"rabies virus (ไวรัสโรคพิษสุนัขบ้า โรคกลัวน้ำ) ราชาแห่งไวรัสทั้งมวล"
ช่วงเดือนที่ผ่านมา มีดราม่ากันเยอะเรื่องเกี่ยวกับการระบาดอย่างหนักของโรคเรบี่ส์ หรือโรคพิษสุนัขบ้า/โรคกลัวน้ำ ในบางจังหวัด VS การรณรงค์กำจัดสุนัขจรจัด .. จะขอข้ามประเด็นนั้นไป แต่ที่น่าสนใจคือ มีคนเข้าใจผิดกันอยู่มากกับโรคนี้ เช่น มันรักษาหายได้ไม่ยาก หรือแม้แต่เอารองเท้าตบแผลที่หมากัดก็ไม่เป็นอะไรแล้ว ... ซึ่งผมอยากจะเน้นย้ำว่า โรคนี้มันอันตรายมากๆๆ เรียกว่า ใครติดเชื้อและแสดงอาการของโรคแล้ว ก็จะตายแน่นอน .. เลยเอาคลิปสารคดีสั้นนี้ มาแปลเนื้อหาให้ฟัง ว่ามันคืออะไรกันแน่ และน่ากลัวแค่ไหน (คำเตือน มีภาพน่ากลัวมากของคนที่เป็นโรคด้วย)
-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-
เมื่อคุณคิดถึงโรคเรบี่ส์ rabies (โรคพิษสุนัขบ้า หรือ โรคกลัวน้ำ) คุณมักจะคิดถึงหมาบ้า ที่มีน้ำลายเป็นฟองฟอดเต็มปาก แต่คนก็ติดโรคนี้ได้ และมีคนเป็นหมื่นคนทั่วโลกที่เป็นในแต่ละปี ซึ่งถ้าไม่ได้รับการฉีดเซรุ่มเรบี่ส์ให้ทันท่วงที ก็มักจะเกิดอาการร้ายแรงตามมา และเป็นอาการที่น่ากลัวมาก
โรคเรบี่ส์เป็นโรคติดต่อจากสัตว์สู่คน เกิดจากไวรัสเรบี่ส์ ซึ่งอยู่ในสกุลลีซซ่าไวรัส lyssavirus (แปลว่า ไวรัสที่ทำให้บ้าคลั่ง) อาการของโรคนั้น น่าสะพึงกลัวมาก และเป็นที่มาของพวกเรื่องผีดิบ อย่างมนุษย์หมาป่า แวมไพร์ และซอมบี้
เชื้อไวรัสเรบี่ส์มักจะแพร่เข้าสู่คน ผ่านน้ำลายของสัตว์ที่ติดเชื้อ เข้าสู่แผลที่ถูกสัตว์นั้นกัด ไวรัสจะเข้าโจมตีระบบประสาท และถ้ามันเคลื่อนที่ผ่านเส้นประสาทไปจนถึงไขสันหลังของคุณได้ มันก็จะเดินทางต่อไปถึงสมองของคุณ ซึ่งตรงนั้นมันจะเพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็วมาก
อาการในระยะต้นของคนที่เป็นโรคเรบี่ส์ จะดูคล้ายคนเป็นหวัด โดยอาจจะมีอาการเป็นเหน็บตามแขนขา จากนั้น มันจะพัฒนาขึ้นไปเป็นโรคเรบีส์ "แบบอัมพาต (paralytic) " และ "แบบบ้าคลั่ง (furious)" แบบใดแบบหนึ่ง ... ถ้าเป็นเรบี่ส์แบบอัมพาต ก็มันจะเกิดอาการอัมพาตขึ้นตามกล้ามเนื้อ และนำไปสู่การเสียชีวิตอย่างช้าๆ และทรมาน
ส่วนเรบี่ส์แบบบ้าคลั่งนั้น จะพบได้บ่อยกว่า คือประมาณ 70% ในคนที่เป็น (อีก 30% คือ แบบอัมพาต) และมันทำให้ผู้ป่วยมีอาการหงุดหงิด สับสน และอารมณ์รุนแรง และจะเสียชีวิตในที่สุด ด้วยการที่หัวใจและระบบหายใจทำงานล้มเหลว
แล้วทำไมต้องเกิดอาการน้ำลายฟูมปากด้วย สาเหตุก็เพราะเชื้อไวรัสจะแพร่กระจายผ่านทางน้ำลาย มันเลยทำให้เกิดการสร้างน้ำลายมากขึ้น ขณะที่ก็ทำให้เกิดอาการเจ็บปวดในลำคอ คนป่วยจึงไม่สามารถกลืนน้ำลายได้ตามปรกติ
ในอเมริกา มีเคสของเรบี่ส์แค่ 2-3 รายต่อปี ซึ่งมักจะมาจากสัตว์ป่า เช่น ค้างคาว แต่ทั่วโลกนั้น มีปีละกว่า 6 หมื่นเคส โดยเฉพาะอย่างยิ่งในประเทศกำลังพัฒนา (เช่น ไทย) และ 95% ของเคสเหล่านั้น มาจากการถูกหมากัด
จริงๆ แล้วเราสามารถหยุดการแพร่กระจายของเชื้อไวรัสเรบี่ส์ได้ 100% ถ้าเราฉีดยาได้ทันท่วงทีหลังจากที่ถูกกัดและติดเชื้อ แต่ต้องฉีดให้ทันก่อนที่จะเริ่มแสดงอาการของโรค มิเช่นนั้น ก็จะถึงตายได้
แล้วเราจะช่วยกันป้องกันการแพร่ระบาดของโรคได้อย่างไร วิธีที่ดีที่สุดและราคาถูกที่สุดแล้ว ก็คือการฉีดวัคซีนให้สัตว์เลี้ยงของเรานั่นเอง .. แต่ในประเทศไทยบ้านเราและประเทศกำลังพัฒนาอื่นๆ นั้น การฉีดวัคซีนมักจะไม่ครอบคลุมเพียงพอ และจำเป็นต้องเพิ่มการฉีดวัคซีนให้ทั่วถึงมากขึ้น
-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\-\
สนใจหนังสือ "อ๋อ! มันเป็นอย่างนี้นี่เอง" ติดต่อสั่งซื้อได้ที่เว็บไซต์ สนพ. มติชน http://www.matichonbook.com/…/matichonb…/newbooks/-2997.html
You know what rabies is, but do you actually know what happens to you once you get it?
Search