เผยโฉมแรกนักแสดงที่จะมารับบท
The Sparrow Academy
ใน THE UMBRELLA ACADEMY ซีซั่น 3
หลังจากที่ท้ายซีซั่น 2 ช็อคคนดูด้วยการพาเหล่า THE UMBRELLA ACADEMY ข้ามเวลากลับมาในไทม์ไลน์ที่ไม่มีวันสิ้นโลก แต่กลับกลายเป็นว่าในไทม์ไลน์นี้มี The Sparrow Academy แทนที่จะเป็น The Umbrella Academy ยิ่งไปกว่านั้นคนที่ควรจะตายไปแล้วอย่าง Sir Reginald Hargreeves และ Ben(หมายเลข 6) กลับยังมีชีวิตอยู่! อย่างไรก็ตามในท้ายซีซั่น 2 ยังไม่มีการเปิดเผยว่าสมาชิกทั้ง 7 ของ The Sparrow Academy นั้นคือใครบ้าง
ล่าสุดได้มีการเปิดเผยรายชื่อนักแสดงที่จะมารับบทฝั่ง The Sparrow Academy มาแล้วดังนี้
JUSTIN CORNWELL รับบท MARCUS (Sparrow #1)
JUSTIN H. MIN รับบท BEN (Sparrow #2)
BRITNE OLDFORD รับบท FEI (Sparrow #3)
JAKE EPSTEIN รับบท ALPHONSO (Sparrow #4)
GENESIS RODRIGUEZ รับบท SLOANE (Sparrow #5)
CAZZIE DAVID รับบท JAYME (Sparrow #6)
และ CHRISTOPHER (Sparrow #7)... ตามรูป(สุดท้าย)
#จดอ #JUSTดูIT
justin h. min 在 晞。觀影記事 Facebook 的最佳貼文
【好少同大家講仔,不過我真係好鍾意呢pair】
應該咁講,《#雨傘學院》同《#修女戰士》最大分別係,冇女睇... em... 第二季嘅Lila都還可嘅。所以今次唔同大家講女,講仔。
《雨傘學院》七個兄弟姊妹,雖說冇個正常,但當中最唔正常兼最冇用嘅就係Klaus同Ben呢兩兄弟(呢pair)。一個癲癲喪喪、一個直頭冇人知佢存在,但兩條友嘅化學作用又好盞鬼,甚至可以話喺呢班唔覺有感情嘅家人入面,最有情義嘅一對。
兄弟情又好、友情又好,我諗每個男人身邊都總會有個咁嘅兄弟,平時同你串柒柒,但又總會不離不棄,喺危急重要關頭就會彈出嚟幫你,Klaus喺冇人睇得起佢下,不離不棄嘅就只有Ben,而Ben更冇得揀,淨係得Klaus睇到佢。
呢兩件騎呢蛋散好似冇乜作為,估唔到第二季段感情戲又好好睇,而Ben個「神作用」,顛覆咗兩季你對佢嘅忽視,更加睇到小弟眼濕濕,我諗係兩季最感動嘅一幕,都令呢對孖寶兄弟嘅關係更加立體。
睇返資料,原來演Klaus嘅Robert Sheehan,本身絕對唔騎呢,仲幾靚仔添,喺《雨傘學院》入面演到騎騎呢呢,盡現咗佢喜劇才華;演Ben嘅Justin H. Min,就真係戲裡戲外都同樣係幾靚仔,可惜兩季都冇乜作為,相信第三季將會有得發圍喇,喺度不劇透原因啦。似乎,佢兩位私底下都同樣係好朋友。
呢類騎呢角色嘅故事,化學作用好重要,呢兩位感覺好似撈亂骨頭,實則有笑有淚又情深義重。雖然唔係劇中主線,更可以講絕大部份時間,冇咗佢兩位都影響不大,但一定係套劇嘅一大神彩位。
《雨傘學院》觀後感可看留言連結。
【‼️留意‼️】
「晞。觀影記事」Patreon加強版已經開幕,更多精選深度獨家電影文章,請即訂閱:https://www.patreon.com/travelerwithmovie
📣文字工作者也得要吃飯,你的支持是我的原動力。請給點心意,給小弟寫更多好文章,歡迎透過payme課金以作支持🥳:https://payme.hsbc/jackyhei
或使用QR code:https://bit.ly/3a9wOzy
或透過Paypal捐款:paypal.me/jackyhei
🙏感謝各位支持,小弟執筆之原創小說私人貨存已全部售罄,有意者可到此文章內的連結購買:https://bit.ly/3dRuUWu
【IG請follow】www.instagram.com/travelerwithmovie
justin h. min 在 หนังโปรดของข้าพเจ้า Facebook 的最佳貼文
The Umbrella Academy ซีซั่น 1 (สามารถดูได้ใน Netflix)
• เราคิดว่าการโปรโมทเป็น X-Men ดูจะชักจูงความคาดหวังผิดทางไปหน่อย มันเป็นซีรีส์แนวครอบครัวแตกสลายแล้วพยายามกลับมาประคับประคองกัน ภายใต้เอกลักษณ์ที่ว่าทุกคนมีพลังพิเศษ
• การมีพลังพิเศษในซีรีส์ไม่ใช่อารมณ์คนจะมาปกป้องโลก ถึงแม้แกนกลางจะเป็นพล็อตสืบสวนหาทางหยุดวันโลกาวินาศ แต่แก่นจริง ๆ คือทุกคนต้องมาสะสางปมที่เกิดขึ้นจากการเลี้ยงดูผิด ๆ ของพ่อที่ซื้อพวกเขามาเลี้ยง
• ตัวซีรีส์แทบไม่ได้มีฉากต่อสู้หรือใช้พลังให้ตื่นเต้น จุดด้อยอีกอย่างคืองาน cgi ก๊องแก๊งปลอมมาก แล้วการออกแบบฉากต่อสู้ก็หน่อมแน้มเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นการเตะต่อยหรือการใช้อาวุธและพลัง
• บางช่วงก็แอบตลกดี จนเผลอคิดไปว่าเอาดีด้านโทนคอมเมดี้อาจจะสวยกว่า เวลาพี่น้องไม่รู้จักโตจิกกันแสบดี
• ด้วยความยาวรวมเกือบ 10 ชั่วโมง เลยรู้สึกถึงช่วงคันเร่งเสียเยอะเหมือนกัน
• ชอบธีมของเรื่องนะ เปิดเผยปมจากวัยเด็กแล้วพยายามเยียวยากันเอง พร้อมกับต้องพยายามหยุดวันโลกแตก แต่ติดที่การกำกับไม่เฉียบแล้วก็บางจุดจำเจไปหน่อย
-------------------------------------
เรื่องเริ่มขึ้นจากวันที่ 1 ตุลาคม ปี 1989 อยู่ดี ๆ ผู้หญิง 43 คนก็ท้องและให้กำเนิดเด็กขึ้นมากะทันหันพร้อมกัน มหาเศรษฐีอย่าง 'เรจินัลด์ ฮาร์กรีฟส์' จึงรีบติดต่อขอรับอุปการะเด็กเหล่านั้น แต่ว่าได้มาเพียง 7 คน แล้วเลี้ยงเด็กเหล่านี้ขึ้นมาแบบหนูทดลองให้เป็นทีมปราบอาชญากรรม แต่พวกเขามีพลังแค่ 6 คน ส่วนน้องเล็กสุดไม่มีพลังและกลายเป็นคนไร้ตัวตนในบ้านหลังใหญ่ พอโตขึ้นทุกคนก็แยกย้ายกันออกไปแต่ต้องกลับมารวมตัวกันอีกครั้งหลังจากพ่อเลี้ยงของพวกเขาเสียชีวิตอย่างน่าสงสัย
.
ประเด็นของซีรีส์คือเรื่องการเติบโตในช่วงวัยเด็กที่ผ่านการเลี้ยงดูแบบเข้มงวดและบ้าอำนาจ จนทำให้แต่ละคนมีปมแตกต่างกันออกไป 'no.1 ลูเธอร์' (Tom Hopper) ถูกวางตัวเป็นผู้นำแต่กลับไม่มีภาวะผู้นำอย่างที่ควรจะเป็น ไม่กล้าตัดสินใจเพราะปกติต้องรับคำสั่งจากพ่อเสมอ,
'no.2 ดิเอโก้' (David Castaneda) หลังจากเห็นตัวเองเป็นหนูทดลองจึงกลายเป็นคนหัวขบถต่อต้านคำสั่งต่าง ๆ และต้องการเป็นอิสระพึ่งพาตัวเอง,
'no.3 อลิสสัน' (Emmy Raver-Lampman) มีพลังในการควบคุมจิตใจคนแต่ต้องมามีปัญหาครอบครัวจากความมักง่ายใช้พลังตัวเองออกคำสั่งลูก,
'no.4 เคลาส์' (Robert Sheehan) สามารถสื่อสารกับคนตายได้ ในวัยเด็กถูกกักขังบังคับให้ใช้พลัง กลัวพลังตัวเองจนเลือกไปติดยา,
'no.5 ไฟว์' (Aidan Gallagher) ห้าวและมั่นใจความสามารถตัวเองตั้งแต่เด็ก สามารถเดินทางข้ามเวลาและเปิดวาร์ปข้ามจุดอย่างรวดเร็วได้ เขาคือคนที่เห็นวันโลกาวินาศและเดินทางกลับมาเพื่อจะหยุดวันสิ้นโลก
'no.6 เบน' (Justin H. Min) ตายในซีซั่นแรก แต่ปรากฏตัวสื่อสารตลอดเวลากับเคลาส์
และ 'no.7 วานญ่า' (Ellen Page) เป็นส่วนเกินของครอบครัว ไม่มีพลังและถูกหมางเมินจนเป็นปมด้อยว่าตัวเองไร้ตัวตน
.
ถึงแม้ทุกคนจะถูกเลี้ยงมาพร้อมกันแบบเดียวกันแต่การรับมือปัญหาแตกต่างกันออกไป ความดีงามของ The Umbrella Academy คือลึก ๆ แล้วแม้แต่ละคนจะแยกตัวออกมาโดดเดี่ยวจากครอบครัว แต่พอมารวมตัวกันแบบไม่ค่อยถูกกันก็ยังพยายามจะชี้ทางและเยียวยากันเอง บางคนเลือกจะโทษพ่อที่ทำให้พวกเขาเป็นแบบนี้ บ้านไม่ใช่พื้นที่ปลอดภัยหรืออบอุ่นสำหรับทุกคน แม้บางคนจะปกป้องทั้งที่ถูกกระทำเลวร้ายก็ตาม พอซีรีส์มันเล่าไปเรื่อย ๆ ก็ยิ่งเห็นความสัมพันธ์ที่เกื้อกูลกัน ช่วยเหลือกัน เพราะสุดท้ายแล้วจากบรรดาคนทั้งโลกก็เหลือแค่เหล่าพี่น้องเป็นที่พักพิงสุดท้าย ที่อาจจะไม่ได้สมบูรณ์แบบแต่ก็อาจจะดีกว่าต้องอยู่ตัวคนเดียว
Creators: Steve Blackman, Jeremy Slater
10 Episodes (เฉลี่ยตอนละ 55 นาที)
B+
#หนังโปรดxซีรีส์Netflix