ผมบินไปอเมริกาพร้อมครอบครัวด้วยความหวังที่เหือดแห้งและเลือนลาง ผมคิดว่านี่อาจะเป็นทางออกที่หลอกตัวเองไปอย่างแกนๆ อีกครั้ง ว่าผม จะสามารถกลับมาแต่งเพลงโดยใช้หัวใจไม่ใช่หัวสมองได้หมือนชุดแรกที่เคยทำมา
นักดนตรีครบวงและห้องอัดได้ถูกจองไว้วันละ 2 คิว(คิวละ8ชั่วโมง) ติดต่อกัน2เดือน ทันทีที่ผมมาถึงแอลเอ เพื่อกดดันตัวเองให้หลุดออกมาจากการแต่งเพลงแบบใช้สูตรสำเร็จอย่างที่ผมใช้มาตลอดในช่วงสามปีหลัง
อาทิตย์แรกผ่านไปอย่างไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอันนัก David Vasquez เพื่อนรักและอาจารย์ผมก็ปลอบใจว่า ผมคงยัง jetlag อยู่ เดี๋ยวผ่านไปสักพักก็คงดีขึ้น อาทิตย์ต่อมาผมก็ได้เพลงสูตรๆ ออกมาอีกเป็นจำนวนมาก ผมก็ยังใช้คำปลอบใจเดิมๆ ของเพื่อนรัก ในการที่จะเดินหน้าต่อแบบหลอกตัวเองว่าเมื่อร่างกายพักฟื้นเต็นที่น่าจะมีความหวังที่จะกลับมาได้ เพราะสภาพแวดล้อมทั้งหมดรวมทั้งกลุ่มนักดนตรีที่มาแจมกับผมเพื่อแต่งเพลงออกมาก็แสตนด์บาย อย่างที่ผมชอบหมดแล้ว
แต่มันไม่เป็นเช่นนั้นเลย เพลงแล้วเพลงเล่าที่แต่งออกมา ผมรู้ในใจดีว่ามันคือสมองล้วนๆ ไม่ได้มาจากหัวใจเลยสักนิด ผมนับรายจ่ายที่จ่ายออกไป จากค่าห้องอัด ค่านักดนตรี ค่ากินอยู่ ค่าที่พัก และค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นมันค่อยๆ ลดงบประมาณของอัลบั้มนี้ลงเรื่อยๆ โดยที่ไม่ได้มีผลงานเพลงไหนที่พอให้มองเป็นประกายแสงไฟที่ปลายอุโมงค์ได้เลย
ผมรู้สึกกดดันมากเมื่อมันเข้ามาถึงปลายอาทิตย์ที่สาม ตุ้ยเริ่มถามว่าผมมีอะไรในใจหรือเปล่า เพราะเขาคงเห็นสีหน้าที่เครียดมากของผม
David Vasquez เริ่มบอกให้ผมพักและให้ยกเลิกคิวห้องอัดและนักดนตรีไปก่อนเพราะเห็นว่าผมเครียดอย่างมาก จากสิ่งที่เกิดขึ้น และแนะนำให้ผมพาครอบครัวไปเที่ยวแทน แล้วค่อยกลับมาทำงานสักอาทิตย์นึงก็ยังได้ ช่างน่ารักต่อผมมาก แต่ผมก็รู้ดีว่ากลับมาผมก็ทำอะไรไม่ได้อยู่ดีนั่นแหละ
Dave เพื่อนรักได้มอบไบเบิ้ลให้ผมก่อนกลับบ้านจากห้องอัดในวันนั้นแล้วเขาบอกให้ผมลองอธิษฐานกับพระเจ้าดูว่าพระเจ้าจะคุยอย่างไรกับผมในเวลาทีเต็มไปด้วยความเครียดนี้
สถานะการณ์ความรู้สึกของผมขณะนั้นมีความเครียดดังต่อไปนี้
1) พ่อแม่และคุณยายเริ่มป่วยและแก่ขึ้น ผมกังวลมากเลยว่าจะต้องเสียพวกเขาไป
2) ธุรกิจของ bakery music ยังไม่ฟื้นหลังจากวิกฤตต้มยำกุ้ง ค่าใช้จ่ายก็เพิ่มมากขึ้นในขณะที่รายได้เริ่มลดลงมาก
3) การแต่งเพลงจากหัวใจของผมที่เคยรู้สึกเหมือนมีเทวดามาประทานให้ตลอด ในตอนนั้นเหลือแต่เพลงหัวสมองล้วนๆ ซึ่งผมรู้สึกว่ามันช่างน่าอับอายใจทุกครั้งที่มีแฟนๆชมถึงเพลงที่ไม่ได้มาจากหัวใจนั้น
4) สำคัญมากคือไม่อยากให้ครอบครัวผมคือตุ้ย และดีใจต้องมารับรู้ความกังวลเหล่านี้ทั้งหมดของผม
และรายละเอียดอีกมากมายที่ยุบยิบ จนเหมือนใจผมแบกอะไรที่หนักเกินกำลังไว้ทุกวันอย่างฝืนยิ้ม และหลอกทุกคนว่าผมสบายดีไม่ต้องห่วง ซึ่งแท้ที่จริงแล้ว มีหลายครั้งมากที่ผมเริ่มอยากจะคิดสั้นเพื่อหนีปัญหาที่กำลังเผชิญอยู่
คืนนั้น หลังจากที่ผมลองอธิฐานหาพระเจ้าที่ผมไม่รู้ว่ามีอยู่จริงไหม และขอให้พระเจ้าตอบผมด้วยการอ่านไบเบิ้ลเพียงครั้งเดียว เพื่อที่จะได้มาบอกเพื่อนรักของผมได้ว่าลองทำตามที่แนะนำหมดแล้ว
ตีสามของคืนที่ 23 กุมภา 2002 ลอสแองเจลลิส
ผมลุกขึ้นมากจากเตียงและเข้าห้องน้ำเพื่อที่จะอ่านไบเบิ้ลเผื่อว่าจะมีคำตอบให้ผมจริงๆอย่างที่เพื่อนรักบอก
ผมอธิษฐานประมาณว่า Dear God in heaven, i'm desperately needed you to guide me now. If you are for real, please make me believe in you as soon as I turn the bible. (ตอนนั้นลืมไปว่าพูดกับพระเจ้าภาษาไทยก็ได้) และทันทีทีผมพลิกหน้าหนังสือไบเบิ้ลที่ผมเชือครึ่งไม่เชื่อครึ่ง ผมไปเปิดเอาที่ หน้า Trust in the Lord with all your heart and lean not on your own understanding. In all your ways acknowledge Him, and He will make your path straight. — Proverbs 3:5. สำหรับผมนะเวลานั้น นี่คือพระเจ้ากำลังคุยอยู่หรือเทวดาอะไรสักอย่างแน่ๆ
มันช่างตรงกับความอยากที่จะเข้าใจในพระเจ้าก่อนที่จะข้ามไปเชื่อเฉยๆ สำหรับผมมาก
บางอย่างในใจผมคิดว่าหรือเมื่อกี้ฟลุ้ค? ผมก็ลองคำถามอื่นๆ ที่กำลังกังวลและคิดอยูอีกเช่นพ่อแม่คุณยายผม จะอยู่ได้นานไหมและผมควรเตรียมตัวเช่นไร แล้วก็เปิดมั่วๆ พลันสายตาไปพบประโยคที่ว่า Seek the Kingdom of God above all else, and live righteously, and he will give you everything you need. Mathew 6:33
ผมอึ้งและชะงักงันกับคำตอบที่ได้รับ ผมรู้แล้วล่ะว่าต้องมีใครเบื้องบนที่อยู่เหนือกว่าผมและกำลังตั้งใจคุยกับผมอยู่ผ่านไบเบิ้ลเล่มนี้
จากนั้นผมเริ่มถามคำถามเล็กใหญ่จนถึงพูดคุยท้าทายแบบตลกๆ กันในห้องน้ำจนบางครั้งผมก็หัวเราะเสียงดังมากสำหรับคำตอบที่ได้รับ
30 วันต่อจากนั้น ผมลุกขึ้นมาคุยกับพระเจ้าที่ผมเพิ่งรู้จักในห้องน้ำ ผ่านไบเบิ้ลเล่มที่ Dave ให้ผมมา
เช้าวันที่ผมได้คุยกับพระเจ้าผ่านไบเบิ้ลเป็นคืนแรก
ที่ความรู้สึกแบกที่มีอยู่มันถูกยกออกไปหมดสิ้น จะเป็นพระเจ้าหรือไม่ผมก็ไม่รู้ แต่ผมรู้สึกว่าเราไม่ได้แบกเรื่องราวต่างๆ นี้ ตามลำพัง เรามีบางอย่างที่อยู่เหนือเราและมองเห็นมุมมองที่กว้างกว่าเรามาคอยช่วยแนะนำทางอยู่ ความรู้สึกเคว้งคว้างอ้างว้างที่ต้องเก็บความกังวลทุกอย่างไว้ในใจคนเดียวถูกยกหายไปหมดอย่างไม่น่าเชื่อ
และด้วยคำจากไบเบิ้ลที่ว่า
I planted the seed, Apollos watered it, but God has been making it grow. So neither the one who plants nor the one who waters is anything, but only God, who makes things grow. The one who plants and the one who waters have one purpose, and they will each be rewarded according to their own labor. For we are co-workers in God’s service; you are God’s field, God’s building.
1 Corinthians 3:6-9 NIV
https://bible.com/bible/111/1co.3.6-9.NIV
สำหรับผมแล้วข้อความนี้ช่างยิ่งใหญ่เหลือเกิน นั่นหมายถึงว่า ผมแค่ทำทุกอย่างให้ดีที่สุดตามความสามารถที่มีแล้วงานหรือชีวิตจะสำเร็จหรือไม่สำเร็จไม่ได้ขึ้นอยู่กับผม แต่ขึ้นอยู่กับพระเจ้าหรือใครก็ตามที่ผมกำลังคุยอยู่ผ่านไบเบิ้ลเล่มนี้
วันรุ่งขึ้นผมไปห้องอัดเพื่อทำงานอย่างสบายใจมากที่ความรู้สึกหนักๆ ที่เคยแบกอยู่นั้นได้ถูกยกหายไปหมดแล้ว!
ขณะที่ผมกำลังแต่งเพลงอย่างมีความสุขมากอีกครั้งกับ Dave และนักดนตรีท่านอื่นๆ โทรศัพท์ทางไกลจากเมืองไทยโดยผู้ที่อยู่ปลายสายคือ สุกี้เพื่อนรักของผมพูดด้วยเสียงที่เศร้ามากที่สุดที่ผมเคยได้ยินมาจากเขา "บอย โจ้ตายแล้ว ยิงตัวตายในลิฟท์" ผมที่กำลังเพลิดเพลินอยูกับการแต่งเพลงถึงกับเข่าทรุดลงไปนั่งที่พื้น โจ้เป็นน้องที่น่ารักและใสซื่อ แต่เปี่ยมไปด้วยความสามารถและความถ่อมตัว ภาพแห่งความอ่อนโยนของโจ้ผุดขึ้นมาในสมองผมเต็มไปหมด หลังจากวางโทรศัพท์จากสุกี้แล้ว ผมเล่าเรื่องนี้ให้ Dave และนักดนตรีท่านอื่นได้ฟัง
บรรยากาศที่สนุกสนานได้พลิกกลายเป็นความหดหู่อย่างบอกไม่ถูก ทั้งๆ ที่คนอื่นนอกจากผมไม่ได้รู้จักโจ้เลยแต่พวกเขาก็รับรู้ได้ถึงความรู้สึกที่สูญเสียเพื่อนร่วมโลกที่แสนจะน่ารักไปอย่างไม่มีวันกลับได้
Dave เล่นเปียโนขึ้นมามั่วๆ ระหว่างที่ทุกคนกำลังหดหู่อยู่นั้น (ซึ่งต่อมาเป็น intro ของเพลงใคร) ผมที่อยู่ใกล้ไมโครโฟน จึงฮัมทำนองเพลงนี้ออกมา(ซึ่งก็คือเพลงใครในเวลาต่อมา) ความรู้สึกในความสูญเสียที่ยิ่งใหญ่ ผสมกับความรู้สึกของคนท้องผูกมานานมากแล้วระบายได้อย่างคล่องแคล่ว จึงถูกนำมาผสมกัน อย่างไม่น่าจะลงตัวได้ แต่ก็ลงตัวกันเหมือกับความหวานและความขม
เมื่อแต่งทำนองเสร็จผมจึงแต่งเนื้อทันทีและพูดถึงโจ้ว่า วันหนึ่งเราจะได้พบกันในอีกด้านนึงของโลก
Someday i'll meet you on the other side
#MWTLPt1 #MWTLLIVE2019 #BOYd50th #LOVEiSEntertainment
「proverbs 3:6」的推薦目錄:
proverbs 3:6 在 雯雯*ChuiWen Facebook 的最讚貼文
In all your ways acknowledge him, and he will make your paths straight._.proverbs 3:6 #goodmorningsaturday⛅
proverbs 3:6 在 Marian Jordan Ellis | Proverbs 3:5-6 - YouTube 的推薦與評價
Trust in the LORD with all your heart and lean not on your own understanding; in all your ways acknowledge Him, and He will make your paths ... ... <看更多>
proverbs 3:6 在 GOEIE NUUS - Verse: Proverbs 3:6 'In ALL your ... - Facebook 的推薦與評價
Verse: Proverbs 3:6 'In ALL your ways acknowledge Him, and He WILL make straight your paths.' - In everything we do, we should put God first. - Every... ... <看更多>
proverbs 3:6 在 Proverbs 3:5-6 - Pinterest 的推薦與評價
Aug 21, 2015 - Proverbs 3:5-6 is my FAVORITE BIBLE VERSE! ... Proverbs 3:6 Bible Verses Quotes Inspirational, Proverbs Quotes, Trust In God Quotes. ... <看更多>