สื่อข่าวของ CNN กล่าวว่าเกือบจะเป็นโลงศพของพวกเขา มาสู่แสงสว่างและโลกภายนอก กลับสู่ครอบครัว สู่บ้าน และสร้างประวัติศาสตร์การกู้ภัยที่ยิ่งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งที่คนเป็นร้อยเป็นพันล้านคนทั่วโลกต่างต้องกลั้นหายใจเพื่อลุ้นว่าปฏิบัติการจะสำเร็จหรือไม่
และผลลัพธ์ของปฏิบัติการ ก็คือวินาทีนี้ ของวันนี้ วันนี้ Mission Impossible ถูกเปลี่ยนเป็น Mission Possible ด้วยความสามารถ การวางแผน ความพยายาม และการร่วมมือร่วมใจกันของทุกคน/TAF
#พาทีมหมูป่ากลับบ้าน #ถ้ำหลวง #ThaiCaveRescue
-----------------------------------------------------------
Rick Stanton เคยกล่าวกับ divernet.com ว่า กีฬาดำน้ำในถ้ำนั้นเป็นกีฬาที่ไม่ค่อยมีคนรู้จัก และนักดำน้ำในถ้ำก็มักเป็นคนที่ไม่ค่อยอยากเป็นจุดสนใจ ซึ่งรวมถึงตัวเขาด้วย
สำหรับนักดำน้ำท่านอื่นๆส่วนใหญ่ BBC กล่าวว่าพวกเขาไม่ค่อยอยากออกตัวนักเช่นกัน เลยหาข้อมูลค่อนข้างยาก แต่มีจำนวนหนึ่งที่ BBC รวบรวมมาได้ตามนี้ครับ
https://www.bbc.com/news/world-asia-44761821
------------------------------------
ภาพจากข่าวสด English, AP, และ The Australian ตามลำดับ
TAF เรียบร้องข้อมูลบางส่วนจาก
https://www.mamamia.com.au/thailand-cave-rescue-dr-richard…/
https://www.thetimes.co.uk/…/british-divers-richard-stanton…
https://www.theaustralian.com.au/…/ae49c3cfe024fc8f00188a5b…
https://today.line.me/…/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B9%8…
Remember these four names.
Vern Unsworth
John Volanthen
Rick Stanton
Dr. Richard Harris
Because these four are the people whose fate brings into this mission that taf will tell you about.
-----------------------------------------------------------
Vern Unsworth
British cave explorer who has a wife and lived in Chiang Rai for 7 years. After hearing that the children were missing into tham luang, he came to offer help immediately because he went in and out of tham luang. He knows the corner very well in there
But the most important thing is a little paper note that I wrote to Thai officials.
Time is running out! (time is almost over! (sighs))
1. Rob Harper
2. Rick Stanton Mbe (MBE IS THE ROYAL MACHINE. The order of the British Empire)
3. John Volanthen
They are the world's best cave diver (they are the best cave divers in the world)
Please contact them through (please contact them via)
UK Embassy ASAP (UK Embassy as soon as possible)
Thanks to Thai officials listening to him and contacted the ministry of foreign affairs who contacted the UK Embassy who contacted British Cave Rescue Council, which three of them agreed to travel to Thailand. The Ministry of Thailand, so they issued a plane ticket of Thai Airways urgently.
-----------------------------------------------------------
John Volanthen และ Rick Stanton
These two cave divers are the best cave divers in the world. The owner of the world record, the longest cave diving over 9 km in Spain in 2011
Rick Stanton is a fireman in the coventree, who inspired cave diving from watching underground eiger documentary about two divers who tried to make a cave diving world record at that time and made him decide that cave diving is what. That He wants to do.
John Volanthen, a computer engineer inspired by cave diving since he was a teenager with a determined and serious acrylic. He loved cave diving so much. Even on wedding day, he decided to dive in the cave for stress relief.
Although they don't like being interested and insisting that cave diving is just free time activity and volunteer work, they both created a brave thing that has saved many lives.
One of Rick Stanton's most famous missions is to dive into helping British soldiers who were stuck in a cave for 8 days in Mexico in 2004, where he went to meet and helped encourage and encourage and momentum for soldiers. One who is afraid of water to dive over 180 metres out of the cave successfully.
And when he met John Volanthen, both became the best buddy couple in the French government invited them to search for a cave diver in a cave 1 kilometres deep by the rescue association of England Royal. Humane Society says they are " a few cave divers in the world with skills and equipment and nearest where they spent 8 days to find the dead bodies, including in 2014 that Norwegian government asked them both help. Find the bodies of two cave divers who died in the cave.
They don't want to be famous, like to stay quiet and do activities they love. But when there is an incident, they are ready. They arrive in Thailand and start working immediately. The skills and experience of the owner of the cave diving in cave makes #thai seals easy to work. And safer
Despite all the caves from the rain on June 28th until the #BBC reporters tried to ask them both walked out of the cave because of the flood. Cuddle update with BBC But got the answer is grumpy and eyes that don't even look at that BBC journalist
When the weather is heart, they plan back in again and this time it's a "Mechanical Camp" that consists of navigation ropes and air buckets every 25 meters all the way
Both of them found the 13 children they said that the lead rope was gone, causing them to rise to the water and meet the 13 pairs of eyes looking down.
" how many of you?" in the video of Thai Navy Seal is John Volanthen's voice.
Even though they found the children, it leads to the next problem of how to bring children out. When the cave drilling choices are far from reality and the level of oxygen in the cave is reduced to part of sergeant ek's death. Saman kun cuddle, former Thai Navy Underwater Destroyer / attack assembled with #weather forecast that believes there will be more rain in the next few days, making them choose the risky way. It's a choice that everyone doesn't believe is possible and never. Who did this before in this world
Is to let the kids dive out the same way!
-----------------------------------------------------------
Dr. Richard Harris
That's why both requested to Thai officials to invite dr. Richard Harris cuddle Australian Anesthesiologist, cave diver with 30 years experience, a record holder of cold water cave diving, held 194 and 221 meters deep, believed to be the deepest record in diving. In cold water caves to find the origins of the pearse river in New Zealand, where they need to plan to set up a rescue capsule in caves to adjust pressure and stop in the water at near zero degrees, which his diving this time when Year 2011 and 2012 have also been made by national geographic documentaries.
Dr. Dr. Richard Harris is who assess the health of the 13 children and decided to change the cave plan to bring out the most vulnerable and health problems before the fittest children Dr. Richard Harris, buddy and 6 Australian police are one of the dozens of the best cave diving teams around the world called to Chiang Rai for the hardest, most dangerous task and no one has ever done. Before in the history of humanity!
From meeting and analyzing information with Thai officials, composed to assessments of risk factors, everyone to choose July 8th as a historic operation that 50 best cave divers in the world will cooperate with southern destroyers. The Water / attack of Thai Navy. Another 40 people are on a mission to lead the #wild boar snorkeling cave full of rocks. The cuddle th of the cuddle th of the darkness with the light they hold is the only light. Bring young children to dive in caves, no experience diving out of the royal cave, where CNN reporters say is almost their casket to light and the outside world returns to the family home and make the greatest rescue history once a person is. Hundreds of billions around the world have to hold their breath to see if the operation will be successful.
And the outcome of the operation is this second of today. Mission impossible is changed to mission possible with the ability, planning, effort and collaboration of everyone / taf
#พาทีมหมูป่ากลับบ้าน #ถ้ำหลวง #ThaiCaveRescue
-----------------------------------------------------------
Rick Stanton once said to divernet.com that cave snorkeling is a sport that doesn't know, and cave divers are often people who don't want to be interested, including him.
For most other divers, BBC says they don't want to start too. It's quite difficult to find information, but there are a number that BBC gathered as follows.
https://www.bbc.com/news/world-asia-44761821
------------------------------------
Photos from live news English, AP, and the Australian respectively.
Taf smooth some info from
https://www.mamamia.com.au/thailand-cave-rescue-dr-richard-harris-rick-stanton-john-volanthen/
https://www.thetimes.co.uk/article/british-divers-richard-stanton-and-john-volanthen-at-the-heart-of-the-thai-cave-rescue-nhtrm9shr
https://www.theaustralian.com.au/news/world/thai-cave-rescue-australian-doctor-richard-harris-joins-rescue-operation/news-story/ae49c3cfe024fc8f00188a5b9b7b24b5?nk=510674cab3915f6cc2f330bc8e0ec200-1531246390
https://today.line.me/th/pc/article/%E0%B8%99%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B9%83%E0%B8%88%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%95%E0%B8%B4+%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A2%E0%B9%80%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B9%89%E0%B8%87+13+%E0%B8%8A%E0%B8%B5%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%95+%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%95%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%AD%E0%B8%A2%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B8%96%E0%B9%89%E0%B8%B3%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%A7%E0%B8%87-Jk3Q1kTranslated
how to answer where are you from in french 在 Sam Tsang 曾思瀚 Facebook 的最讚貼文
NOTES ON CHARLOTTESVILLE:
OR, WHY WHITE PEOPLE DO NOT EXIST AS A PEOPLE
I've heard some several buddies, people I know well and care about (most of them not in comment boxes or in public) asking about the moral equivalency between the neo Nazis, white nationalists, and other white ethnostate type supporters and groups like Black Lives Matter, Antifa (short for Antifascists), and other direct action groups.
I'd like to speak to that comparison a bit and then turn to a more important part of it that I worry about. Before I get to that, I should first say that I've said enough about Trump. Honestly, the guy confuses me. He swings from a nihilistic idiot to a idiotic nihilist. His inconsistencies pile so high that you either get lost in them or you use them wholesale to try and make your point. He wins in the time and toll it takes. He also, I think, has found a very particular niche worldview for his newfound politics and is willing to, at the end of the day, embrace ANYONE willing to give him what he wants the most: affection. Never, at least to my memory, have we had a more emotionally needy president. But that's neither here nor there at the moment.
If you look at most social protests and revolutionary movements you will find a basic set of factions that don't change. They tend to spread between non violent oppositions and even less violent moderates, both winged by some type of pragmatists who are not in principle opposed to violence. Different sides will use the radicals of different parts of this division to throw away the entire argument of one side or another, and this is not an even equivalent exchange in the history of US racial tension. But I want to stay away, mostly, from broad historical claims here.
The point I am driving at is evident when we realize that the Civil Rights activists who practiced non violent acts of resistance were often lumped in with Black Panthers, or others not opposed to violence, although the two groups were ideologically fairly different. But I am not willing to say that they were so different as to not be judged as being on roughly the same side of the discussion. After all, the Civil Rights movement was not just the movement for the passage of legislation nor did it belong to the non violence of MLK Jr entirely. This is not historical. If you don't see that the US institution of slavery was a grave moral evil and that the Jim Crow laws that succeeded it were demonic in their formal and informal application, and that, as a result, those determined to end these things were in principle on the side of justice, then you really have no moral compass. Say what you will of the vast differences between MLK Jr and Malcolm X, but it is hard to argue that their social protest was off key in the tonic.
The more popular -- but equally as appropriate -- comparison these days is to Nazi Germany. (Of course, a great deal of the sentiment of the Civil Rights movement was a direct result of the effects that US wars had for those within its ranks who were not white, but that might be slightly off the mark in this case.) There is a bright and clear moral line between the Nazi ideology and its perverse Final Solution and those who sought to oppose it. This line, by the way, finds its way directly into the symbolism and rhetoric of the neo Nazi's at Charlottesville. Not only were there swastikas, there were Nazi crosses and other niche paraphernalia. There were the salutes, yes, but there were other salutations and insider ways of speaking going on. There were also the tiki torches, the modern Pepe Wal-Mart replacement for the burning torch rallies and burning crosses of the KKK. The grand knight of that sick group was standing by. They brought their own military-grade armed militia to protect those who came in homemade riot gear. This was not the making of a peaceful protest or free speech of the sort that we see the Westboro Baptists practice (not that they are emblems of public virtue, far, far from it!).
As I said earlier, if you find yourself unable to distinguish between Nazism in its original form and neo Nazis, white nationalists, and others like them and those who through what ever means they find useful (which one can disagree with in practice while still endorsing in principle) oppose them, then you are morally corrupt. If you can't quite figure out how the math works in this moral calculus, you are morally mindless and incompetent.
Of course, within any opposition to these (supposedly) easy immoral targets one can find many arguments and even passionate disavowals. But there are real moments when these lines are simply drawn and one must take a side. I have in the past even used the language of "alt left" in an entirely different usage, but I regret it deeply, now, seeing its life-cycle. I will not exchange my allergies to the ideological types of identity politics I have long opposed nor will my more specific critique of the critics settle. All that fuss gets set aside in these events. If I have to choose whether to stand next to a neo Nazi or Antifa, I'll choose the latter on pain of eternal damnation. To those who say you don't have to choose, that risk is one I am not willing to make. I would rather be a black panther than a lynch mob, as much as my truer sympathies lie somewhere else. Despite all my oppositions to modern warfare, I would pick up arms against the Nazis long before I'd "peacefully" cheer on their side. I think most people feel this way.
But something remains and this is what I worry about and even dread most: we are not fighting Nazis or lynch mobs. Most people would never go to march in Charlottesville. And even when you talk to many of the white nationalists they will say something along the lines of "I'm not racist." To them, their present politics is no longer that of the slaver or the KKK. They don't wear hoods and they don't want to own people as property anymore, it seems. They hate the Jewish people for reasons I am still not able to process in my mind, but their argument is more separatist than colonial -- so they claim.
They seem to think that the USA was founded by *their* ethnic ancestors, who hailed from Europe, gathered together in this ancient race called "White" that has recently, especially after the activism surrounding police brutality against African Americans, fallen into a disrepute that is sending the world into a globalist terror to come, in the biggest of the big governments.
Now, these conspiracy theories do not need to be true or believed to find where they hit a live nerve in a lot of people. Some people do ask why white people cannot have rallies for themselves without longing for ethic purity. Some people do think that white folks today are being washed away through interracial marriage, but many more who don't mind interracial romance still worry that white people are on the losing end of public sentiment. Lots of people who try to counter this tend to make it worse by appealing to gotcha replies about privilege or other things. I tend to find that too complex.
I recently commented to one of my friends that I don't think of myself as having very many "white" friends. Some of you might balk since many extremely intimate people in my life are, supposedly, white. And of course if we use one way of thinking about what "white" is, that is true. On the same logic, I would be, in certain real scenarios, white as well. But what I meant when I wrote to my friend was that I see my friends of European descent as from where they are. Those who don't know where they are from share with me a genealogical confusion that I can also understand.
Maybe this weirdness is partly because, on the vulgar ethnic analysis I am used to, I am neither white nor Black. And, of course, as many Africans who are neither black nor American will remind you, things become quite complex depending on what rules we are using to count the deck.
My point is this, and if you read nothing else, please read this: There is no such thing as "white people" in history. Most folks who use the expression were not allowed to use it only a few decades ago. The white supremacy of the KKK of old hated Blacks, yes, but also Mexicans, and Catholics, and Jews (of course), and atheists, and more. Depending on how you see it, whiteness was either more or less ecumenical, but just as ideologically religious.
Let me say it again: There will never be a "white ethnostate" based on European culture because the history of Europe is covered in ethnic feuds and wars. If you've never heard of a guy named Napoleon, check him out. I'm being serious. If you think of yourself as being "white" in some serious ancestral way, you're not. You are wearing a name tag your family was GIVEN at some point but never had by its own right. There are no white people in this familial sense. (Settle down critical race theorists, I am well aware of the whiteness that is real, too, but this ain't it.) There is no such thing as a white European culture or of a white heritage in that sense at all.
Again and again: The most scandalously false part of the neo Nazi mentality is as old as its previous, original half baked idea in Hitler's weak mind. The concept of a master race doesn't work for mastery of people nor does it work for figuring out who you really are. We come from places with names and languages and peoples and legacies that are concrete. Some of us lost a lot of memory at the hands of another, and others lost through the same hands. Today we tend to think that the ancestors of slaves, or indigenous peoples, or mixed-up mestizos are the ones who lack a strong identity and the rest have theirs in bold font. Not true. From your family to your soul, you don't really know who you are if you are using ideological pet words to hang the hat of your self.
I'm not a real Mexican and I'm not a real American -- and I'm no Canadian, either. My father was an orphan, so I've taken his bloodless name as my own, a Portuguese word by etymology. I of course will pass as a white guy at a Black family reunion, just as I passed as an indigenous guy today on the pier (until I produced a fishing license instead of a status card), just as I passed as an Iranian at a birthday party last week, and so on. But the real facts of who I am don't work in the abstract.
This is why if you want to find a better substitute for whiteness find a Greek Festival or an Irish Pub or a German Beer Garden or a French Restaurant. This is food and drink, and it is a set of multicultural cliches, but enjoy an Italian family dinner and tell me there is nothing about who someone is at stake there. The point is that the real identity we can and do celebrate is everywhere and it is not necessarily riddled with guilt, even if sometimes it could use some (or far less). None of it calls itself "white." None. If you are using "white" as your only name tag, then I am sorry to say that you've been fooling yourself. You don't have a people by that name. There is no such thing. Your great-great-great grandmother would mostly likely not answer to "white."
Personal history quickly becomes social, national, and regional histories and we find ourselves, again, at Charlottesville. All I can say for now about it, to my dear and beloved friends who I suspect think that they are "white," is this: We cannot have white rallies because there is no such thing as a "white" people. Black Lives Matter is not a movement for everyone who is of one dark color in the world -- it is about the US experience for those living within the legacy of slavery and Jim Crow over the past three years (some Black activist groups are critical of this aspect of BLM, by the way). If you want a "white" identity, then look to the folk expressions of it that we have and should treasure like music, food, and regional folk ways of being. Poetry, dance, dialect, accent, story. These are not safe or sanitary places -- I tend to think this story of a "white people" got made up there, too -- but they also don't pretend like people are any more or less related than they really are.
Donald Trump is a German-American man, not a white man. His whiteness is an entirely different issue that I am disinterested in getting into right now. If you wonder why white people are seen as bad sometimes, it is largely because of this false assumption: that white people exist as a people when they so manifestly do not.
how to answer where are you from in french 在 Learn French - Facebook 的推薦與評價
Basic French - Asking and Answering About Yourself You'll definitely enjoy learning French in the most innovative way here:... ... <看更多>
how to answer where are you from in french 在 Ways of saying “you're welcome” in French 的推薦與評價
There are a few main ways to say "you're welcome" in French: Je vous en prie / Je t'en prie. I feel this is a little more formal than the others, ... ... <看更多>