Search
Quote of the Day / Petikan Inspirasi Hari Ini
The way you answer on all of the questions and issues reflect your personality and print your future map.
Cara jawapan anda kepada semua soalan dan isu yang dihidangkan kepada anda adalah cermin perwatakan anda dan juga kompas peta masa depan anda.
MDB
ฟัว กราส์ ตับเป็ด/ห่าน เนื้อเนียนละมุน มีวิธีทำแบบนี้
ขังน้องไว้ในคอกเหล็ก ไม่ให้ขยับตัว กางแขนก็ไม่ได้ ให้มีการสะสมไขมันมากที่สุด จิกเพื่อนข้างๆ เพราะความเครียดจากการถูกล็อคตัว2-3 สัปดาห์สุดท้ายของชีวิต
ใช้ท่อเหล็กยัดอาหารลงคอ ให้สะสมไขมันที่ตับเยอะๆ ส่วนใหญ่น้องสำลัก และอ้วกไหลย้อนเข้าปอด
*ท่อเหล็ก ที่กระทุ้งลงคอน้อง ทำให้น้องปาก คอเป็นแผลเน่า บางทีเป็นรูทะลุ ป้อนน้ำเข้าปาก ไหลออก รูตรงคอ หลายตัวมีก้อนเนื้องอก ในคอ จากการกระทุ้งอาหารลงคอ
ให้ได้ตับที่โต 10 เท่าของขนาดปกติ จนอึดอัด เบียดอวัยวะภายใน น้องรู้สึกไม่สบายตัวตลอดเวลา เครียด เสียสติ ขาอ่อนแรงยืนไม่ไหว อึ/ฉี่คากรง สกปรกจน ตามตัว เท้า ก้น เป็นแผลติดเชื้อ - ฉีดยาปฏิชีวนะโดสสูง ให้น้องประทังชีวิตจนถึงวาระสุดท้าย
น้องตายจากวิธีเลี้ยงแบบยัดอาหารกรอกปาก สูงถึง 20 เท่า เทียบกับการเลี้ยงปกติ ปีนึงเป็นแสนตัว
ใช้แต่เป็ด/ห่านตัวผู้ ลูกเป็ดตัวเมียเอาไปบดทำเป็นปุ๋ย เพราะสิ้นเปลืองค่าใช้จ่าย เก็บไว้แค่แม่พ้นธุ์ไม่กี่ตัว แม้ปัจจุบันหลายประเทศ แบนวิธีการเลี้ยงเป็ดแบบนี้ แต่ก็ยังมีอีกหลายโรงงาน ที่ยังทำธุรกิจนี้อยู่
เราช่วยชีวิตน้องๆนับหมื่น จากนรกนี้ได้ ร่วมกับ PETA- มูลินิธิปกป้องการทรมานสัตว์ - เลิกกิน ฟัว กราส์ เหมือนกับที่เราเลิกกิน หูฉลาม และ อาหารอีกหลายชนิดที่ทำร้ายชีวิตอื่นมากเกินไป
เพิ่มเติมอ่าน:
https://www.peta.org/issues/animals-used-for-food/factory-farming/ducks-geese/foie-gras/
*********************************************
เพิ่มเติม วันที่ 19 กพ 63
ฟัว กราส์ คืออะไร ฉบับยาว https://en.wikipedia.org/wiki/Foie_gras
การต่อสู้กันยาวนานของการแบน ฟัว กราส์ มีทั้งคนเห็นด้วย และ ไม่เห็นด้วย
***ส่วนที่คนสนใจมากที่สุด คือการยัดเยียดให้กินอาหารเกินความต้องการ เป็นการทรมานสัตว์หรือไม่ การบังคับให้มีการสะสมไขมันที่ตับ เกินขนาดการเก็บไขมันแบบธรรมชาติ ทำให้สัตว์ทรมานหรือไม่
ซึ่งกระบวนการผลิต ฟัว กราส์ ในปัจจุบัน ส่วนใหญ่บนโลก คือ การบังคับป้อนอาหาร (Force Feeding- FF)
สัตวแพทย์บางคนบอกว่า เป็ด/ห่าน ไม่มี Gag Reflex หรือ อาการสำลักแบบคน และการกรอกอาหาร ไม่เป็นการทรมานสัตว์ สัตวแพทย์ก็เสียงแตก มีทั้งเห็นด้วย และ ไม่เห็นด้วย
ถึงกับมีการเอาเลือดของ เป็ด/ห่าน หลังโดนกรอกอาหารไปหาสารความเครียด แต่ก็หาข้อสรุปกันไม่ได้ นักพฤติกรรมสัตว์บอกว่า เป็ด/ห่าน เบือนหน้า หรือ วิ่งหนี เมื่อถึงเวลากรอกอาหาร
เชฟบางคนเห็นด้วย บางคนไม่เห็นด้วย บอกว่า ถ้าแบนตับเป็ด/ห่าน ต่อไปถ้าไม่พอใจวิธีการฆ่าหมู ก็จะแบนหมู/วัว?
บางคนก็ยกเคสการแบน เป็นเหตุผลทางการเมืองว่า นักการเมืองต้องการฐานเสียงคนรักสัตว์
ณ ตอนนี้ มีหลายประเทศ/รัฐ ที่ประกาศแบน ทั้งแบนการขาย หรือ การผลิต หรือ ทั้ง 2 เช่น อินเดีย ออสเตรเลีย อังกฤษ อิตาลี นอร์เวย์ ลักเซมเบิร์ก ฟินแลนด์ เดนมาร์ก และอีกหลายประเทศ อ่านต่อในลิ้งข้างล่างนี่จา
https://en.wikipedia.org/wiki/Foie_gras_controversy
ซึ่งมีเมืองที่เคยแบน แล้วเลิกแบนแล้วก็มี
และล่าสุดช่วงปลายปี 2019 นิวยอร์ค ประกาศยุติการขายฟัว กราส์ ให้เวลาผู้ประกอบการปรับตัวถึง ใน ปี 2022 เพื่อหาทางผลิต ฟัว กราส์ แบบไม่ยัดอาหารเข้าปาก
https://www.nytimes.com/2019/10/30/nyregion/foie-gras-ban-nyc.html
โดยปกติแล้ว ตับห่าน/เป็ด จะสะสมไขมัน ในฤดูกาลย้ายถิ่นฐาน ซึ่งจะบังคับตัวเองให้กินเยอะๆเพื่อสะสมพลังงาน ซึ่งฟาร์มบางที่ใช้วิธีธรรมชาติ จึงมีผลผลิตจำนวนจำกัด ไม่สามารถตอบสนองความต้องการตลาดได้ อ่านดูได้ในนี้:
https://www.theguardian.com/world/2015/jan/18/the-farmer-who-makes-ethical-foie-gras?fbclid=IwAR1zR0gL_8QuYceW1TxNAG2QRImutAW3GvemTrk-a9Et7xLS-XFpLdlqC44
การเปลี่ยนระบบนิเวศน์ในลำไส้ เพื่อทำให้ห่าน/เป็ด สะสมไขมันได้ โดยไม่ต้องบังคับยัดอาหารสัตว์ ไม่ใช่เรื่องใหม่ ศึกษามานานแล้ว ไม่นานมานี้ ก็เพิ่งมีการเปิดตัว สตาร์ทอัพ
ซึ่งยังบอกว่า สามารถยืดอายุขัยของเป็ด/ห่านได้ด้วย ซึ่งก็ยังเป็นที่น่าสงสัยว่า มีการดัดแปลงพันธุกรรมหรือไม่
https://www.reuters.com/article/us-france-foiegras/force-feeding-off-menu-as-france-trials-naturally-fatty-foie-gras-idUSKBN1Y81UR
แต่ฟัว กราส์ แบบที่แก้ไขระบบนิเวศน์แบคในลำไส้ ก็ยังไม่ได้รับความนิยมมากนัก เพราะราคาแพงกว่า 3-4 เท่า (ตับห่านแบบยัดอาหาร ขาย 300-400ยูโรต่อกิโล ถ้าเป็นแบบใช้เทคโนโลยีแบค กิโลละ 1,000ยูโร) - ปกติตับห่านที่มีไขมันธรรมชาติ ชิ้นละประมาณ 300-400 กรัม - ถ้ายัดอาหารจะได้ ชิ้นละ 1 กิโล
และ เชฟหลายคนบอกว่า รสชาติไม่มัน เหมือนแบบเดิม ลองฟัง นักข่าว Telegraph เอา ตับ 2 ชนิด แบบบังคับสัตว์ (Force Feed) กับ เปลี่ยนระบบนิเวศแบคทีเรียในลำไส้สัตว์ ในคอลัมน์นี้
https://www.telegraph.co.uk/news/2019/12/23/au-revoir-force-feeding-french-farm-produces-first-ethical-foie/
เชฟไม่ชอบรสชาติ ฟัว กราส์แบบใหม่
https://www.youtube.com/watch?v=2qwHfzgwEbQ&feature=youtu.be&fbclid=IwAR1UUBHk3FoGSbyezw3jMKXdtDc6kQbzz07rrtH2DPvUD9_aiAGg44rHXbk
อันนี้Animal Equality เข้าไปแอบถ่ายในฟาร์ม ที่ผลิต ฟัวกราส์แห่งนึง
https://www.youtube.com/watch?v=_8udctdnINM&feature=youtu.be&fbclid=IwAR0aqs_a0uA8xQ4AaAM7AWtw5ZhtBjoKr05YwPKtEnHVZGZ0pThqY06DQ5I
ในบรรดาสารคดี ฟัว กราส์ ตับห่าน/เป็ด มีอันนี้ดูให้ข้อมูลครบ เป็นกลางที่สุด ลองเข้าไปดู
https://www.youtube.com/watch?v=JjQWwhxz5rQ&feature=youtu.be&fbclid=IwAR1zR0gL_8QuYceW1TxNAG2QRImutAW3GvemTrk-a9Et7xLS-XFpLdlqC44
ให้ข้อมูลขนาดนี้ หาต่อใน google มีอีกเยอะเลย ตัดสินใจเองว่าจะกินหรือไม่กิน
1. สมมติฐานว่า เดี๋ยวนี้ไม่มีการบังคับยัดอาหารลงคอแล้ว (Force Feeding) เค้าใช้เทคโนโลยีอื่นกันหมดแล้ว
2.สมมติฐานว่า ถึงมีการยัดอาหารสัตว์วันละหลายๆรอบ สัตว์รับได้ ไม่ทรมาน
3. สมมติฐานว่า เลือกกิน จากฟาร์มที่พิสูจน์ได้จริงๆว่า ไม่ได้ทรมานสัตว์
ศึกษา ช่วยกันหาข้อมูลมาแบ่งกัน ด้วยความสุภาพ เป็นมิตร และมีเมตตา คือ คนมีสติปัญญา
*ใครอยากรู้อีกว่า แล้วอย่างงี้ นานาประเทศ หลากหลายเมืองเค้าแบนทำไม ถ้ามันดีจริงๆ ลองอีเมลไปถามเค้าได้ เริ่มจากที่แรก New York City Council: https://council.nyc.gov
Sekiranya anda membuat bayaran di pasaraya, soalan yang ditanya sebelum membuat bayaran adalah,
“Nak beg plastik?”
.
Persoalannya, mengapakah masih bertanya sedangkan matlamat asal polisi ini adalah untuk mengurangkan penggunaan beg plastik?
Secara psikologinya, apabila sesuatu perkara ditanya secara berulang ulang, ia akan melekat diminda tanpa disedari. Oleh itu, dari segi mesej kempen tersebut, ia ternyata GAGAL memberi mesej , “TANPA BEG PLASTIK”.
.
Menurut Presiden Persatuan Pengguna CASSA, Dr Jacob, anggaran keuntungan kasar yang diperoleh pasar raya setiap bulan boleh mencecah RM10 juta dari kutipan 20 sen ini.
Maka, tidak hairanlah mengapa pasaraya lebih suka bertanya, “nak plastik beg” kepada pelanggan pelanggan mereka dikaunter bayaran.
Beberapa kerajaan negeri mendakwa menyalurkan kutipan tersebut kepada PBT untuk program CSR dan tabung amanah kerajaan negeri. Namun beberapa NGO utama yang memperjuangkan isu alam sekitar seperti PETA mendakwa tidak menerima sebarang dana dari tabung kutipan tersebut.
Isu transparensi kutipan 20 sen ini telah menjadi persoalan sejak beberapa tahun lalu, namun masih tidak di jawab dengan jelas.
.
Kempen “Tanpa Beg Plastik” pada awalnya mendapat sokongan masyarakat tapi kini ternyata telah tersasar jauh dari matlamat asal , menjadikan ia sebagai medium untuk menjana KEUNTUNGAN sesetengah pihak.
Kempen Tanpa Beg plastik adalah satu peluang yang baik untuk meningkatkan kesedaran masyarakat mengenai kepentingan menjaga kebersihan dan budaya “ zero waste”. Manfaatkan ia supaya generasi akan datang dapat menikmati alam sekitar yang diwarisi ini.
Tak payahlah nak tanya lagi , “ nak plastik beg” 😒😒
If you make payments at the supermarket, the question asked before making payment is,
" want a plastic bag?"
.
The question is, why still ask while the original goal of this policy is to reduce the use of plastic bags?
Literally, when something is asked repeatedly, it will stick to the the without realizing it. Therefore, in terms of the campaign's message, it turned out to have failed to give a message, "without a plastic bag".
.
According to the president of the Association Consumer Association, Dr Jacob, the budget of rough profits obtained by the supermarket every month can reach rm10 million from this 20 cent quote.
So no wonder why supermarket would rather ask, "want plastic bags" to their customer customers pay payment.
Some State government claims to channel the quote to pbt for CSR program and state government amanah tube. But some of the main Ngos that fight for environmental issues like the map claims not to receive any funds from the quote tube.
This issue of 20 cent quotes has been a problem since years ago, but still not clearly answered.
.
"no plastic bag" campaign at first got the support of the community but now it turns out to have missed away from the original goal, making it as a medium to generate the profit of some parties.
A campaign without plastic bag is a good opportunity to improve community awareness about the importance of keeping the cleanliness and culture of "zero waste". take advantage of it so that the next generation can enjoy this inherited environment.
You don't need to ask anymore, "want a plastic bag" 😒😒Translated
