ข่าวประชาสัมพันธ์.. จาก Krungsri Asset
คลิปสรุปจุดเด่นของกองทุน KFCORE เอกสิทธิ์ในการเข้าถึงพอร์ตการลงทุนในสินทรัพย์ทั่วโลก ด้วยการบริหารของ BlackRock บริษัทจัดการกองทุนอันดับ 1 ของโลก ที่มาพร้อมกลยุทธ์ Tactical Asset Allocation ลงทุนยืดหยุ่นปรับพอร์ตรวดเร็วทันทุกสภาวะตลาด พร้อมกระจายการลงทุนในหลายสินทรัพย์ทั่วโลก กองทุน KFCORE เหมาะที่จะเป็นกองทุนหลักในทุกพอร์ตการลงทุนอย่างไร เราชวนคุณมาหาคำตอบไปด้วยกัน
ลงทุน KFCORE ผ่าน @ccess Mobile Application คลิก http://bit.ly/2wwwOrj
#KFCORE #กองทุนกรุงศรี #Krungsriasset
同時也有43部Youtube影片,追蹤數超過6萬的網紅chopluem,也在其Youtube影片中提到,สวัสดีค้า วันนี้ปลื้มจะชวนทุกคนไปช้อปปิ้งกัน! ถึงจะช้อปปิ้งทิพย์อยู่บ้าน แต่ปลื้มมีวิธีช้อปยังไงให้คุ้มมาฝาก ด้วยบัตรเครดิต กรุงศรี ทั้งสารพัดโค้ดส่วน...
「krungsri」的推薦目錄:
- 關於krungsri 在 ลงทุนแมน Facebook 的最讚貼文
- 關於krungsri 在 ลงทุนแมน Facebook 的精選貼文
- 關於krungsri 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
- 關於krungsri 在 chopluem Youtube 的最佳貼文
- 關於krungsri 在 Startyourway Official Youtube 的最佳解答
- 關於krungsri 在 ลงทุนแมน Youtube 的最佳貼文
- 關於krungsri 在 Krungsri Simple 新增了1 張相片。 的評價
- 關於krungsri 在 Double Espresso by Krungsri The COACH ให้คุณอัปเดต ... 的評價
krungsri 在 ลงทุนแมน Facebook 的精選貼文
วัคซีนกับโอกาสในการฟื้นตัวระบบเศรษฐกิจไทย
KRUNGSRI EXCLUSIVE X ลงทุนแมน
ตัวเลขผู้ติดเชื้อโควิด 19 ยังสูงต่อเนื่อง วัคซีนก็ยังกระจายไม่ทั่วถึง
ปัญหานี้ ได้สร้างหนึ่งคำถามที่หลายคนอยากรู้คำตอบ มากที่สุด
ก็คือเวลานี้ เศรษฐกิจไทย อยู่ในช่วงวิกฤติแล้วหรือยัง
ทิศทางต่อจากนี้ไป ระบบเศรษฐกิจไทย จะแก้เกมด้วยวิธีไหน
แล้วบริษัทขนาดใหญ่จนถึง SME จำเป็นต้องปรับตัวอย่างไร
เป็นเรื่องที่หลายคน น่าจะอยากรู้คำตอบ
ด้วยเหตุผลนี้เอง ทำให้ ลงทุนแมน จึงได้เข้าร่วมงานสัมมนาออนไลน์ที่ชื่อ
“วัคซีนความหวังฟื้นเศรษฐกิจไทย” โดยงานนี้จัดขึ้นโดย KRUNGSRI EXCLUSIVE
ซึ่งเป็นหนึ่งในบริการกลุ่ม Wealth Management ของธนาคารกรุงศรีฯ
ที่ช่วยตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าทั้งด้านไลฟ์สไตล์และที่ปรึกษาการลงทุน
โดยงานสัมมนานี้ก็จะจัดขึ้นตลอดทุกสัปดาห์ ภายใต้งาน KRUNGSRI EXCLUSIVE 2021 Mid-Year Outlook Series
สำหรับหัวข้อ “วัคซีนความหวังฟื้นเศรษฐกิจไทย” ที่ ลงทุนแมน เข้าร่วมฟังนั้น
มีวิทยากรทรงคุณวุฒิอย่างคุณวิน พรหมแพทย์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่
ผู้บริหารสายงานลูกค้าไฮเน็ตเวิร์ธ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน)
ดร.สมประวิณ มันประเสริฐ ผู้บริหารสายงานวิจัยและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ
ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) และ ดร.กิริฎา เภาพิจิตร ผู้อำนวยการวิจัย นโยบายเศรษฐกิจระหว่างประเทศและการพัฒนา และผู้อำนวยการโครงการวิเคราะห์เศรษฐกิจเชิงลึก
สถาบันวิจัย TDRI
แล้วการวิเคราะห์ความน่าจะเป็นของเศรษฐกิจไทยต่อจากนี้จะเป็นอย่างไร
ลงทุนแมน จะสรุปให้ฟัง อย่างเข้าใจง่าย ๆ
หากเปรียบประเทศไทยเป็นบ้านหลังนี้
ก็ต้องบอกว่า เวลานี้ลูกบ้านกำลังเผชิญปัญหาด้านสุขภาพกับการระบาดของโควิด 19
เมื่อวันนี้ยอดผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเกือบ 1 หมื่นคนต่อวัน
ขณะเดียวกันก็ต้องเจอปัญหากับไวรัสกลายพันธุ์อย่างสายพันธุ์เดลตา
ในขณะที่ตอนนี้ประเทศไทยมีอัตราการฉีดวัคซีนอยู่ราว ๆ 2.5 แสนโดสต่อวัน
จนถึงล่าสุด รัฐบาลได้มีมาตรการล็อกดาวน์
ซึ่งหากสถานการณ์ไม่ยืดเยื้อเกินความคาดหมาย
ก็มีความเป็นไปได้สูง ที่ธุรกิจภาคการท่องเที่ยวและบริการจะค่อย ๆ ฟื้นคืนกลับมา
สิ่งที่น่าสนใจก็คือ หากสมมติประเทศไทยฉีดวัคซีนได้เกิน 50% จากจำนวนประชากรทั้งหมด
หรือมากกว่านั้นเหมือนอย่าง สหรัฐอเมริกา และประเทศอื่น ๆ ในยุโรป
เชื่อหรือไม่ โควิด 19 ก็ยังอาจจะยังอยู่กับคนไทยต่อไป
แต่จะอยู่กันในรูปแบบไหน เป็นคำถามที่น่าสนใจเลยทีเดียว
คุณวิน พรหมแพทย์ ผู้บริหารของ กรุงศรี เอ็กซ์คลูซีฟ
ให้ความคิดเห็นในเรื่องนี้ไว้อย่างน่าสนใจ
ประเทศในฝั่งยุโรป และ สหรัฐอเมริกา ที่มีอัตราการฉีดวัคซีนคุณภาพเกินครึ่งของจำนวนประชากร
สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ แม้จำนวนผู้ติดเชื้อจะไม่ได้ลดลงมากนัก
แต่จำนวนคนเข้าโรงพยาบาลและเสียชีวิตจากโควิด 19
ลดลงจากเดิมอย่างมากหากเทียบกับก่อนการฉีดวัคซีน
พอเป็นแบบนี้ ก็ทำให้การใช้ชีวิตประจำวันของคนในประเทศเกือบจะปรกติเหมือนเดิม
ภาคธุรกิจต่าง ๆ กลับมาเปิดให้บริการกันอีกครั้ง
ผลก็คือทำให้อัตราการเดินทางออกนอกบ้านของคนในประเทศเพิ่มสูงมากขึ้น
เมื่อเทียบกับช่วงเวลาก่อนเกิดการระบาดของโควิด 19
เยอรมัน อัตราการเดินทางของคนติดลบ 10%
สหรัฐอเมริกา อัตราการเดินทางของคนติดลบ 20%
สเปน อัตราการเดินทางของคนติดลบ 15%
ส่วนประเทศไทยอยู่ที่ติดลบ 25%
โดย คุณวิน พรหมแพทย์ ก็เชื่อว่าช่วงปลายปีนี้หากการฉีดวัคซีนมีอัตราครอบคลุมจำนวนประชากร
ประเทศไทยก็อาจจะเหมือนประเทศเหล่านี้
คือแม้จำนวนผู้ติดเชื้ออาจจะยังสูง
แต่จำนวนคนเข้าโรงพยาบาลและอัตราการเสียชีวิตจะน้อยลงอย่างมาก
เพียงแต่ภาพนี้จะเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่นั้น
ก็ขึ้นอยู่กับคุณภาพวัคซีนในเมืองไทยว่าจะดีมากแค่ไหน ?
อย่างไรก็ตาม การระบาดที่รุนแรงในตอนนี้
ก็สร้างปัญหาการจับจ่ายใช้สอยในประเทศอย่างรุนแรง
โดยเฉพาะกลุ่มคนรายได้ปานกลางจนถึงล่าง ซึ่งคิดเป็นราว ๆ 70% ของระบบเศรษฐกิจไทย
ที่กำลังเผชิญปัญหากำลังซื้อที่อ่อนแอลง ทำให้ระบบเงินหมุนเวียนในระบบเศรษฐกิจขาดสภาพคล่อง
ความน่าสนใจของประเด็นนี้ก็คือ ในสภาวะที่ภายในบ้านหลังใหญ่กำลังเผชิญกับวิกฤติ
แต่ภายนอกบ้านนั้น กลับมีแสงสว่าง เมื่อหลาย ๆ ประเทศกลับมาฟื้นตัว
ไม่ว่าจะเป็น จีน และสหรัฐอเมริกา 2 มหาอำนาจทางเศรษฐกิจ
รวมถึงหลาย ๆ ประเทศในแถบยุโรป
ที่ได้เร่งฉีดวัคซีนให้ประชากรในประเทศ จนทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อและอัตราการเสียชีวิตอยู่ในสถานการณ์ที่ควบคุมได้ผลลัพธ์ก็คือ เศรษฐกิจในประเทศเหล่านี้กำลังฟื้นตัวกลับมา
โดยภาคธุรกิจส่งออกของประเทศไทยก็ฉกฉวยแสงสว่างแห่งโอกาสนี้ได้ดีเลยทีเดียว
เพราะรู้หรือไม่ว่า ในช่วง 5 เดือนแรกของปีนี้ ภาคธุรกิจส่งออกเติบโตถึง 11%
เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันกับปีที่แล้ว
และเมื่อแนวโน้มดูสดใส เลยทำให้มีการคาดการณ์ว่าเมื่อถึงสิ้นปี พ.ศ. 2564
ภาคธุรกิจส่งออกน่าจะเติบโตกว่า 10%
ขณะเดียวกันเมื่อหลาย ๆ ประเทศฟื้นตัวกลับมา
นักลงทุนต่างชาติก็เริ่มกลับมามีแผนการลงทุนในประเทศไทย
อย่างเช่น ธุรกิจอะไหล่รถยนต์, สินค้า IT และชิ้นส่วนต่าง ๆ
ซึ่งในอนาคตก็น่าจะทำให้เกิดการจ้างงานมากขึ้นกว่าในเวลานี้
สรุปก็คือ แม้ประเทศไทยจะต้องเผชิญปัญหาด้านการจับจ่ายในประเทศอยู่ในขั้นต่ำ
แต่อีกมุมหนึ่งก็ยังมีโอกาสจากภาคการส่งออกและการลงทุน จากการฟื้นตัวของหลาย ๆ ประเทศ
หลายคนน่าจะเกิดคำถาม
สุดท้ายบทลงเอย เศรษฐกิจไทยในปีนี้จะเป็นอย่างไร
หากยังจำกันได้ในช่วงต้นปีก่อนเกิดการระบาดของโควิด 19 รอบ 3
หลายองค์กรคาดว่า GDP ของประเทศน่าจะเติบโต 3-4%
แต่กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นอยู่ ณ ตอนนี้ ทำให้ทางทีมวิจัย Krungsri Research
ประเมินว่า GDP ของประเทศไทยปีนี้เติบโตได้ดีที่สุดอยู่ที่ 1.20%
ถึงตรงนี้ สิ่งที่นักลงทุนหลายคนอยากรู้ก็คือ ในช่วงครึ่งปีหลัง
เราควรจะลงทุนอะไรดี
เรื่องนี้ คุณวิน พรหมแพทย์ ก็มีมุมมองที่น่าสนใจ
เวลานี้หากสังเกตจะพบว่า Bond Yield หรืออัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลอยู่ในเกณฑ์ที่ดี
ซึ่งดีกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝากของธนาคาร อยู่พอสมควร
อีกทั้งความเสี่ยงค่อนข้างต่ำ จึงนับเป็นการลงทุนที่น่าสนใจไม่น้อยเลยทีเดียว
โดยอายุพันธบัตรที่น่าลงทุนอยู่ในช่วง 3-5 ปี
นอกจากนี้ การลงทุนในหุ้นกู้เอกชน โดยเฉพาะในกลุ่มเรตติ้ง A นอกจากความเสี่ยงต่ำแล้วนั้น
รู้หรือไม่ ณ วันนี้ หุ้นกู้เรตติ้ง A ให้ผลตอบแทนที่ดียิ่งขึ้นกว่าเดิม
หากเทียบกับช่วงก่อนการระบาดของโควิด 19
ดังนั้น จึงแนะนำให้พิจารณาเพิ่มการลงทุนใน “กองทุนตราสารหนี้ระยะสั้น-กลาง” ซึ่งมีความมั่นคงสูง
และคาดว่าให้ผลตอบแทนใกล้เคียงหรือดีกว่าดอกเบี้ยเงินฝากธนาคาร
สำหรับใครที่สนใจเข้าร่วมฟังสัมมนาออนไลน์ ทั้งในเรื่องเศรษฐกิจและการลงทุน
ช่วงครึ่งปีหลังทาง KRUNGSRI EXCLUSIVE ได้เชิญวิทยากรชั้นนำมาให้ติดตามข้อมูลเชิงวิเคราะห์อย่างเข้มข้นตลอดเดือน ก.ค. นี้
โดยผู้สนใจสามารถเข้าร่วมรับชมสัมมนาพิเศษ ๆ แบบนี้
แค่ลงทะเบียนที่ https://bit.ly/3h8MKqq (ไม่มีค่าใช้จ่าย)
20 ก.ค. 64
แนะทิศทางการจัดพอร์ตครึ่งปีหลัง ต้อนรับการเปิดประเทศ กับวิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินการลงทุนระดับแนวหน้าจาก ธ.กรุงศรีฯ บล.กรุงศรี และบลจ.กรุงศรี
29 ก.ค. 64
อัปเดตแนวคิดการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน Environmental, Social, Governance หรือ ESG ซึ่งกำลังได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง ถือเป็นเทรนด์ที่ร้อนแรงและน่าจับตาในมุมมองนักลงทุนและสถาบันการเงินชั้นนำทั่วโลก โดยวิทยากรระดับแนวหน้าจาก ธ.กรุงศรีฯ และ BlackRock บริษัทจัดการกองทุนชั้นนำของโลก
krungsri 在 ลงทุนแมน Facebook 的最佳貼文
สรุปทิศทางการลงทุน ในครึ่งปีหลัง จากกรุงศรี และ BlackRock
ลงทุนแมน x KRUNGSRI EXCLUSIVE
ปี 2021 นับเป็นอีกปีที่หนักหน่วงของเศรษฐกิจ ซึ่งตอนนี้เราก็ผ่านเลยมาเกินครึ่งทางของปีแล้ว
แต่ด้วยหลาย ๆ ปัจจัย ที่ยังคงมีความไม่แน่นอนซ่อนอยู่ ทั้งบวกและลบ ปะปนกันไป
ทำให้นักลงทุน อาจเกิดความกังวลและไม่แน่ใจว่า หลังจากนี้ตนควรมีแนวทางการลงทุนหรือจัดพอร์ตการลงทุนอย่างไรดี เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่ดี ในความเสี่ยงที่ยอมรับได้
และด้วยเหตุผลนี้ ทาง KRUNGSRI EXCLUSIVE หนึ่งในบริการในกลุ่ม Wealth Management ของธนาคารกรุงศรีที่ช่วยตอบความต้องการของกลุ่มลูกค้าทั้งในด้านไลฟ์สไตล์และการเป็นที่ปรึกษาการลงทุน
ในครั้งนี้จึงได้จัดงานสัมมนาออนไลน์ ตลอดทุกสัปดาห์ ภายใต้งาน KRUNGSRI EXCLUSIVE 2021 Mid-Year Outlook Series และเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา กับการนำเสนอวิเคราะห์ในหัวข้อ Global Outlook “A Powerful Restart”
โดยเชิญผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนระดับโลก อย่างคุณ Ben Powell จาก BlackRock บริษัทจัดการกองทุนชั้นนำของโลก และผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนแนวหน้าของเมืองไทย อย่างคุณวิน พรหมแพทย์ จากธนาคารกรุงศรี มาวิเคราะห์ทิศทางเศรษฐกิจในช่วงครึ่งปีหลัง และเปิดมุมมองต่อการลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ หลังจากที่หลายประเทศทั่วโลก เริ่มได้รับการฉีดวัคซีนแล้ว
โดย ลงทุนแมนจะสรุปให้ฟัง..
หลังจากมีการฉีดวัคซีน โลกก็กำลังเดินหน้าเข้าสู่การ Restart ทางเศรษฐกิจครั้งใหม่
โดยเฉพาะประเทศที่พัฒนาแล้ว ซึ่งการฉีดวัคซีนเป็นไปได้ด้วยดี และยอดผู้ติดเชื้อเริ่มชะลอตัวลง
ทำให้ผู้คนมีความมั่นใจ กลับมาทำกิจกรรมต่าง ๆ ตามปกติ และเศรษฐกิจก็ค่อย ๆ กลับมาดีขึ้นตามลำดับ
อย่างตัวเลขดัชนีทางเศรษฐกิจต่าง ๆ ทั้งภาคการผลิตและภาคบริการของโลก ก็ปรับตัวดีขึ้นอย่างรวดเร็ว
แสดงให้เห็นว่า เศรษฐกิจโลกอยู่ในภาวะฟื้นตัวอย่างชัดเจน
สำหรับเศรษฐกิจไทย ตอนนี้สิ่งสำคัญที่สุดคือ อัตราเร่งในการฉีดวัคซีน ยิ่งฉีดได้เร็ว ยิ่งดี
ซึ่งการฉีดวัคซีนในประเทศไทย ก็เริ่มมีอัตราเร่งที่มากขึ้น ตั้งแต่เดือนมิถุนายนที่ผ่านมา นับเป็นสัญญาณที่ดี
และคาดว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อในไทย จะเห็นตัวเลขที่ต่ำลง เมื่อพ้นกลางเดือนตุลาคมเป็นต้นไป
เรื่องนี้จะทำให้การเดินทาง, การจับจ่ายใช้สอย และความเชื่อมั่นของนักธุรกิจ กลับมาอีกครั้ง
แต่ยังมีความเสี่ยงที่ต้องติดตามอย่างใกล้ชิด คือ โควิดสายพันธุ์เดลตา
หากมีผู้ติดเชื้อสายพันธุ์นี้เป็นจำนวนมาก ความรุนแรงของการแพร่ระบาด
อาจทำให้ความเชื่อมั่นของผู้คน และภาคธุรกิจ หดหายไปอีกครั้ง
และกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ฟื้นตัวช้ากว่าที่คาดไว้
เพราะต้องชะลอการเปิดเมือง หรือปลดล็อกกิจกรรมบางอย่าง ออกไปนานกว่าเดิม
ซึ่งเรื่องนี้ยิ่งกระทบต่อประเทศไทย เพราะเศรษฐกิจไทยพึ่งพาการท่องเที่ยวสูง เลยอาจฟื้นตัวช้า
โดย Krungsri Research คาดว่าเศรษฐกิจไทยปี 2021 จะโตเพียง 2% เท่านั้น
อย่างไรก็ดี หนึ่งในโปรเจกต์ที่อาจเป็นความหวัง การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจไทย ในช่วงครึ่งปีหลัง คือ Phuket Sandbox
โดยคาดว่าในไตรมาสที่ 3 นี้
Phuket Sandbox จะสามารถรับนักท่องเที่ยวได้ 129,000 คน
และสร้างเม็ดเงินเข้าประเทศกว่า 11,500 ล้านบาท
หรือเฉลี่ยแล้ว นักท่องเที่ยวจะใช้จ่ายราว 89,000 บาท/คน
ซึ่งเป็นการเจาะกลุ่มนักท่องเที่ยวระดับ Premium/Luxury
และถ้า Phuket Sandbox ประสบความสำเร็จไปได้ด้วยดี
โมเดลนี้ ก็จะสามารถขยายไปใช้กับพื้นที่อื่น ๆ ได้
ซึ่งจะช่วยในเรื่องของการจ้างงาน, การท่องเที่ยว และเศรษฐกิจของประเทศ
พอนักลงทุนต่างชาติ เห็นว่าท่องเที่ยวไทยเริ่มฟื้นตัว ก็อาจกลับมาลงทุนในหุ้นไทย และผลักดันให้ตลาดหุ้นไทยปรับตัวสูงขึ้นได้
- สำหรับมุมมองการลงทุน ของคุณ Ben Powell จาก BlackRock
ตอนนี้กิจกรรมทางเศรษฐกิจกลับมาอีกครั้ง (Restart)
ท่ามกลางสภาวะที่ อัตราดอกเบี้ยและ Bond Yield อยู่ในระดับต่ำ
ด้วยสภาพคล่องในระบบที่ยังสูงแบบนี้ แต่อัตราดอกเบี้ยต่ำติดดิน
อย่างไรเงินทุนก็ต้องไหลไปหาสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนสูง เช่น หุ้น
แม้ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นในสหรัฐฯ จะปรับตัวขึ้นมามากแล้ว
แต่ด้วย 2 แรงส่งจากการที่เศรษฐกิจฟื้นตัว และอัตราดอกเบี้ยต่ำ
ก็ยังมีโอกาสที่จะสามารถผลักดันตลาดหุ้น ให้ขึ้นไปต่อได้ ในช่วงครึ่งปีหลัง
ทาง BlackRock จึงเพิ่มน้ำหนักการลงทุน (Overweight) ในหุ้น
แต่ถ้ารับความเสี่ยงไม่ได้มาก ก็อาจเลือกมองหา การลงทุนในสินทรัพย์อื่น ๆ ที่มีความเสี่ยง และผลตอบแทนลดลงมา แต่ยังให้ผลตอบแทนที่สูงกว่าตราสารหนี้อยู่ เช่น อสังหาฯ, REITs, Property Fund
นอกจากนี้ คุณ Ben Powell ยังตอบถึงปัญหา ที่นักลงทุนหลายคนกังวลอยู่ในตอนนี้
คือเรื่องของการ QE Tapering หรือการที่ธนาคารกลางลดการอัดฉีดเงินเข้าระบบผ่านมาตรการ QE ลง
และเรื่องของการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ตามเงินเฟ้อ
โดยเขามองว่า รอบนี้ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะทำ QE Tapering แบบค่อยเป็นค่อยไป เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อตลาดหุ้นมาก เพราะได้บทเรียนจากครั้งก่อน ๆ จึงไม่น่าทำให้ตลาดได้รับผลกระทบแบบรุนแรง
ส่วนการปรับขึ้นของอัตราดอกเบี้ย
แม้ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะเริ่มฟื้นตัวแล้ว และเงินเฟ้อได้ปรับตัวสูงขึ้น
แต่ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะยอมทนให้เงินเฟ้อมีการปรับตัวสูงขึ้นอีกหน่อย
เพราะต้องการให้เศรษฐกิจฟื้นตัวเต็มที่ และผู้คนมีความมั่นใจต่อเศรษฐกิจเสียก่อน
จึงคาดว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ จะไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ย ในช่วงครึ่งปีหลัง
แต่จะเริ่มปรับตอนปี 2023 หรืออีก 2 ปีข้างหน้า
- สำหรับมุมมองการลงทุนของคุณวิน พรหมแพทย์ จากธนาคารกรุงศรี
จะมีคำแนะนำการลงทุน ในช่วงครึ่งปีหลัง 2 ข้อหลัก ๆ ได้แก่
1) มองว่าตลาดหุ้นในระยะยาว จะเป็นขาขึ้น
แต่ในระยะสั้น โดยเฉพาะตลาดหุ้นสหรัฐฯ กำลังใกล้ถึงจุดอิ่มตัวเต็มที่แล้ว ทำให้มี Upside จำกัด
และในช่วงครึ่งปีหลังจากนี้ ตลาดหุ้นสหรัฐฯ อาจเจอข่าวร้าย เช่น สงครามการค้ากับจีน, การแพร่ระบาดของโควิดสายพันธุ์เดลตาที่มากระทบตลาด จึงมีโอกาสที่ตลาดหุ้น จะมีการปรับฐานลงได้
อย่างไรก็ตาม ถ้าเชื่อว่าในระยะยาว ตลาดหุ้นจะเป็นขาขึ้น
ช่วงในระยะสั้น ที่มีการปรับฐาน จึงอาจเป็นโอกาสที่ดีในการลงทุนเพิ่ม
2) มองหาตลาดหรือสินทรัพย์ ที่ราคายังฟื้นตัวไม่เยอะ
ควรฟื้นตัวเร็วกว่านี้ หรือฟื้นตัวช้ากว่าคนอื่น ตัวอย่างเช่น
- หุ้นยุโรป
ตอนนี้ยุโรป มีอัตราการฉีดวัคซีนที่ค่อนข้างเร็ว ซึ่งกำลังใกล้ตามสหรัฐฯ ทันแล้ว และล้ำหน้าประเทศพัฒนาแล้วอื่น ๆ เช่น ญี่ปุ่น, ออสเตรเลีย ทำให้เศรษฐกิจยุโรป น่าจะฟื้นตัวตามสหรัฐฯ
แถมอัตราการเติบโตของกำไร (Earnings Growth) ของหุ้นยุโรป ในปีนี้คาดว่าจะโตถึง 33% ซึ่งโตสูงกว่า หุ้นสหรัฐฯ
ในขณะที่ตลาดหุ้นยุโรป ยังฟื้นตัวและปรับฐานขึ้นช้ากว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯ และตลาดหุ้นโลก
ดังนั้น ต่อไปตลาดหุ้นยุโรป จึงมีโอกาส Upside หรือปรับฐานขึ้นได้อีกมาก
*โดยทาง บลจ. กรุงศรี ก็ได้มีกองทุนมาแนะนำ สำหรับคนที่สนใจลงทุนในหุ้นยุโรป
คือกอง “KF-HEUROPE” ที่จะเน้นลงทุนในกองทุน Allianz Europe Equity Growth เป็นหลัก
โดยหุ้นที่กองทุน Allianz Europe Equity Growth ถืออยู่ ก็อย่างเช่น
1) ASML Holding บริษัทผู้ผลิตเครื่องสำหรับทำ Semiconductor (ชิป) ซึ่งมีลูกค้าเป็นบริษัทชั้นนำ เช่น TSMC, Samsung
2) SAP ผู้ให้บริการซอฟต์แวร์รายใหญ่ของโลก
3) Adidas แบรนด์รองเท้าและเสื้อผ้า
4) Zalando ผู้ให้บริการอีคอมเมิร์ซด้านแฟชั่นยักษ์ใหญ่ในยุโรป
- REITs หรือ ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์
REITs ในปีที่ผ่านมา มีราคาผันผวนและปรับตัวลงรุนแรง ไปตามวิกฤติโควิด
แต่พอกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่าง ๆ เริ่มกลับมา ราคาของ REITs ก็ทยอยปรับตัวสูงขึ้น
โดยเฉพาะในกลุ่มโรงแรมและศูนย์การค้า ที่ปีก่อนกระทบหนักจากสถานการณ์โรคระบาด
แต่ปีนี้กลับสร้างผลตอบแทนได้ดีที่สุด เพราะผู้คนเริ่มออกไปจับจ่ายใช้สอย และท่องเที่ยว
อย่างไรก็ดี REITs ในประเทศไทย ยังฟื้นตัวไม่มาก (วัดจากดัชนี SETPREIT)
เมื่อเทียบกับตลาดโลก (Global REITs) และตลาดหุ้นไทย (SET)
เพราะสถานการณ์โควิดในบ้านเรา ยังคงรุนแรงอยู่
แต่หากต่อไปสถานการณ์เริ่มคลี่คลาย เริ่มมีการเปิดประเทศ และเปิดรับนักท่องเที่ยว
REITs ไทย ก็น่าจะฟื้นตาม REITs โลกเช่นเดียวกัน
ส่วนเรื่องอัตราดอกเบี้ย และ Bond Yield ที่เพิ่มขึ้น ตามอัตราเงินเฟ้อ
ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อราคา REITs เพราะหลายคนเชื่อว่า นักลงทุนจะขาย REITs ไปซื้อตราสารหนี้แทน
จากสถิติย้อนหลัง 40 ปีนั้น พบว่า ในภาวะเศรษฐกิจฟื้น ที่เงินเฟ้อ และ Bond Yield ปรับตัวสูงขึ้น
REITs ไม่ค่อยได้รับผลกระทบ เหมือนอย่างที่หลายคนเข้าใจกัน
ซึ่ง REITs อาจได้รับประโยชน์ด้วยซ้ำ (ให้ผลตอบแทนที่เป็นบวก)
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่ม Apartments และ Office
ที่จะได้ประโยชน์ จากการปรับขึ้นค่าเช่าในสัญญา ตามอัตราเงินเฟ้อ
ปิดท้ายด้วย มุมมองต่อตลาดหุ้นจีน ของคุณ Ben Powell และคุณวิน พรหมแพทย์
ในระยะยาว ตลาดหุ้นจีน จะยังไปได้อีกไกล ตามปัจจัยพื้นฐานทางด้านเศรษฐกิจที่เติบโต
ทั้งเรื่องศักยภาพการบริโภคภายในประเทศ, เทคโนโลยีต่าง ๆ
หากตลาดหุ้นมีการปรับตัวลง ก็อาจเป็นโอกาสในการเก็บสะสม
แต่ทั้งนี้ มี 3 ประเด็นสำคัญที่ต้องตระหนักไว้ว่า
1) เศรษฐกิจจีน ได้ฟื้นตัวก่อนประเทศอื่น ๆ หลังจากนี้อัตราการเติบโต จึงอาจเริ่มชะลอตัวลง
2) เศรษฐกิจจีน ไม่มีนโยบายทางการเงิน มาอัดฉีดเงินเป็นจำนวนมาก เหมือนประเทศอื่น ๆ
ทำให้อาจไม่มีปัจจัยด้านสภาพคล่อง มาผลักดันตลาดหุ้นมากนัก
3) ความเสี่ยงด้านการกำกับดูแลจากรัฐบาล
ปัจจุบันทางการของจีน กำลังสอบสวนและคุมเข้มบริษัทเทคโนโลยีต่าง ๆ
ในเรื่องการผูกขาดธุรกิจ, การปฏิบัติตามกฎระเบียบ ฯลฯ
ซึ่งที่ผ่านมา ที่หุ้นจีนปรับตัวลงรุนแรง ส่วนสำคัญก็มาจากผลกระทบของปัจจัยนี้
แต่ถ้ามองในแง่ดี การกำกับดูแลของจีนที่เข้มงวดนี้
ก็อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี ที่จะทำให้บริษัทจีนอยู่ในกฎระเบียบ และโปร่งใสมากขึ้น
และจะส่งผลดีต่อภาพรวมของตลาดหุ้นในระยะยาว..
และยังมีสัมมนาออนไลน์วิเคราะห์ครึ่งปีหลังในประเด็นที่น่าจับตาอื่น ๆ โดยวิทยากรชั้นนำมาให้ติดตามกันอย่างเข้มข้นตลอดเดือน ก.ค. นี้ จาก KRUNGSRI EXCLUSIVE สนใจเข้าร่วมรับชมสัมมนาพิเศษ ๆ แบบนี้ ลงทะเบียนได้ที่ https://bit.ly/3h8MKqq (ไม่มีค่าใช้จ่าย)
13 ก.ค.
จับทางเศรษฐกิจไทยในครึ่งปีหลัง หลังจากประเทศไทยเริ่มได้รับการฉีดวัคซีน ในหัวข้อ “วัคซีนความหวังฟื้นเศรษฐกิจไทย” กับวิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินการลงทุนระดับแนวหน้าจากธนาคารกรุงศรี และ ทีดีอาร์ไอ
20 ก.ค.
แนะทิศทางการจัดพอร์ตครึ่งปีหลัง ต้อนรับการเปิดประเทศ กับวิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินการลงทุนระดับแนวหน้าจาก ธ.กรุงศรี บล. กรุงศรี และบลจ.กรุงศรี
29 ก.ค.
อัพเดทแนวคิดการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน Environmental, Social, Governance หรือ ESG ซึ่งกำลังได้รับความสนใจอย่างกว้างขวาง ถือเป็นเทรนด์ที่ร้อนแรงและน่าจับตาในมุมมองนักลงทุนและสถาบันการเงินชั้นนำทั่วโลก โดยวิทยากรระดับแนวหน้าจาก ธ.กรุงศรี และ BlackRock บริษัทจัดการกองทุนชั้นนำของโลก
*คำเตือน : ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน ทั้งนี้ผลการดำเนินงานในอดีตของกองทุนรวม มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต ผู้ลงทุนควรขอคำแนะนำเพิ่มเติมก่อนทำการลงทุน
krungsri 在 chopluem Youtube 的最佳貼文
สวัสดีค้า วันนี้ปลื้มจะชวนทุกคนไปช้อปปิ้งกัน! ถึงจะช้อปปิ้งทิพย์อยู่บ้าน แต่ปลื้มมีวิธีช้อปยังไงให้คุ้มมาฝาก ด้วยบัตรเครดิต กรุงศรี ทั้งสารพัดโค้ดส่วนลด แถมสายเก็บพอยต์ ก็ต้องเลิฟ เพราะได้เงินคืนเพียบ บอกเลยว่าสายช้อปต้องรู้ไว้เลย จะเป็นยังไง ตามไปดูกันเลยย
สำหรับใครที่สนใจก็แวะเข้าไปดูรายละเอียดโปรได้เลยที่ https://kcc.gg/di0
#ShoppingOnline #KrungsriCard #ที่สุดทุกสิ่ง
IG : Chopluem
FB page : Chopluem
For work
Line ID : patzywvq
krungsri 在 Startyourway Official Youtube 的最佳解答
ถ้าอยากออมเงินออย่างสร้างสรรค์ สนุก ง่าย และได้ผล ผมขอแนะนำ Kept by krungsri ครับ
Website
http://www.startyourway.com/
Fanpage
http://www.facebook.com/startyourwaybyvit
Group นายตัวเอง
https://www.facebook.com/startyourwaybyvit
krungsri 在 ลงทุนแมน Youtube 的最佳貼文
Krungsri Asset X ลงทุนแมน
KFCORE เอกสิทธิ์การลงทุนที่กรุงศรี...ที่เดียวเท่านั้น
ข้อมูลเพิ่มเติม คลิก https://bit.ly/2SOYy5w
สอบถามข้อมูลและขอรับหนังสือชี้ชวนได้ที่ บลจ.กรุงศรี โทร. 026575757 เว็บไซต์ www.krungsriasset.com หรือธนาคารกรุงศรีอยุธยาทุกสาขา
การลงทุนมีความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรทำความเข้าใจลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน
krungsri 在 Double Espresso by Krungsri The COACH ให้คุณอัปเดต ... 的推薦與評價
ความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 9 เดือน ทุบดาวโจนส์ร่วงแรงยอดผลิตและส่งออกรถยนต์เดือน มี.ค. ... <看更多>
krungsri 在 Krungsri Simple 新增了1 張相片。 的推薦與評價
Krungsri Simple, profile picture · Krungsri Simple · 動態時報相片 · 2022年9月30日 ·. 全尺寸檢視. Kanyanuch Jarusane 和其他214 人都說讚。 ... <看更多>