關於 programming คือ ，我們在網路上蒐集到這些相關的討論、資訊與評價

อยากสร้างเกมเจ๋ง ๆ สักหนึ่งเกม แต่ไม่รู้ว่าจะเลือกใช้ภาษาไหนในการพัฒนาดี... 🤔
.
ซึ่งในปัจจุบันมีอยู่หลายภาษามากที่นิยมนำมาพัฒนาเกม และวันนี้แอดจะมายกตัวอย่าง 3 ภาษา ที่ฮิตมากที่สุด นั่นคือ Python, C# และ C++
.
แต่ละภาษาเหมาะกับการพัฒนาเกมแบบใด? แล้วจะเลือกใช้ภาษาไหนดี ? วันนี้มาไขข้อสงสัยกันให้กระจ่างไปพร้อมกันในโพสต์นี้เลยจ้าาา
.
มาเริ่มกันที่ภาษา Python กันก่อน
.
🐍 Python เป็นภาษาที่ Syntax ง่าย เรียนรู้ได้ง่ายที่สุดเมื่อเทียบกับ C# และ C++ มี Learning Curve น้อยที่สุด การพัฒนาเกมด้วย Python ทำได้รวดเร็ว Coding น้อย แต่บ่อยครั้งใช้ไม่ได้กับเกมที่มีความซับซ้อน เพราะ Python ช้าและมีประสิทธิภาพน้อยกว่า จึงเหมาะกับการพัฒนาเกมแบบ 2D ที่ไม่มีความซับซ้อนมากนัก
.
Python จะมี Library ที่ช่วยในการพัฒนาเกมด้วยนะ เช่น PyGame, Pyglet และ Godot ซึ่งเหมาะสำหรับพัฒนาเกมแบบ 2D
.
เพื่อน ๆ คนไหนอยากเริ่มต้นพัฒนาเกมที่ไม่ซับซ้อน และไม่ต้องใช้เวลาเรียนรู้นาน ต้องภาษานี้เลย !!
.
.
มาต่อกันที่ C# กันบ้าง
.
👨‍💻 C# อีกหนึ่งภาษาที่ยืนหนึ่งในการพัฒนาเกม มี Learning Curve สูงกว่า Python แต่ก็ยังน้อยกว่าภาษา C++ เรียนรู้ง่าย เหมาะกับผู้เริ่มต้น มีความปลอดภัย และมีประสิทธิภาพ สามารถใช้พัฒนาเกมที่ซับซ้อนมากขึ้นได้
.
ซึ่งมี Engine ที่ใช้พัฒนาเกมสุดฮิต ที่ใครอยู่ในวงการนี้ไม่มีทางไม่รู้จัก อย่าง Unity ซึ่งได้รับความนิยมมาก ๆ ใช้พัฒนาเกมแบบ 3D ได้สบาย ๆ ในอุตสาหกรรมเกมส่วนมากก็ใช้ Unity นี่แหละในการพัฒนา แถมยังมี Community ขนาดใหญ่ และมีแหล่งข้อมูลมากมายให้ผู้ที่สนใจได้ศึกษา เอาเป็นว่าอยากสร้างเกมเจ๋ง ๆ ก็ต้อง Unity นี่แหละ
.
และนอกจาก Unity ก็ยังมี Engine อื่น ๆ อีก เช่น CryEngine, MonoGame, และ Microsoft XNA Game Studio เป็นต้น
.
.
และสุดท้ายยยย C++
.
💥 C++ มี Learning Curve สูงกว่า 2 ภาษาที่กล่าวมา ใช้เวลาในการเรียนรู้นานกว่า ซึ่งเป็นอีกภาษาหนึ่งที่นิยมนำมาพัฒนาเกม มีความรวดเร็ว สามารถสร้างเกมที่ซับซ้อนได้ มีความสามารถในการจัดการหน่วยความจำ ทำให้สามารถควบคุมประสิทธิภาพได้ดียิ่งขึ้น ยืดหยุ่น ใช้พัฒนาเกมที่มีขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ก็ได้
.
มี Engine ที่ใช้ในการพัฒนาเกม คือ Unreal Engine สร้างสรรค์เกมได้หลากหลายจะเป็นเกมธรรมดา ๆ ไปจนถึงเกมที่มีกราฟิกระดับสูง และมีความซับซ้อนมาก ๆ ซึ่งเหมาะมากสำหรับนักพัฒนาเกมมืออาชีพ มือใหม่อาจจะต้องใช้เวลาเรียนรู้นานกว่าอีก 2 ภาษาเล็กน้อย
.
และนอกจาก Unreal Engine ที่เขาฮิตกัน ก็มี Engine อื่น ๆ ที่ใช้ในการพัฒนาเกมด้วยนะ เช่น Cocos, CryEngine, และ Godot เป็นต้น
.
C++ ก็เป็นอีกหนึ่งภาษาที่มี Community ขนาดใหญ่ ให้งานกันทั่วไปในทุกวงการ ทำให้มีแหล่งความรู้ให้กับผู้ที่สนใจไปศึกษาอย่างมากมาย
.
.
เป็นยังไงกันบ้าง ? หวังว่าจะมีภาษาที่ชอบกันในใจแล้วเนอะ ❤️ หรือถ้าอยากจะแชร์อะไรเพิ่มเติม คอมเมนต์มาพูดคุยกันได้เลยน้า 😁
.
borntoDev - 🦖 สร้างการเรียนรู้ที่ดีสำหรับสายไอทีในทุกวัน
#gamedeveloper #game #programming #BorntoDev

แอดเชื่อว่า หนึ่งในปัญหาโลกแตกของเด็กไอที ไม่ว่าจะเรียนอยู่หรือว่าจบแล้ว ก็คงจะหนีไม่พ้นเรื่อง “เรียนไอที แต่ไม่อยากเป็นโปรแกรมเมอร์ ไปทำไรดี? 😢” เพราะงั้นวันนี้แอดเลยมัดรวม 8 อาชีพน่าสนใจด้าน IT ที่ไม่ใช่โปรแกรมเมอร์มาให้ทุกคนอ่าน ถ้าพร้อมแล้วก็ไปกันเลย 🔥
.
📊 Data Analyst
เริ่มต้นกันด้วยอาชีพดัง หันไปทางไหนก็มีแต่คนพูดถึง นั่นก็คือ Data Analyst นั่นเอง โดย Data Analyst จะนำข้อมูลต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ข้อมูลลูกค้า หรือข้อมูลใด ๆ ที่เกี่ยวข้อง มาวิเคราะห์และสรุปผล เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจ ปรับปรุง และพัฒนาธุรกิจขององค์กรให้ดียิ่งขึ้น
.
แต่ถึงจะบอกว่าไม่ใช่โปรแกรมเมอร์ แต่ Data Analyst ก็ยังต้องใช้ความรู้เกี่ยวกับโค้ดอยู่บ้าง โดยหลัก ๆ ที่มักใช้กันก็จะเป็น Python, SQL หรือ R Programming คู่กับการใช้ Excel และเครื่องมือ Data Visualization ต่าง ๆ เช่น Tableau, Power BI เพื่อวิเคราะห์ข้อมูลค่ะ
.
💼 IT Business Analyst
มักเรียกกันสั้น ๆ ว่า BA เป็นคนที่วิเคราะห์ข้อมูลธุรกิจแบบเจาะลึก เพื่อพัฒนากระบวนการ สินค้าและบริการของธุรกิจ สำหรับสาย IT แล้ว BA เป็นเหมือนตัวกลางระหว่างผู้ใช้งานกับงานฝั่ง Dev โดยจะเป็นคนไปคุยกับผู้ใช้ว่าอยากได้อะไรแบบไหน จากนั้นก็สรุปสิ่งที่ผู้ใช้ต้องการ เพื่อส่งไม้ต่อให้ Dev ว่างานที่ต้องทำนั้น เป็นยังไง ต้องทำอะไรบ้าง มีระยะเวลาเท่าไหร่ ฯลฯ
.
แต่เดี๋ยวก่อน ถึงแม้ Business analyst จะอ่านดูแล้วเหมือนไม่ได้แตะโค้ด แถมดูน่าจะใช้ Soft Skills เป็นหลัก แต่ก็เป็นอาชีพที่อยู่ก้ำกึ่งระหว่างด้าน IT และ Business นะคะ เพราะฉะนั้นเพื่อน ๆ ที่อยากมาทำงานด้านนี้ จะทิ้งความรู้ IT แบบทิ้งไปเลย 100% ไม่ได้น้า :D
.
🖌️ UX Designer
ไปต่อกันเลยกับอีกอาชีพสุดฮอตในตอนนี้ UX Designer เป็นคนที่ต้องทำความเข้าใจความต้องการของผู้ใช้งานและออกแบบประสบการณ์ผู้ใช้งาน (User Experience) ให้สินค้าและบริการต่าง ๆ ที่มีอยู่ในองค์กร (ซึ่งในด้าน IT ส่วนใหญ่ก็เป็นเว็บหรือแอปอะแหละ) เพื่อส่งมอบสินค้าและบริการที่ตรงกับความต้องการ และใช้งานง่ายที่สุดให้กับผู้ใช้งาน
.
ทักษะที่ UX Designer ต้องมี ก็จะเป็นเครื่องมือที่เอาไว้ทำความเข้าใจผู้ใช้งาน เช่น Design Thinking, Customer Journey, การทำ Wireframe หรือการสร้าง Prototype รวมไปถึงทักษะด้านศิลปะ การออกแบบ ความคิดสร้างสรรค์ รวมถึงเรื่องจิตวิทยา ก็เป็นเรื่องที่ UX Designer ต้องให้ความสนใจเหมือนกันนะคะ
.
📋 Project Manager
สำหรับสาย IT แล้ว Project Manager คือคนที่จะทำให้ Project สำเร็จลุล่วงไปด้วยดี เพราะงั้นหน้าที่ก็จะครอบคลุมตั้งแต่วางแผน รับมือกับคน เวลา และงบประมาณ รวมถึงควบคุมการดำเนินงาน เพื่อให้ Project เป็นไปตามขอบเขตที่วางไว้และเสร็จทันเวลาที่กำหนด ซึ่งอันที่จริง ดีเทลย่อย ๆ ก็จะแตกต่างกันไปในงานที่ต้องรับผิดชอบอีกค่ะ
.
ความท้าทายของงานนี้คือ ต้องเข้าใจภาพรวมของงานและทำให้คนในทีมมองเห็นภาพเดียวกัน เพราะงั้นส่วนใหญ่ Project Manager เป็นคนที่มีประสบการณ์ในงานที่เกี่ยวข้องมาก่อน แต่ก็ไม่แน่น้า บางโอกาสมักมาแบบไม่ทันตั้งตัว ถ้าเพื่อน ๆ สนใจ ก็สามารถศึกษาข้อมูลเอาไว้ก่อน เพื่อเตรียมตัวให้พร้อมระหว่างรอโอกาสนั้นมาถึงนะคะ
.
📂 Product Manager
ตำแหน่ง Product Manager จะคอยดูแลทุกอย่างของ Product ตั้งแต่วางแผน ไปจนตอนสร้าง และบริหารจัดการ Product นั้น ๆ เพื่อให้ตอบโจทย์ลูกค้ามากที่สุด เป็นเหมือน CEO ของแต่ละ Product นั่นแหละ และส่วนใหญ่ก็ต้องมีประสบการณ์ที่เกี่ยวข้องมาก่อนเหมือนตำแหน่ง Project Manager เลย
.
อ่าน ๆ ไปก็ดูคล้ายกับ Project Manager ใช่ไหม? แต่จริง ๆ แล้ว Product Manager จะโฟกัสที่ “Product” เป็นหลัก ให้ความสำคัญกับ Outcome ในการปรับปรุงและพัฒนา Product ให้ตอบโจทย์ลูกค้า ส่วน Project Manager จะให้ความสำคัญกับ Output และการจัดการทรัพยากรต่าง ๆ อย่างคน เวลา และงบประมาณของการทำ Project ชิ้นนึงมากกว่า
.
🔍 QA Engineer
QA Engineer จะเป็นคนทดสอบเว็บหรือแอปเพื่อหาปัญหาที่อาจเกิดขึ้น ก่อนที่จะส่งมอบให้กับผู้ใช้งาน เพื่อให้เว็บหรือแอปนั้น ๆ ทำงานได้ถูกต้อง ไม่มี Bug หรือข้อผิดพลาดมากวนใจผู้ใช้ (หรือมีให้น้อยที่สุดเท่าที่ทำได้) โดย QA Engineer ต้องเข้าใจ Requirement จากฝั่งผู้ใช้เป็นอย่างดี เพื่อที่จะคิด Case ของการทดสอบได้ตรงจุดและครอบคลุม
.
ที่จริงแล้ว ตำแหน่งนี้อาจจะแบ่งได้อีก 2 ประเภทคร่าว ๆ คือ Manual (ทดสอบด้วยมือของคนทำ QA นั่นแหละ) กับ Automation (เขียนโค้ดมาช่วยทดสอบ) ซึ่งแต่ละแบบก็มีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับองค์กรที่เราอยู่ และซอฟต์แวร์ที่เราทดสอบค่ะ และที่สำคัญ ถึงอาชีพนี้จะเกี่ยวกับซอฟต์แวร์โดยตรง แต่ก็ไม่ได้ใช้ทักษะโปรแกรมมิ่งหนักมากค่ะ :D
.
⚙️ System Admin
คิดถึงอินเทอร์เน็ตในบริษัทให้คิดถึงคนนี้ค่ะ System Admin หรือผู้ดูแลระบบ คือคนที่คอยดูแลรักษาอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวกับระบบเครือข่ายและระบบคอมพิวเตอร์ขององค์กร ทำตั้งแต่ลง OS ติดตั้ง ดูแลทั้งซอฟต์แวร์กับฮาร์ดแวร์ในระบบ ไม่ว่าจะเป็นสาย Cable หรือ Server รวมถึงเป็นคนที่จะช่วยแก้ปัญหาให้กับทุกคนในยามคับขัน (เรื่อง Technical Issues) ด้วยค่ะ
.
ซึ่งในไทยเอง ถ้าไม่ใช่บริษัทเฉพาะด้านนี้โดยตรง ตำแหน่ง System Admin อาจจะไปคาบเกี่ยวกับตำแหน่ง Network Admin หรือบางที่ก็ All in one กันไปเลย 😂 แต่งานคร่าว ๆ ของ System Admin ก็จะครอบคลุม 4 คีย์เวิร์ดหลัก ๆ ของระบบ นั่นก็คือ “ติดตั้ง-สนับสนุน-ดูแล-แก้ไขปัญหา” ค่ะ
.
📈 Growth Hacker
เห็นคำว่า Hacker แบบนี้ อย่าเพิ่งคิดว่าแอดจะชวนไปเจาะระบบใครเขานะ ความจริงแล้วคำว่า Hack เนี่ย มีความหมายประมาณว่า การทำบางอย่างเพื่อจัดการบางสิ่งให้ได้ พอมารวมกับคำว่า Growth เลยหมายถึง การทำยังไงก็ได้ให้บางสิ่งเติบโตเร็วที่สุด ซึ่งหลายแบรนด์ดังก็ใช้ Growth Hacking กับบริการของตัวเองจนมีผู้ใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเหมือนกัน
.
ถ้าถามว่า คติประจำใจของ Growth Hacker คืออะไร? คำตอบก็คงจะเป็น การพยายามทำให้ธุรกิจเติบโตให้ได้ โดยจะเป็นคนที่จะเฟ้นหาการตลาดหรือกลยุทธ์ต่าง ๆ เพื่อเพิ่มจำนวนลูกค้า และคอยจัดการกลยุทธ์นั้นให้สำเร็จตามที่หวัง หรือเปลี่ยนเป็นแนวทางที่ดีกว่านั่นเอง
.
เรียบร้อยครบทั้ง 8 อาชีพที่แอดอยากเล่าวันนี้ ที่จริงอาชีพสาย IT ที่ไม่ใช่โปรแกรมเมอร์มีอีกเยอะมาก เยอะจนเล่า 3 วันก็ไม่หมด เช่นแอดเองก็จบ IT แล้วมาทำ Content ให้เพื่อน ๆ อ่าน 😆 เพราะงั้นที่เอามาฝากวันนี้ก็เป็นแค่น้ำจิ้มเท่านั้น (แอบกระซิบว่า แต่ละบริษัท ถึงชื่อตำแหน่งจะเหมือนกัน แต่การทำงานอาจไม่เหมือนกัน เพราะงั้นอ่าน Job Description ตอนไปสมัครงานกันให้ดีน้า)
.
👉 ว่าแต่เพื่อน ๆ พี่ ๆ คนไหน หลังเรียนจบไปทำงานอะไรกันบ้าง มาแชร์ให้น้อง ๆ ฟังกันเร็ววว 🔥
.
borntoDev - 🦖 สร้างการเรียนรู้ที่ดีสำหรับสายไอทีในทุกวัน

🎂🦖 สุขสันต์วันเกิด DevLab ! 🖥✨ครบรอบ 1 ปีแล้วนะ รู้ยัง !? กับระบบช่วยฝึกฝนทักษะการเขียนโปรแกรมของคุณ ให้เก่งขึ้นทันตา !!
.
( ถ้าอยากรู้ว่า DevLab คืออะไร ลองกดเข้า Link นี้เลย !
https://www.borntodev.com/grader_q_list/?course=free )
.
เผลอแปปเดียว DevLab เว็บฝึกฝนทักษะการทำโจทย์ด้าน Programming จากทาง borntoDev ของเราก็มีอายุครบ 1 ขวบแล้ว !!! ซึ่งถือว่าเป็นช่วงเวลา 1 ปีที่มีค่าและแสนสนุก วันนี้แอดเลยรวบรวมสถิติที่น่าสนใจมาให้ทุกคนได้อ่านกัน ถ้าพร้อมแล้วก็ไปดูกันเลย !
.
1
เริ่มต้นที่สถิติเกี่ยวกับการรันโค้ด
ซึ่ง DevLab ของเราเป็นเว็บฝึกเขียนโค้ดที่รันปุ๊บ แสดงผลลัพธ์ปั๊บ รู้เลยว่าผ่านหรือไม่ผ่าน แบบไม่ต้องรอนานด้วยนะ !
.
🙏 “ขอบคุณทุกการมีส่วนร่วมของทุกๆ คน”
DevLab ของเรามีการรันที่ถูกเก็บทั้งหมด 346,928 ครั้ง
.
👍 “โค้ดอันสมบูรณ์แบบ”
DevLab ของเรามีการรันที่ผ่านหมดทุกเทสเคส 60,644 ครั้ง
.
💪 “มีความตั้งใจแต่ก็ต้องพยายามขึ้นอีก สู้ๆ นะ !”
DevLab ของเรามีการรันที่มีทั้งผ่านและไม่ผ่านปนกัน 52,091 ครั้ง
.
🏃 “สุดยอดนักรัน 2020-2021”
ชาว DevLab เป็นนักรันโค้ดมือฉมังกันหลายคนเลย โดยแอดยกมา 3 อันดับที่มากที่สุด ก็คือ
.
🥇อันดับที่ 1 : คนที่มีจำนวนการรันมากที่สุด รันไปถึง 5,593 ครั้ง
🥈อันดับที่ 2 : รองลงมากับการรัน 2,888 ครั้ง
🥉อันดับที่ 3 : ปิดท้ายด้วยการรันแบบรัว ๆ ถึง 2,757 ครั้ง
.
😰 “อย่าเพิ่งยอมแพ้นะ”
DevLab ของเรามีคนที่รันไปแค่ครั้งเดียวแล้วไม่รันอีกเลย 448 คน
.
👁 “แค่ดูก็รู้คำตอบแล้ว !”
DevLab ของเรามีบุคคลผู้ที่รันครั้งเดียวแล้วผ่านทุกเทสเคสเยอะที่สุดเป็นจำนวน 101 ข้อ เรียกได้ว่าเทพจริง ๆ เขียนเสร็จ รันปุ๊บ ผ่านปั๊บ !
.
📈 “ยาวอีก ยาวขึ้นอีก !”
จำนวนบรรทัดของโค้ดทั้งหมดในระบบ DevLab ของเรา คือ 4,411,014 บรรทัด คิดเป็น 10.5 เท่าของไฟล์ทั้งหมดใน Github Repository ของ React เลยนะ !!!
.
.
2
หัวข้อต่อไป
เป็นสถิติที่เกี่ยวกับช่วงเวลากันบ้าง !
.
⏰ “สนุกสนานกับช่วงเวลาโบนัส !”
ช่วงเวลาที่มีคนรันเยอะที่สุดคือ 14.00 - 16.00 เฉลี่ย 66 ครั้ง/ชั่วโมง
แต่จริง ๆ แล้ว DevLab ของเราสามารถรันได้ทุกที่ทุกเวลาแบบ 24/7 ไม่ต้องรอช่วงพีค ก็เข้ามารันโค้ดกันได้ตลอดเลยนะรู้ยัง !
.
📆 “คอมมูนิตี้เล็ก ๆ ที่แข็งแกร่ง”
เดือนที่มีคนใช้งานเยอะที่สุดคือ เมษายน 2020 (เดือนที่เปิดตัวนั่นเอง) จำนวน 1,185 คน หลังจากนั้นก็มีผู้ใช้เฉลี่ยเดือนละ 599 คนจ้า สำหรับ ใครที่ยังไม่เคยใช้ก็เข้ามาลองใช้กันได้นะ เข้ามาหัดเขียนโค้ดกันเยอะ ๆ พัฒนาฝีมือไปด้วยกัน !
.
.
3
มาที่สถิติเกี่ยวกับโจทย์กันบ้าง
ไม่ว่าจะเป็นโจทย์ Official จากแอดมิน หรือโจทย์จากทางบ้าน ทาง DevLab มีโจทย์สนุก ๆ รอให้ทุกคนมาลองทำมากกว่า 100 ข้อ แถมยังสามารถสร้างโจทย์เอง เพื่อชวนเพื่อน ๆ มาเขียนโค้ดด้วยกันได้ด้วยนะ !
.
🎄 “รอต้นคริสมาสต์แปปนึงนะคุณซานต้า”
จำนวนตัวอักษรที่มากที่สุดที่ใช้ในโค้ดของการรัน 1 ครั้งที่ผ่านทุกเทสเคส คือ 13,916 ตัวอักษร โดยใช้ในการส่งข้อ ต้นคริสมาสต์ ที่เขียนด้วยภาษา Java
ลองทำที่นี่ : https://www.borntodev.com/grader/?quizNo=215
.
🇪🇬 “กีซ่าก็กีซ่าเถอะ รอดูของชั้นก่อน !”
มีคนๆ นึงรันโจทย์ข้อเดิมมากที่สุดคือข้อ พีระมิดไม่ได้สร้างได้ในวันเดียว โดยถูกรันไปถึง 847 ครั้ง
ลองทำที่นี่ : https://www.borntodev.com/grader/?quizNo=26
.
⚡ “โจทย์ของนายน่ะชั้นจะต้องผ่านมันไปให้ได้ !”
โจทย์ที่มีการรันมากที่สุดคือข้อ รวมประโยคภาษาอังกฤษ โดยมีจำนวนการรัน 2,869 ครั้ง
ลองทำที่นี่ : https://www.borntodev.com/grader/?quizNo=307
.
🍌 “ของกล้วย ๆ มียากกว่านี้อีกมั้ย ?”
โจทย์ที่มีการรันผ่านมากที่สุดคือข้อ Modulus plus loop (Triangle) โดยมีจำนวนการรันที่เคยรันผ่านทั้งหมด 314 ครั้ง
ลองทำที่นี่ : https://www.borntodev.com/grader/?quizNo=344
.
🔥 “ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น !”
โจทย์ที่มีการรันไม่ผ่านมากที่สุดคือข้อ รวมประโยคภาษาอังกฤษ มีจำนวนการรัน 2,792 ครั้ง แต่ใครที่ยังไม่ผ่านก็อย่าเพิ่งยอมแพ้ ! มันต้องมีสักครั้งสิน่า !!!
ลองทำที่นี่ : https://www.borntodev.com/grader/?quizNo=307
.
🗒 “หารกันต่อยาวๆ ไป”
โจทย์ 1 ดาวยอดนิยมคือข้อ หารลงตัว โดยมีจำนวนการรัน 2,745 ครั้ง
ลองทำที่นี่ : https://www.borntodev.com/grader/?quizNo=356
.
🤖 “Recaptcha ใจเย็นๆ นี่คนเอง ไม่ใช่บอท”
โจทย์ 2 ดาวยอดนิยมคือข้อ Register & Login โดยมีจำนวนการรัน 1,842 ครั้ง
ลองทำที่นี่ : https://www.borntodev.com/grader/?quizNo=316
.
💻 “101001101011001101 ปี๊บๆๆ”
โจทย์ 3 ดาวยอดนิยมคือข้อ Binary Generator โดยมีจำนวนการรัน 659 ครั้ง
ลองทำที่นี่ : https://www.borntodev.com/grader/?quizNo=347
.
🙋‍♀️ “Hello how r u 2day ?”
โจทย์ 4 ดาวยอดนิยมคือข้อ รวมประโยคภาษาอังกฤษ โดยมีจำนวนการรัน 2,869 ครั้ง
ลองทำที่นี่ : https://www.borntodev.com/grader/?quizNo=307
.
.
4
ปิดท้ายเรื่องโจทย์
ด้วยสถิติของโจทย์ข้อ Hello World !
.
👋 “สวัสดีชาวโลก !”
DevLab ของเรามีจำนวนการรันข้อ Hello World ไปทั้งหมด 15,181 ครั้งแล้ว !!!
.
🗣 “ฮัลโหลชาวโลก นายได้ยินเรามั้ย ?”
รู้หรือไม่ !?! มีคนที่เคยรันโจทย์ Hello World ไม่ผ่านถึง 2,322 คนเลยนะ !
.
🌎 “เฮ้ ชาวโลกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก !”
ยาวย๊าวยาวเลยทีเดียวสำหรับสถิติข้อนี้ เพราะมีการรันที่ใช้จำนวนตัวอักษรมากที่สุดในข้อ Hello World ผ่านด้วยภาษา java ด้วยโค้ดขนาด 504 ตัวอักษร...ว่าแล้วก็อยากเห็นโค้ดเลยนะเนี่ย !
.
.
5
และหัวข้อสุดท้ายของวันนี้
เกี่ยวกับสถิติการรันของแต่ละภาษา
โดย DevLab รองรับภาษาโปรแกรมเบื้องต้น ทั้ง Python, C, Java, JavaScript และ C++ แถมล่าสุดยังมี C#, go, Kotlin และ Ruby มาเสริมทัพเพิ่มอีก บอกเลยว่าเลือกเขียนได้ตามความถนัด แถมยังเลือกเปลี่ยนภาษาได้สะดวกสุดๆ ไปเลย !
.
🐍 “ภาษา Python”
มีจำนวนผู้ใช้ 4,239 คน ; จำนวนการรัน 227,718 ครั้ง ; อัตราการผ่าน 17.22% ; จำนวนตัวอักษรเฉลี่ยในการรันผ่าน 159 ตัวอักษร
.
💧 “ภาษา C”
มีจำนวนผู้ใช้ 1,423 คน ; จำนวนการรัน 41,797 ครั้ง ; อัตราการผ่าน 19.81% ; จำนวนตัวอักษรเฉลี่ยในการรันผ่าน 272 ตัวอักษร
.
☕ “ภาษา Java”
มีจำนวนผู้ใช้ 1,130 คน ; จำนวนการรัน 42,218 ครั้ง ; อัตราการผ่าน 18.81% ; จำนวนตัวอักษรเฉลี่ยในการรันผ่าน 507 ตัวอักษร
.
⭐ “ภาษา Javascript”
มีจำนวนผู้ใช้ 620 คน ; จำนวนการรัน 20,551 ครั้ง ; อัตราการผ่าน 9.94% ; จำนวนตัวอักษรเฉลี่ยในการรันผ่าน 434 ตัวอักษร
.
💙 “ภาษา C++”
มีจำนวนผู้ใช้ 515 คน ; จำนวนการรัน 13,764 ครั้ง ; อัตราการผ่าน 21.41 ; จำนวนตัวอักษรเฉลี่ยในการรันผ่าน 318 ตัวอักษร
.
💜 “ภาษา C#”
มีจำนวนผู้ใช้ 19 คน ; จำนวนการรัน 762 ครั้ง ; อัตราการผ่าน 15.49% ; จำนวนตัวอักษรเฉลี่ยในการรันผ่าน 566 ตัวอักษร
.
🐭 “ภาษา go”
มีจำนวนผู้ใช้ 5 คน ; จำนวนการรัน 72 ครั้ง ; อัตราการผ่าน 2.78% ; จำนวนตัวอักษรเฉลี่ยในการรันผ่าน 705 ตัวอักษร
.
🤖 “ภาษา Kotlin”
มีจำนวนผู้ใช้ 4 คน ; จำนวนการรัน 44 ครั้ง ; อัตราการผ่าน 34.1% ; จำนวนตัวอักษรเฉลี่ยในการรันผ่าน 604 ตัวอักษร
.
💎 “ภาษา Ruby”
มีจำนวนผู้ใช้ 1 คน ; จำนวนการรัน 2 ครั้ง ; อัตราการผ่าน 0% ; ยังไม่มีข้อมูลจำนวนตัวอักษรเฉลี่ยในการรันผ่าน
.
.
ก่อนจะจากกันไปก็เช่นเคย ใครที่กำลังมองหาเว็บไซต์สำหรับหัดเขียนโปรแกรม ที่ทั้งสะดวก สนุก แถมยังสร้างโจทย์เข้าระบบเองได้ และอยากจะเข้าไปลองฝึกฝีมือใน DevLab ก็ไปที่เว็บนี้ได้เลยนะ !!!
.
Click Here สมัครวันนี้ ใช้งานฟรี กับโจย์กว่า 100 ข้อที่รอเราอยู่ <3 >>> https://www.borntodev.com/grader_q_list/?course=free
.
ปล ท่านใดอยากได้ฟีเจอร์อะไรอีก บอกแอดมาได้เลย ! แอดยินดีรับฟังคร้าบบบ 5555 :D
.
borntoDev - สร้างการเรียนรู้ที่ดีสำหรับสายไอทีในทุกวัน

สำหรับใครที่เป็นมือใหม่ ยังได้แต่กุมหัวว่า เห้ย! จัด UI ทำไมมันโค้ดเยอะแยะอะไรขนาดนี้!! ในวันนี้คุณจะไม่ต้องปวดหัวแบบนั้นอีกแล้วเพราะวันนี้เรามี Visual TK K K K K~ (รบกวนอ่านแบบเอคโค่)

เครื่องมือที่จะช่วยให้คุณไม่ต้องเขียนโค้ดจัด UI ใน Python อีกต่อไป ใช่ครับ ไม่ต้องเขียนจริง ๆ นะ เพราะเราแค่ ลาก วาง คัดลอก วาง กดรัน จบ!!! ถ้าไม่เชื่อก็ลองดูได้เลย

▲ ติดตามช่องของเราได้ที่ : http://bit.ly/borntoDevSubScribe​​​​​...​
▲ Facebook : https://www.facebook.com/borntodev​​​...​
▲ Website : http://www.borntodev.com​​​​​​​​​​

?BorntoDev Channel คือ ช่องยูทูปที่เน้นสาระด้านเทคโนโลยี การพัฒนาโปรแกรม ไปพร้อมกับความสนุกสนาน และ รอยยิ้มเข้าไว้ด้วยกันทั้งในรูปแบบบทเรียน และ vlog

เพื่อการเปลี่ยนรูปแบบการเรียนรู้ด้านการพัฒนาโปรแกรม และ เทคโนโลยีแบบเดิม ๆ ที่เป็นเรื่องเฉพาะกลุ่มให้เข้าถึง เข้าใจได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยพัฒนาเน้นไปที่รูปแบบการนำเสนอใหม่ ๆ ที่เป็นมิตรกับทุกคน

▲ กิจกรรมใน Channel BorntoDev เป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินงานของ บริษัท บอร์นทูเดฟ จำกัด ที่เปิดรับ Partners ที่สนใจร่วมเปลี่ยนแปลงให้สังคมไทยเป็นสังคมด้านวิทยาศาสตร์ และ เทคโนโลยีมากยิ่งขึ้น หากคุณสนใจสนับสนุน และ ก้าวไปพร้อมกัน สามารถติดต่อร่วมงานได้แล้ววันนี้

▲ ติดต่อโฆษณา สนับสนุน และ ร่วมงานได้ที่: support@borntoDev.com

การ Comment Code เป็นเรื่องปกติที่ควรทำเวลาที่เราเขียนโค้ด เผื่อเวลาเพื่อนหรือเราย้อนกลับมาอ่านจะได้รู้ว่าฟังก์ชันนี้ทำงานอะไรยังไง แต่ปัญหาคือเราจะเขียน Comment ยังไงให้อ่านรู้เรื่อง!? ทุกวันนี้อ่านคอมเม้นไปน้ำตาไหลไป ไม่ได้ซึ้งนะ แต่อ่านไม่รู้เรื่องเลยครับโผ้มมมมม

เลยเป็นที่มาของ Content ในวันที่ว่า เราจะเขียน Comment ยังไงให้ทั้งเราและเพื่อนอ่านรู้เรื่อง และใช้งาน Code ได้อย่างถูกต้อง

▲ ติดตามช่องของเราได้ที่ : http://bit.ly/borntoDevSubScribe​​​​​​​​​
▲ Facebook : https://www.facebook.com/borntodev​​​...​
▲ Website : http://www.borntodev.com​​​​​​​​​

?BorntoDev Channel คือ ช่องยูทูปที่เน้นสาระด้านเทคโนโลยี การพัฒนาโปรแกรม ไปพร้อมกับความสนุกสนาน และ รอยยิ้มเข้าไว้ด้วยกันทั้งในรูปแบบบทเรียน และ vlog

เพื่อการเปลี่ยนรูปแบบการเรียนรู้ด้านการพัฒนาโปรแกรม และ เทคโนโลยีแบบเดิม ๆ ที่เป็นเรื่องเฉพาะกลุ่มให้เข้าถึง เข้าใจได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยพัฒนาเน้นไปที่รูปแบบการนำเสนอใหม่ ๆ ที่เป็นมิตรกับทุกคน

▲ กิจกรรมใน Channel BorntoDev เป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินงานของ บริษัท บอร์นทูเดฟ จำกัด ที่เปิดรับ Partners ที่สนใจร่วมเปลี่ยนแปลงให้สังคมไทยเป็นสังคมด้านวิทยาศาสตร์ และ เทคโนโลยีมากยิ่งขึ้น หากคุณสนใจสนับสนุน และ ก้าวไปพร้อมกัน สามารถติดต่อร่วมงานได้แล้ววันนี้

▲ ติดต่อโฆษณา สนับสนุน และ ร่วมงานได้ที่: support@borntoDev.com

ถ้าต้องให้เลือก IDEs ที่ตัวเองถนัด แน่นอนว่าคงหนีไม่พ้น Visual Studio Code, IntelliJ, Sublime Text หรืออื่นๆ อีกหลายตัวใช่มั้ยครับ แล้วแต่คนชอบ

แต่วันนี้ผมจะลองมาทำสิ่งที่ไม่มีใครคิดว่าจะทำนั่นก็คือ การเอา Microsoft Word มาสร้างเป็นเว็บไซต์นั่นเอง ว่าแต่มันจะทำได้จริงมั้ย หรือจะทุลักทุเลขนาดไหน วางสติลงจับถุงกาวให้มั่นแล้วไปดูพร้อมกันเลย!

▲ ติดตามช่องของเราได้ที่ : http://bit.ly/borntoDevSubScribe​​​​
▲ Facebook : https://www.facebook.com/borntodev​​​​
▲ Website : http://www.borntodev.com​​​​

?BorntoDev Channel คือ ช่องยูทูปที่เน้นสาระด้านเทคโนโลยี การพัฒนาโปรแกรม ไปพร้อมกับความสนุกสนาน และ รอยยิ้มเข้าไว้ด้วยกันทั้งในรูปแบบบทเรียน และ vlog

เพื่อการเปลี่ยนรูปแบบการเรียนรู้ด้านการพัฒนาโปรแกรม และ เทคโนโลยีแบบเดิม ๆ ที่เป็นเรื่องเฉพาะกลุ่มให้เข้าถึง เข้าใจได้ง่ายยิ่งขึ้น โดยพัฒนาเน้นไปที่รูปแบบการนำเสนอใหม่ ๆ ที่เป็นมิตรกับทุกคน

▲ กิจกรรมใน Channel BorntoDev เป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินงานของ บริษัท บอร์นทูเดฟ จำกัด ที่เปิดรับ Partners ที่สนใจร่วมเปลี่ยนแปลงให้สังคมไทยเป็นสังคมด้านวิทยาศาสตร์ และ เทคโนโลยีมากยิ่งขึ้น หากคุณสนใจสนับสนุน และ ก้าวไปพร้อมกัน สามารถติดต่อร่วมงานได้แล้ววันนี้

▲ ติดต่อโฆษณา สนับสนุน และ ร่วมงานได้ที่: support@borntoDev.com