สรุปเรื่อง M&A การควบรวมกิจการ คืออะไร? ครบจบในโพสต์เดียว /โดย ลงทุนแมน
ยุคสมัยนี้ การแข่งขันในโลกธุรกิจ ทวีความรุนแรงมากขึ้นกว่าอดีตอย่างมาก
หลายบริษัทเจอความท้าทายต่าง ๆ
ทั้งเศรษฐกิจที่ผันผวน และการเพิ่มขึ้นของคู่แข่งในอุตสาหกรรม
บริษัทจำนวนไม่น้อย จึงเลือกที่จะใช้กลยุทธ์ที่เรียกว่า Mergers and Acquisitions หรือ “M&A” เพื่อความอยู่รอด หรือแม้แต่เสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ธุรกิจตนเอง
M&A คืออะไร และมีความสำคัญกับการดำเนินธุรกิจปัจจุบัน มากแค่ไหน ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
M&A ย่อมาจาก 2 คำ คือ “Mergers and Acquisitions”
โดย Mergers นั้นหมายถึง การที่บริษัทตั้งแต่ 2 บริษัทขึ้นไป ทำการควบรวมกิจการเข้าด้วยกัน
เป็นผลให้ทั้งบริษัทเหล่านั้น ถูกยุบรวมและเหลือเพียงแค่บริษัทใหม่เกิดขึ้น และบริษัทเดิมทั้งสอง (หรือมากกว่า 2) ก็จะเป็นเจ้าของบริษัทใหม่ร่วมกัน
ซึ่งตัวอย่างที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมาก็คือ การควบรวมกิจการระหว่างธนาคารทหารไทย และธนาคารธนชาต จนกลายมาเป็น ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB
ส่วนคำว่า Acquisitions นั้นหมายถึง การที่บริษัทหนึ่งเข้าไปซื้อกิจการของอีกบริษัทหนึ่ง
กรณีแรกคือ Share Acquisition คือผู้ที่เข้ามาซื้อ
จะได้หุ้นของบริษัทที่ถูกซื้ออาจจะบางส่วนหรือทั้งหมด
ซึ่งผู้ซื้อจะได้มาซึ่งสิทธิ์ในการออกเสียงในการประชุม หรือพูดง่าย ๆ ว่ามีสิทธิ์ควบคุมการตัดสินใจของกิจการที่ถูกซื้อ อย่างเช่น การเข้าซื้อหุ้น INTUCH ของ GULF
อีกกรณีคือ ผู้ซื้อจะได้มาซึ่งทรัพย์สิน, หน่วยธุรกิจบางส่วนหรือทั้งหมด ของกิจการที่ถูกซื้อ ซึ่งกรณีนี้เราเรียกว่า Asset Acquisition หรือ Business Acquisition
ซึ่งตัวอย่างที่เกิดขึ้นเร็ว ๆ นี้ก็เช่น กรณีที่ MAKRO รับโอนกิจการทั้งหมดของ LOTUS แล้วออกหุ้นเพิ่มทุนให้กับเจ้าของเดิมที่เป็นบริษัทในเครือซีพี เพื่อชำระเป็นค่าโอนกิจการ
ทีนี้ลองมาดูกันว่ามีเหตุผลสำคัญอะไรบ้าง ที่ทำให้บริษัทส่วนใหญ่นิยมหยิบกลยุทธ์ M&A มาใช้
- เสริมการเติบโตให้กับบริษัท
เมื่อธุรกิจของบริษัทเติบโตมาถึงจุดหนึ่ง การที่จะผลักดันให้ธุรกิจเติบโตมากขึ้นถือว่าเป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างมาก เช่น หากธุรกิจอยู่ในอุตสาหกรรมที่ขนาดตลาดเริ่มไม่เติบโตแล้ว การจะขยายส่วนแบ่งตลาดอาจทำได้ลำบาก
กรณีนี้บริษัท ก็จะต้องพึ่งการเข้าไปควบรวมกิจการคู่แข่งที่อยู่ในธุรกิจเดียวกันนั้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มส่วนแบ่งตลาดได้ทันที โดยไม่ต้องไปเสียเวลาลงทุนพัฒนาสินค้า ทดลองตลาด หรือจ้างพนักงานเพิ่ม
หรือแม้แต่ถ้าธุรกิจเดิมของบริษัทนั้นเริ่มอิ่มตัว การเข้าไปควบรวมกิจการกับบริษัทอื่นที่อยู่ในธุรกิจใหม่ ก็สามารถสร้างการเติบโตจากภายนอกกิจการ หรือ Inorganic Growth ได้เช่นกัน
- เพิ่มอำนาจ และผลประโยชน์ร่วมทางธุรกิจ ให้กับบริษัท
เมื่อบริษัทมีการควบรวมกิจการกันเกิดขึ้นแล้ว จะทำให้เพิ่มอำนาจและผลประโยชน์ทางธุรกิจได้ เพราะบริษัทที่ควบรวมสามารถใช้ทรัพยากร รวมไปถึงจุดแข็งของแต่ละบริษัทร่วมกัน ทั้งยังช่วยลดต้นทุนการดำเนินงานโดยรวมให้ลดลงอีกด้วย
ตัวอย่างเช่น การควบรวมกันของธุรกิจค้าปลีก
ที่สามารถเพิ่มอำนาจซื้อและต่อรองกับซัปพลายเออร์ จนอาจได้รับส่วนลด และช่วยให้เกิดการประหยัดต่อขนาด ซึ่งล้วนแล้วแต่ทำให้ต้นทุนการดำเนินงานลดลง
- เพื่อความอยู่รอดของธุรกิจ
สภาพแวดล้อมทางธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงไป มีหลายบริษัทที่ปรับตัวไม่ทัน ต้องประสบปัญหา บางบริษัทขาดสภาพคล่อง เข้าถึงแหล่งเงินทุนยาก โดยเฉพาะบริษัทขนาดเล็ก หรือบริษัทที่กำลังประสบปัญหา
ดังนั้น เราจึงเห็นบริษัทขนาดใหญ่ที่มีเงินทุนสูงพยายามเข้าไปควบรวมกิจการกับบริษัทขนาดเล็กหลายแห่งที่ยังมีโอกาสเติบโตในอนาคต แต่กำลังประสบปัญหาอยู่
ซึ่งการควบรวมกับธุรกิจขนาดใหญ่ จะทำให้ธุรกิจขนาดเล็กหรือธุรกิจที่กำลังประสบปัญหานั้นมีโอกาสอยู่รอดสูงขึ้น
และหากมองในมุมของ รูปแบบการควบรวม เราก็สามารถแบ่งออกเป็น 3 รูปแบบหลัก ๆ คือ
1. การควบรวมกิจการแบบแนวนอน (Horizontal Integration)
เป็นการควบรวมกิจการที่ทำธุรกิจเหมือนกัน หรืออยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกัน ซึ่งผลประโยชน์จากการควบรวมแบบนี้คือ เกิดการประหยัดต่อขนาด (Economies of Scale)
จากการที่สามารถเพิ่มกำลังการผลิต เพิ่มส่วนแบ่งตลาด ลดคู่แข่ง รวมไปถึงการเกิดผลประโยชน์ทางธุรกิจเพิ่มขึ้น และเพื่อให้เกิดจากการแชร์เทคโนโลยี ทรัพยากร และบุคลากรร่วมกัน
ตัวอย่างดีลแบบนี้ ก็เช่น The Walt Disney ที่มีส่วนธุรกิจผลิตภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์รายใหญ่ ได้เข้าซื้อกิจการของ 21st Century Fox สตูดิโอผลิตภาพยนตร์ชื่อดัง ด้วยมูลค่ากว่า 2.3 ล้านล้านบาท ในปี 2019
2. การควบรวมกิจการแบบแนวตั้ง (Vertical Integration)
เป็นการควบรวมของธุรกิจที่มีห่วงโซ่อุปทาน (Supply Chain) เดียวกัน เพื่อลดต้นทุนการผลิต และจัดการกระบวนการผลิตได้ง่ายขึ้น
เช่น ในปี 2012 Google ได้เข้าซื้อกิจการของ Motorola Mobility ที่แยกตัวออกมาจาก Motorola และเป็นหนึ่งในผู้พัฒนาสมาร์ตโฟน Android ด้วยมูลค่ากว่า 406,000 ล้านบาท อย่างไรก็ตามดีลนี้ของ Google ไม่ประสบความสำเร็จเท่าไรนัก เพราะตลาดโทรศัพท์มือถือมีการแข่งขันกันที่รุนแรง
3. การควบรวมกิจการที่ไม่มีความสัมพันธ์กัน (Conglomerate Integration)
เป็นการควบรวมของธุรกิจที่แตกต่างจากเดิมโดยสิ้นเชิง
ทั้งนี้เพื่อ สร้างการเติบโตจากธุรกิจใหม่ รวมไปถึงความต้องการที่จะกระจายความเสี่ยงเพื่อไม่ให้กิจการมีรายได้หลักมาจากธุรกิจเดิมเท่านั้น
ตัวอย่างของบริษัทที่เกิดจาก Conglomerate Integration เช่น กลุ่มไทยเจริญคอร์ปอเรชั่น หรือ TCC Group ของคุณเจริญ สิริวัฒนภักดี
ที่มีการควบรวมกิจการต่าง ๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องมาอยู่ในเครือมากมาย เช่น ธุรกิจอาหาร เครื่องดื่ม อสังหาริมทรัพย์ ประกัน การเงิน และธุรกิจการเกษตร
ทั้งหมดนี้ก็คือ สรุปกลยุทธ์ M&A
ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญในทางธุรกิจ ที่ทำให้เราเข้าใจว่า
เรื่องราวที่เกิดขึ้นในโลกธุรกิจที่ผ่านมา มันจะเกี่ยวข้องกับเรื่อง M&A ในหลายเรื่อง
และในอนาคต เราก็จะได้เห็นการ M&A ของธุรกิจต่าง ๆ อยู่เป็นระยะ ตราบใดที่บนโลกนี้ยังมีการขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วย แนวคิดทุนนิยม..
╔═══════════╗
Blockdit เป็นแพลตฟอร์ม สำหรับนักอ่าน และนักเขียน
ที่มีผู้ใช้งาน 1 ล้านคน ลองใช้แพลตฟอร์มนี้เพื่อได้ไอเดียใหม่ๆ
แล้วอาจพบว่าสังคมนี้เหมาะกับคนเช่นคุณ
Blockdit. Ideas Happen. Blockdit.com/download
╚═══════════╝
ติดตามลงทุนแมนได้ที่
Website - longtunman.com
Blockdit - blockdit.com/longtunman
Facebook - facebook.com/longtunman
Twitter - twitter.com/longtunman
Instagram - instagram.com/longtunman
Line - page.line.me/longtunman
YouTube - youtube.com/longtunman
Spotify - open.spotify.com/show/4jz0qVn1AL7tRMHiTvMbZH
Apple Podcasts - podcasts.apple.com/th/podcast/ลงท-นแมน/id1543162829
Soundcloud - soundcloud.com/longtunman
References:
-https://www.investopedia.com/ask/answers/why-do-companies-merge-or-acquire-other-companies/
-https://www.set.or.th/th/market/files/mna/Final_MnA.pdf
-https://www.investopedia.com/ask/answers/051315/what-difference-between-horizontal-integration-and-vertical-integration.asp
-https://www.npr.org/2019/03/20/705009029/disney-officially-owns-21st-century-fox
-https://en.wikipedia.org/wiki/Motorola_Mobility
-https://en.wikipedia.org/wiki/List_of_largest_mergers_and_acquisitions
「or ย่อมาจาก」的推薦目錄:
- 關於or ย่อมาจาก 在 ลงทุนแมน Facebook 的精選貼文
- 關於or ย่อมาจาก 在 BorntoDev Facebook 的最讚貼文
- 關於or ย่อมาจาก 在 BorntoDev Facebook 的最佳貼文
- 關於or ย่อมาจาก 在 ค่ายเตรียมความพร้อม ม.ปลาย - รวมคำศัพท์ และความหมาย ที่น้อง ... 的評價
- 關於or ย่อมาจาก 在 หุ้น OR คืออะไร? มองปรากฏการณ์ 'ตื่นหุ้น OR' จะซื้อดีไหม ทำไม ... 的評價
- 關於or ย่อมาจาก 在 วิสัยทัศน์ / พันธกิจ / ค่านิยม 的評價
- 關於or ย่อมาจาก 在 PTT Oil and Retail Business Public Company Limited 的評價
- 關於or ย่อมาจาก 在 คำศัพท์แพทย์ ⚕️ ⚕️ | We Mahidol - YouTube 的評價
- 關於or ย่อมาจาก 在 ธุรกิจน้ำมัน และค้าปลีก 的評價
- 關於or ย่อมาจาก 在 ชวนสำรวจ OR เป็นเจ้าของอะไรบ้าง? ก่อนตัดสินใจซื้อหุ้น 的評價
or ย่อมาจาก 在 BorntoDev Facebook 的最讚貼文
💡 ถ้าพูดถึงสาย Database แล้ว จะมีตัวย่ออยู่ชุดนึงที่ฟังครั้งแรกแล้วต้องเอ๊ะว่า นี่วงการคอมพิวเตอร์หรือเคมีแน่นะ ? นั่นก็คือคำว่า ACID นั่นเอง โดย ACID ในที่นี้ไม่ได้แปลว่ากรดแต่อย่างใด เพราะมันคือคุณสมบัติที่ Database transaction ต้องมีต่างหาก !
.
Database Transaction คืออะไร ?
.
ก่อนจะไปที่เรื่อง ACID แอดขออธิบายเพิ่มเติมสำหรับมือใหม่นิสนึง เจ้า Database Transaction คือชุดคำสั่งที่กระทำบางสิ่งกับ Database ไม่ว่าจะสร้าง อ่าน แก้ไข หรือลบข้อมูล เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ
.
ถ้ายังนึกไม่ออก เรามีตัวอย่าง !
“ถ้า A จะโอนเงินให้ B จำนวน 100 บาท” เพื่อน ๆ คิดว่า Transaction สำหรับโอนเงินจะเป็นยังไง ?
.
สมมติว่า คำสั่งที่จะเกิดขึ้นตอนโอนเงินมีดังนี้
1) เข้าไปอ่านข้อมูลว่า ขณะนี้ A และ B มีเงินในบัญชีเท่าไหร่
2) แก้ไขจำนวนเงินของ A โดยลบออก 100 บาท
3) แก้ไขจำนวนเงินของ B โดยเพิ่มขึ้น 100 บาท
4) เพิ่มข้อมูลประวัติการโอนเงินระหว่าง A ไปยัง B
.
แค่นี้ เราก็จะได้ 1 Transaction สำหรับโอนเงินจาก A ไป B จำนวน 100 บาทแล้ว~~
.
พอเข้าใจเรื่อง Database Transaction กันแล้ว เราก็จะมาดูกันต่อว่า คุณสมบัติของ Transaction ที่ดีเป็นยังไงนะ? ถ้าพร้อมแล้วไปต่อกันเลย
.
.
ทำไม Database Transaction ต้อง ACID?
.
ACID ย่อมาจาก Atomicity, Consistency, Isolation และ Durability ซึ่งทั้ง 4 ตัวเป็นคุณสมบัติที่ทำให้ Transaction บน Database นั้นน่าเชื่อถือและมีความถูกต้อง
.
🔸 Atomicity
.
มีสโลแกนว่า แต่ละ Transaction จะต้องเป็นแบบ “All or nothing” หมายถึง Transaction จะสำเร็จก็ต่อเมื่อ ทุกคำสั่งในนั้นทำงานได้สำเร็จจริง แต่ถ้ามีคำสั่งไหนหรือส่วนไหนที่ทำไม่สำเร็จ ทั้ง Transaction นั้นก็จะถือว่าไม่สำเร็จไปเลย จึงเป็นที่มาของวลี “All or nothing” นั่นเอง
.
จากตัวอย่าง Transaction ที่แอดแปะไว้ข้างบน
.
“ถ้า A จะโอนเงินให้ B จำนวน 100 บาท”
1) เข้าไปอ่านข้อมูลว่า ขณะนี้ A และ B มีเงินในบัญชีเท่าไหร่
2) แก้ไขจำนวนเงินของ A โดยลบออก 100 บาท
3) แก้ไขจำนวนเงินของ B โดยเพิ่มขึ้น 100 บาท
4) เพิ่มข้อมูลประวัติการโอนเงินระหว่าง A ไปยัง B
.
ถ้าทำคำสั่งที่ 3 อยู่ แล้ว Server ล่ม เงินของ B จะไม่ถูกเพิ่มอีก 100 บาท แปลว่ามีคำสั่งที่ทำไม่สำเร็จเกิดขึ้น ดังนั้นทั้ง Transaction นี้ก็จะถือว่าไม่สำเร็จนั่นเอง
.
.
🔸 Consistency
.
Consistency แปลว่า ความสอดคล้อง ดังนั้น ไม่ว่าใน Transaction นั้น เราจะทำอะไรกับข้อมูลบ้าง ข้อมูลนั้นก็ต้องสอดคล้องกับกฎเกณฑ์และเงื่อนไขที่เราออกแบบไว้บน Database เช่น ข้อมูลจำนวนเงินต้องเป็นตัวเลขเท่านั้น เป็นตัวอักษรไม่ได้
.
นอกจากนี้ จะต้องไม่กระทบกับข้อมูลที่มีอยู่แล้วด้วย ถ้ามีคำสั่งที่ทำให้ข้อมูลไม่ถูกต้อง Transaction นั้นจะถูก Rollback หรือก็คือยกเลิก Transaction นั้นเพื่อย้อนกลับไปตอนที่ข้อมูลยังถูกต้องอยู่ เช่น ถ้ากำลังเพิ่มประวัติการโอนเงิน มี Transaction การโอนอื่นกำลังจะเพิ่มประวัติอยู่เหมือนกัน รหัสของการโอนทั้ง 2 กรณีนี้จะต้องไม่เหมือนกัน ไม่งั้น Transaction ที่มาทีหลังจะต้อง Rollback
.
.
🔸 Isolation
.
แน่นอนว่าบน Database อาจมีหลาย Transactions เกิดไล่เลี่ยกันและอาจทำบนข้อมูลส่วนเดียวกัน ถ้า Transaction ที่เกิดขึ้นยังไม่เสร็จ คำสั่งใน Transaction นั้นจะต้องไม่มีผลกับ Transaction อื่น ๆ จนกว่าจะทำการ Commit (ยืนยันการเปลี่ยนแปลงข้อมูลจากการกระทำของ Transaction)
.
.
🔸 Durability
.
Durability แปลว่า ความคงทน ดังนั้น ถ้า Transaction ไหน ถูก Commit แล้ว ข้อมูลจาก Transaction นั้น ก็จะต้องครบถ้วนและอยู่คงทนตลอดไปใน Database ไม่ว่าจะไฟดับ Server ล่ม หรือเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
.
.
เป็นยังไงกันบ้างเอ่ย ถ้าอยากให้แอดมาแชร์เรื่องอะไรอีกก็คอมเมนต์กันมาได้น้า~ และสำหรับโพสต์นี้ ชอบกดไลก์ ใช่กดแชร์ เป็นกำลังใจให้แอดและทีม BorntoDev ด้วยนะคะ ❤️
.
.
borntoDev - 🦖 สร้างการเรียนรู้ที่ดีสำหรับสายไอทีในทุกวัน
#ACID #database #BorntoDev
or ย่อมาจาก 在 BorntoDev Facebook 的最佳貼文
💡 เมื่อเราได้เรียนรู้วิธีการเขียนเว็บมาสักพักแล้ว ไม่ว่าจะเป็นพื้นฐานที่สำคัญ เช่น HTML, CSS และ JavaScript แล้วเราอยากจะอยากไปลองใช้ Library หรือ Framework เจ๋ง ๆ ที่ช่วยในการเขียนเว็บ อย่าง React ต้องรู้อะไรบ้าง ??
.
👉 ซึ่งไอเจ้า React เนี่ยมันมีพื้นฐานจาก JavaScript นั่นเอง เราจึงจำเป็นต้องรู้ Concept ที่สำคัญ ๆ ก่อนจะไปใช้งานเจ้า React นั่นเอง
.
มีอะไรบ้าง?? ไปดูกันเลยจ้า 🔥
.
⚙️ Basic Data Structure
Data Structure เป็นหัวใจหลักในการเขียนโปรแกรม ดังนั้นเราต้องเรียนรู้ Data Structure ประเภทต่าง ๆ ให้เข้าใจก่อน ตัวอย่างเช่น การรับ-ส่ง Request จาก API มายัง JS เราก็ต้องมีวิธีที่จะจัดการกับโครงสร้างของข้อมูลที่ดึงมาจาก API เพื่อให้เราสามารถนำข้อมูลนั้นไปใช้ได้ตามต้องการ
.
🌟 DOM
DOM หรือ Document Object Model เป็นการปรับเปลี่ยนโครงสร้าง HTML ให้เป็นแบบ Object โดยให้ JavaScript สามารถจัดการกับ HTML ผ่านโครงสร้างของ DOM ได้นั่นเอง ซึ่งเจ้า React จะใช้โครงสร้าง DOM เป็นหลัก เพื่อสร้างการโต้ตอบบนหน้าเว็บที่สะดวกยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น เมื่อคลิกปุ่มสามารถแสดงข้อความ หรือเปลี่ยนสีของข้อความนั่นเอง
.
🚚 API
API ย่อมาจาก Application Program Interface ซึ่งเราต้องมีพื้นฐานการใช้งาน API เพื่อนำข้อมูลมาใช้บนหน้าเว็บนั่นเอง อาจจะไม่ต้องถึงกับสร้าง API ใช้ก็ได้นะ เพียงแค่รู้โครงสร้าง และวิธีการดึงมาใช้งานพื้นฐานก็พอแล้ว !!
.
🔧 Axios / Fetch
เครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้เราดึง API ต่าง ๆ มาใช้งานได้ง่ายมากขึ้นนั่นเอง !! ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ ในการพัฒนาหน้าเว็บ เพราะมันจะช่วยให้เราสามารถรับ-ส่งข้อมูลแบบไดมามิก และเชื่อมต่อระหว่าง Back-end ได้ง่าย
.
📚 ES6+
สิ่งสำคัญคือเราต้องเรียนรู้วิธีเขียน JavaScript มาตรฐานใหม่ ซึ่งจะช่วยให้โค้ดของเรามีรูปแบบที่อ่านง่ายมากขึ้น !! ซึ่งใน React ที่จะนิยมใช้ ได้แก่ Template Literals, Arrow Functions, Promise, Async / Await, const & let vs var และ Spread Operator นั่นเอง
.
🗂️ JS Array Methods
เมื่อเราสามารถดึงข้อมูลจาก API มาใช้ได้แล้วนั้น เราก็ต้องรู้จักวิธีจัดการกับข้อมูลนั้น ๆ ด้วยนะ ซึ่งมันจะง่ายขึ้นถ้าเรารู้จักใช้ความสามารถของ Array Methods ต่าง ๆ ซึ่งที่นิยมใช้กัน ได้แก่ map(), forEach(), find(), และ filter() เป็นต้น บอกเลยว่าถ้าใช้พวกนี้เป็น ทำให้ชีวิตง่ายขึ้นแน่นอน!! 5555
.
อะทั้งหมดนี้คือ Concept JavaScript พื้นฐานที่สำคัญที่คนเขียน React ต้องมีนะ หวังว่าเพื่อน ๆ จะชอบกันน้าาาา ใครมีอะไรเพิ่มเติมคอมเมนต์ไว้ได้เลย 🥰
.
📑 Source : https://lorenzejay.hashnode.dev/javascript-concepts-you-should-know-before-jumping-into-react-or-any-other-frontend-framework
.
borntoDev - 🦖 สร้างการเรียนรู้ที่ดีสำหรับสายไอทีในทุกวัน
or ย่อมาจาก 在 หุ้น OR คืออะไร? มองปรากฏการณ์ 'ตื่นหุ้น OR' จะซื้อดีไหม ทำไม ... 的推薦與評價
ข่าวการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ของ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR อยู่ในพื้นที่สื่อมาอย่างต่อเนื่องนับจากวันแรกที่ผู้เล่นรายใหญ่ของ ... ... <看更多>
or ย่อมาจาก 在 วิสัยทัศน์ / พันธกิจ / ค่านิยม 的推薦與評價
ความหมายของ OR Corporate Logo. แสดงอัตลักษณ์ความเป็นตัวตนผ่านคอนเซ็ปต์ คือ Simple ความเรียบง่าย โดดเด่น และแตกต่าง Freeform การทำธุรกิจที่เป็นอิสระ ... ... <看更多>
or ย่อมาจาก 在 ค่ายเตรียมความพร้อม ม.ปลาย - รวมคำศัพท์ และความหมาย ที่น้อง ... 的推薦與評價
OR ย่อมาจาก OPERATING ROOM ห้องผ่าตัด. LR ย่อมาจาก LABOR ROOM ห้องคลอด. OPD ย่อมาจาก OUTPATIENT DEPARTMENT แผนกผู้ป่วยนอก. MED ย่อมาจาก MEDICINE ... ... <看更多>