จากสำนักงานกิจการยุติธรรมครับ เรื่องน้องขมพู่น่ะ
#ใครฆ่าหนู..? (ตอน 1)
ข่าวดังตอนนี้ คงหนีไม่พ้นเรื่อง ด.ญ. คนหนึ่ง อายุเพียง 3 ขวบที่หายออกไปจากบ้าน.. ต่อมาพบเป็นศพอยู่บนภูเขาสูงห่างจากบ้านขึ้นไปราว 3 กิโลเมตร..
ตอนแรก ผมก็สนใจนะครับว่า เรื่องราวเป็นอย่างไร... ก็เลยติดตามดูข่าวทางสื่อมวลชนต่างๆ...
•
#ข้อเท็จจริง ในฐานะสื่อที่ควรนำเสนอโดยไม่ชี้นำสังคม.. คือ ข้อเท็จจริงดิบๆ ที่ไม่ต้องวิเคราะห์...
เพราะประชาชนที่ติดตามข่าวคงวิเคราะห์ ติชมตามปกติวิสัยได้เอง....แต่สื่อ ก็ติดตามนำเสนอข่าวนี้ทุกวันติดต่อกันนานนับเดือน... จนไม่มีข้อมูลดิบอะไรจะนำเสนออีกแล้ว...
•
#สื่อ บางช่องก็เลย เริ่มวิเคราะห์ข้อเท็จจริงในคดีเสียเอง.. ไม่ก็หาข้อมูลที่อาจจะชี้นำผลของคดีล่วงหน้า..
ทั้งที่ ความจริงแล้ว.. ควรปล่อยให้เป็นบทบาทของพนักงานสอบสวนในการรวบรวม #พยานหลักฐาน...
•
หากสื่อต้องการช่วยเหลือ #พนักงานสอบสวน ก็ควรแจ้งข้อมูลที่เกี่ยวกับพยานหลักฐานให้พนักงานสอบสวนทราบ.. ไม่ใช่มาเปิดเผยต่อสาธารณะ..
ในต่างประเทศ ข้อมูลคดีที่สื่อนำเสนอเป็นข่าว จะต้องเป็นข้อมูลที่ได้มาโดยเปิดเผยจากพนักงานสอบสวนเท่านั้น..
•
แต่ทุกวันนี้.. สื่อรวบรวมพยานหลักฐาน.. ไปตรวจที่เกิดเหตุ... ไปสอบถามพยานเอาเอง...
ไปสอบถาม ซักไซ้ #พยาน ไม่ว่าจะเกี่ยวหรือไม่เกี่ยวกับคดี... ใช้ #คำถามนำ บ้าง... ใช้ #คำถามชี้แนะ บ้าง... ใช้ #คำถามปลายเปิด บ้าง ปลายปิดบ้าง...ยิ่งกว่าทนายความซักค้านพยานในศาลเสียอีก...
• ถามเขาจน บางครั้ง.. ราวกับว่า ผู้ถูกถามไม่มีสิทธิในความเป็นส่วนตัว..
• ถามจน บางครั้ง ผู้ถูกถามรู้สึกว่า ตนเองตกเป็นจำเลยไปก่อนที่จะถูกตำรวจแจ้งข้อหาเสียอีก...
• ถามจน บางครั้ง เหมือนเป็นการขุดคุ้ยเรื่องส่วนตัวของพยานออกมาตีแผ่ให้สังคมรับรู้...
• ราวกับ #พยานถูกเปลื้องผ้าต่อหน้าสื่อ ทั้งที่เรื่องนั้นอาจไม่เกี่ยวกับคดีเลยและเป็นเรื่องส่วนตัวเขาล้วนๆ..
•
บางที ก็ถามจน พยานสับสน หวาดระแวงกันเอง.. ถามจนทำให้สังคมเกิดสงสัยใครต่อใคร มั่วไปหมด.. ซึ่งเสี่ยงต่อการทำให้ผู้บริสุทธิ์ตกเป็นแพะอย่างยิ่ง...แม้ตำรวจจะไม่สนใจข้อมูลส่วนนี้.. แต่สังคมสนใจมากก..
•
ทำให้คนที่สื่อชี้นำให้สงสัยตกเป็น #จำเลยสังคม ถูก #ดูหมิ่นเกลียดชัง ไปได้ภายในข้ามคืนเดียว...และบางที ก็ถามจน.. ครอบครัวเขาแตกแยก.. จนญาติพี่น้อง คนในหมู่บ้านทะเลาะเบาะแว้งกันจนขาดความสงบสุขไปในบัดดล...
•
ใครจะเป็นอย่างไร ก็ไม่ทราบนะ... แต่สื่อก็ทำหน้าที่แบบตรงไปตรงมา และไร้ซึ่งชีวิตจิตใจ... เพราะต้องทำหน้าที่เสาะหาข้อมูลมาให้มากที่สุด...
ส่วนผลกระทบจะเป็นอย่างไรนั้น ไม่ใช่หน้าที่... ไม่ต้องรับรู้ ขอเพียงได้ข้อมูลมาทำข่าวแข่งกันทุกวันๆก็พอ..
แม้จะมี #กฎหมายเรื่องละเมิดอำนาจศาล บังคับห้ามสื่อลงข่าวชี้นำศาล... ชี้นำพยาน... หรือชี้นำประชาชนในคดีที่ได้ฟ้องศาลแล้ว...
และที่ผ่านมา สื่อก็ทราบดี จึงมักจะยุติการทำข่าวแบบชี้นำทันทีที่มีการฟ้องคดี... ซึ่งผมก็ดีใจนะที่ #สื่อมวลชนมีความรู้ด้านกฎหมาย ด้วย...
•
แต่การชี้นำผลคดีล่วงหน้าก่อนมี #การฟ้องคดี ทั้งที่รู้ว่า อย่างไรเสีย เรื่องนี้ต่อไป ก็ต้องเป็นคดีขึ้นสู่ศาลแน่ๆ..
มันก็คือการชี้นำสังคมก่อนศาลมีคำพิพากษานั่นเอง..
คู่ความ.. พยาน.. และผู้พิพากษา ที่ติดตามข่าว ก็อาจถูกอิทธิพลสื่อครอบงำ ชี้นำให้เชื่อในข้อเท็จจริงไปตั้งแต่ยังไม่เริ่มสืบพยาน..
•
#นักกฎหมายสายตัวบท... อาจบอกว่า... สื่อทำได้ ไม่ผิดกฎหมาย... เพราะกฎหมายเขียนไว้ว่า "สื่อที่ชี้นำคดีที่อยู่ในระหว่างพิจารณาเท่านั้น" ที่เป็นความผิดฐานละเมิดอำนาจศาล..
ในเมื่อยังไม่มีคดีขึ้นสู่ศาล เพราะอัยการยังไม่ฟ้อง.. "สื่อก็ไม่มีความผิดที่ไปชี้นำสังคม.."
•
แต่นักกฎหมายสายที่เชื่อมั่นว่า ความยุติธรรมสำคัญกว่าตัวบทนั้น เขาบอกว่า.. “เจตนารมย์ของกฎหมายนั้น ไม่ต้องการให้ใครมีอิทธิพลเหนือความคิดเห็นของศาลและของพยานที่จะมาเบิกความ..
เพราะอาจเป็นการแทรกแซงให้เกิดอคติ ทำให้เสียความเป็นธรรมได้...
• ดังนั้น #การชี้นำ ไม่ว่า #ก่อนฟ้อง หรือ #ระหว่างพิจารณาคดี ก็เป็นความผิดฐานละเมิดอำนาจศาลได้เช่นเดียวกัน”
จำได้ว่า เมื่อสักเกือบ 10 ปีก่อน ผมเคยไปบรรยายกฎหมายเรื่อง #สิทธิของเหยื่อ ให้สื่อมวลชนฟัง น่าจะเป็นที่ #สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์ แห่งประเทศไทย..
ได้พูดคุยกับ #สื่อมวลชน หลายคน ทำให้ทราบว่า.. สื่อมวลชนส่วนใหญ่นั้น ไม่รู้กฎหมายและขั้นตอนดำเนินคดี..
• นับเป็นเรื่องที่น่ายินดี ที่ผู้จัดงานให้ความสำคัญ จัดเวทีให้ความรู้ด้านกฎหมายแก่สื่อมวลชน..
ผมเห็นว่า.. สื่อมวลชลนั้น มีหน้าที่ #นำเสนอข่าว และมีความสามารถที่จะชี้นำสังคมไปในทางที่ดีได้..
หากสื่อมีความรู้กฎหมาย.. นอกจากสื่อจะไม่ทำผิดกฎหมายแล้ว.. สื่อยังจะ #ถ่ายทอดความรู้กฎหมาย ที่ถูกต้องให้แก่สังคมได้ด้วย..
•
ถ้าสื่อมีความรู้กฎหมายพื้นฐานที่ประชาชนควรรู้... น่าจะมีประโยชน์ต่อสังคมอย่างมหาศาลนะครับ..
ฝากผู้เกี่ยวข้องไว้ด้วย..
• คราวต่อไป ตอน 2 ของเรื่อง #ใครฆ่าหนู.. ? จะนำเสนอว่า มี "กฎหมายอะไรที่เกี่ยวข้องกับการทำหน้าที่ของสื่อ" ในเรื่องนี้บ้าง...
------------------------------------------------------------------
ที่มา : ขอขอบคุณ ดร.ธีร์รัฐ ไชยอัคราวัชร์ ที่ถ่ายทอดความรู้ในเรื่องกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม และอนุญาตให้สำนักงานกิจการยุติธรรมได้เผยแพร่ให้ประชาชนได้ความรู้ต่อไปครับ
#บทความ #กฎหมาย #กฎหมายน่ารู้ #พยานหลักฐาน #น้องชมพู่ #ข่าววันนี้ #ข่าวดัง #สื่อ #ข่าวน้องชมพู่ #สถานีโทรทัศน์ #กสทช #คดีน้องชมพ่ #คดีอาญา #saveลุงพล #สำนักงานกิจการยุติธรรม #ชื่นใจคนไทยรู้กฎหมาย #รู้กฎหมายไว้ใช้กฎหมายเป็น
「จำเลยสังคม」的推薦目錄:
- 關於จำเลยสังคม 在 Drama-addict Facebook 的最讚貼文
- 關於จำเลยสังคม 在 sittikorn saksang Facebook 的最佳貼文
- 關於จำเลยสังคม 在 I Roam Alone Facebook 的最佳貼文
- 關於จำเลยสังคม 在 “มะตูม” เคลียร์ทุกประเด็นที่ตกเป็นจำเลยสังคม | เจาะข่าวค่ำ | GMM25 的評價
- 關於จำเลยสังคม 在 เปิดใจหนุ่มกู้ภัยฯ ตกเป็นจำเลยสังคม ยักยอกเงินคนพิการ | By ข่าวช่องวัน 的評價
จำเลยสังคม 在 sittikorn saksang Facebook 的最佳貼文
“วิเคราะห์คดีประธานบริษัทอิตาเลียนไทยกับพวกฆ่าสัตว์ป่าคุ้มครองและมีอาวุธเข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า”
(อนึ่งข้อมูลคัดมาจากไทยโพสต์ออนไลน์ วันอาทิตย์ที่ 11 กุมภาพันธ์ 2561 แล้วผู้เขียนนำมาวิเคราะห์เพิ่มเติม)
ความเป็นไปและบทสรุปตอนท้ายของรูปคดี-ผลแห่งคดีบุกรุกป่า-ล่าสัตว์ป่า ที่โด่งดังเวลานี้ ไม่ว่าจะออกมาทางไหน ผลที่จะตามมา หนักหน่วง-รุนแรง กว่ากันมาก โดยเฉพาะหากตำรวจมีความเห็นสั่งฟ้อง-อัยการเอาด้วย สั่งฟ้อง ยื่นฟ้องต่อศาล และผลแห่งคดีในชั้นศาลยุติธรรม ไม่ค่อยจะเป็นผลดีต่อเปรมชัย เดิมพันชีวิต-ชื่อเสียง ของเปรมชัยรอบนี้จึงพลาดไม่ได้
ประเมินได้ว่า ทนายความ-ฝ่ายกฎหมาย ที่ประธาน บมจ.อิตาเลียนไทยฯ ระดมมือดีมาสู้คดี จะมุ่งเน้น-เทน้ำหนัก การสู้คดี ไปที่ปมใหญ่ ว่า “แม้เปรมชัยจะเป็นเจ้าของรถที่นำทีมเข้าไปในเขตทุ่งใหญ่ฯ และเป็นเจ้าของปืนที่เจ้าหน้าที่ยึดกุมได้ แต่เปรมชัยไม่ได้เป็นคนลงมือ-สั่งการ ให้มีการล่าสัตว์ในพื้นที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรดังกล่าวแต่อย่างใด”
ด้วยข้อต่อสู้ว่า
“ไม่มีพยานบุคคลคนใด โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่ยืนยันหรือเห็นว่า เปรมชัยมีการนำคณะออกล่าสัตว์ป่า หรือพบเห็นว่า นายเปรมชัยใช้ปืนหรืออุปกรณ์ล่าสัตว์ที่ยึดกุมได้ ไปไล่ล่าสัตว์ป่าในทุ่งใหญ่นเรศวร” เว้นเสียแต่ตำรวจจะมีพยานหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ที่พิสูจน์ได้ว่า เปรมชัยเป็นคนล่าสัตว์ป่าในเขตอุทยาน ถ้าแบบนั้นเปรมชัยกับทนายความก็คงต้องสู้คดีด้วยความลำบากพอสมควร หากต้องการให้ชนะคดี
ข้อหาที่สำคัญทึ่เจ้าหน้าที่อุทยานร้องทุกข์กล่าวโทษ
สำหรับข้อหาความผิดที่เจ้าหน้าที่อุทยานได้แจ้งความร้องทุกข์กล่าวโทษ เปรมชัยกับพวก ต่อพนักงานสอบสวน สภ.ทองผาภูมิ กาญจนบุรี ความผิดตาม พระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า 2535 พระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ 2508 และพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 ส่วนคดีจะเป็นเช่นไรต่อนั้น ขั้นตอนอยู่ที่เจ้าพนักงานสอบสวน ซึ่งเบื้องต้นการกล่าวโทษคณะของเปรมชัย มีด้วยกันทั้งหมด 6 ข้อหา ได้แก่
1.ฐานร่วมกันล่าสัตว์ป่าในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 36 และมาตรา 53 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535
2.ฐานร่วมกันล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 16 และมาตรา 47 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535
3.ฐานร่วมกันมีไว้ในครอบครองซึ่งซากของสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 19 และมาตรา 47 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535
4.ฐานนำเครื่องมือสำหรับใช้ในการล่าสัตว์ป่าหรือจับสัตว์หรืออาวุธใดๆ เข้าไปในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามข้อ 1 (1) ของกฎกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ฉบับที่ 7 (พ.ศ. 2538) ออกตามความตามมาตรา 37 แห่งพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535
5.ฐานร่วมกันเก็บหาของป่าในเขตป่าสงวนแห่งชาติโดยมิได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตามมาตรา 14 แห่งพระราชบัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507
6.สำหรับความผิดต่อพระราชบัญญัติอาวุธปืน เครื่องกระสุนปืน วัตถุระเบิด ดอกไม้เพลิง และสิ่งเทียมอาวุธปืน พ.ศ. 2490 ขอให้พนักงานสอบสวนดำเนินการแจ้งความกล่าวโทษตามฐานความผิดต่อไป
วิเคราะห์แนวทางคดี
เมื่อพิจารณาศึกษาจากข้อกล่าวหา ก็ต้องยอมรับว่า เปรมชัยกับพวกอ่วมแน่นอน หากสุดท้าย ปลายทางของคดีสิ้นสุดลงโดยที่ผลแห่งคดีไม่เป็นบวกกับฝ่ายนายเปรมชัยและพวก ยิ่งเมื่อช่วงนี้มีบางฝ่ายยกเคสคดีความที่ศาลยุติธรรมเคยตัดสินคดีความผิดในเรื่อง บุกรุกป่า-ตั้งแคมป์ล่าสัตว์ มาให้แลดูเป็นตัวอย่าง ก็คงสร้างความกดดันให้กับฝ่ายเปรมชัยกับทนายความไม่น้อย โดยเฉพาะคดีที่มีการพูดถึงกันมาก คือ
คดีที่ศาลฎีกาเคยตัดสินจำคุกอดีตสารวัตรปราณบุรี คดีล่าสัตว์ป่า อันเป็นคดีที่มีคำตัดสินเมื่อ 31 ม.ค.2560 ศาลจังหวัดเพชรบุรีอ่านคำพิพากษาฎีกา ในคดีเจ้าหน้าที่อุทยานแก่งกระจานจับกุม พ.ต.ท.ธีรยุทธ เกตุมั่งมี อดีตตำรวจภูธรปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ ร่วมกับพวกรวม 9 คน พร้อมด้วยอาวุธปืน เข้าไปล่าสัตว์ป่าภายในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน พร้อมของกลางเป็นซากสัตว์ป่า เมื่อวันที่ 11 พ.ย.2555
คดีข้างต้น ศาลฎีกามีคำพิพากษายืนตามคำพิพากษาศาลอุทธรณ์ ให้จำคุก พ.ต.ท.ธีรยุทธ 10 เดือน ส่วนผู้ต้องหาคนอื่นถูกจำคุกตามความผิดแต่ละกรรม
ซึ่งกว่าคดีจะจบลงด้วยคำตัดสินดังกล่าว เส้นทางคดีก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์ไม่น้อย หลังจำเลยบางคนตอนแรกไม่ถูกสั่งฟ้อง ทำให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติต้องส่ง พล.ต.ท.จรัมพร สุระมณี ผช.ผบ.ตร.เวลานั้น ลงไปควบคุมการสอบสวน และเริ่มสอบสวนบางแง่มุมของคดีใหม่ จนมีการสั่งฟ้อง พ.ต.ท.ธีรยุทธ เกตุมั่งมี พร้อมพวกรวม 9 คน ในข้อหาร่วมกันล่าสัตว์ในเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ความผิด พ.ร.บ.อาวุธปืน, พ.ร.บ.อุทยานแห่งชาติ และ พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า
แน่นอนว่า บริบท-รูปคดี-พยานหลักฐานทางคดี ของ คดีบุกรุกป่า-ล่าสัตว์ แก่งกระจาน มีความแตกต่างกับ คดีเปรมชัย-ทุ่งใหญ่ฯ อยู่พอสมควร โดยเฉพาะ พยานหลักฐาน ที่จะโยงและเอาผิดเปรมชัย ซึ่งยังไม่รู้ว่า พนักงานสอบสวนจะสอบสวนทำคดีจนทำให้สำนวนคดีมีความแน่นหนารัดกุมได้แค่ไหน และมีพยานหลักฐานเด็ดทางคดีอย่างไร ที่ไม่เคยเปิดเผยกับสื่อมาก่อน
ดังนั้นการจะหวังว่า คดีเปรมชัยกับพวกจะจบลงแบบคดีบุกรุกป่า-ล่าสัตว์ แก่งกระจาน ถึงตอนนี้จึงยังอีกไกลที่จะมองไปถึงขั้นนั้น เพียงแต่พิจารณาไว้เป็นแนวทางข้อศึกษาบางอย่างได้
อย่างไรก็ตาม กับ คดีเปรมชัย-ล่าเสือดำ เมื่อคดีความยังเพิ่งเริ่มต้น ตำรวจ-อัยการ-ศาล ยังไม่ได้ชี้ขาด จนคดีถึงที่สุดว่า เปรมชัยกับพวกกระทำความผิดจริง
จุดนี้มองให้ครบทุกด้าน ทุกมิติ ก็ต้องรอดูการสู้คดีของผู้ถูกกล่าวหา โดยเฉพาะ เสี่ยเปรมชัยด้วยว่า จะมี “ไม้เด็ด-ไพ่ตาย" อะไรมาพลิกคดี ทำให้จากที่ตอนนี้ตกเป็น ผู้ต้องหา-จำเลยสังคม กลายเป็นผู้ชนะคดี จะใช่วิธีการอย่างที่ผู้คนในสังคมเชื่อว่าจะมี คนรับผิดแทนนาย หรือไม่ เรื่องนี้ ต้องรอดูกันยาวๆ
แต่เรื่องนี้หากทุกฝ่ายในกระบวนการเส้นทางคดี ไม่ว่าจะเป็นตำรวจ-เปรมชัยกับพวก ในฐานะผู้ถูกกล่าวหา-อัยการ และศาล ต่างทำหน้าที่และว่ากันไปตามกระบวนการ ตามพยานหลักฐานและข้อกฎหมาย ไม่มีเล่นตุกติก นอกลู่นอกทาง ผลแห่งคดีออกมาแบบไหน สังคม-ประชาชน พร้อมรับฟังและใช้วิจารณญาณได้เอง ว่าจะเทน้ำหนักให้ฝ่ายไหน แต่อย่างไรก็ตามถ้าผลออกมาค้านความรู้สึกในทุกด้านๆ เรื่องคดีนี้คงไม่จบง่ายๆแน่นอน
สรุป คดีนี้สุดท้ายว่าตามพยานหลักฐาน โดยเฉพาะสำนวนของเจ้าหน้าตำรวจจะเป็นตัวคำตอบในคดีนี้ ว่า จะลงเอยอย่างในอนาคตในคดี แต่สำหรับ เปรมชัย “สังคมได้พิพากษาไปแล้ว ว่ามีความผิดที่ไม่น่าให้อภัย”
จำเลยสังคม 在 I Roam Alone Facebook 的最佳貼文
ใคร เผา ป่า?
การเดินทางไปแม่ฮ่องสอนของมิ้นท์ครั้งนี้ เพื่อไปเรียน ไปทำความเข้าใจว่าทำไมถึงมีควันไฟทุกปีมาตั้งแต่เด็ก ทำไมชาวเขาถึงเผา ทำไมถึงแก้ไม่ได้ ทำไมหน่วยงานรัฐไม่จัดการ ทำไม ทำไม และทำไม เพราะจากข่าวที่ออกมา ก็พูดแต่เรื่องควัน ความเสียหาย ชี้นิ้วโทษคนนู้นบ้างคนนี้บ้างทุกปี แต่ไม่เคยเข้าใจจริงๆเสียทีว่ามันเกิดอะไรขึ้น
‘มาก็ดีพี่ จะได้เป็นกระบอกเสียงให้ชาวเขา จำเลยสังคม’ น้องปลัดที่ประจำอยู่แม่ฮ่องสอนบอก
...Continue reading
จำเลยสังคม 在 เปิดใจหนุ่มกู้ภัยฯ ตกเป็นจำเลยสังคม ยักยอกเงินคนพิการ | By ข่าวช่องวัน 的推薦與評價
5 ธ.ค. 2562. จำเลยสังคม. เปิดใจหนุ่มกู้ภัยฯ ตกเป็น จำเลยสังคม ยักยอกเงินคนพิการ. 1,513. รับชม 135,311 ครั้ง · 1,513. ... <看更多>
จำเลยสังคม 在 “มะตูม” เคลียร์ทุกประเด็นที่ตกเป็นจำเลยสังคม | เจาะข่าวค่ำ | GMM25 的推薦與評價
ดีเจมะตูม ออกมาชี้แจงทุกกรณี หลังจากเข้ารับการรักษาผ่านไป 15 วัน แจงทุกประเด็นเกี่ยวโยงกับอีกหลายเหตุการณ์ ... ... <看更多>