ทำอะไรไม่สุดสัก(ทาง)ที
.
ปัญหาโลกแตก
ของคนที่ชอบทำไปซะทุกอย่าง
จนไปไม่สุดสักทาง!
.
จนเครียด สับสน
ติดในวังวนที่หาทางออกไม่ได้
.
ถ้าวันนี้เราไม่รู้จักรู้ข้อดีข้อด้อย
ตอบตัวเองไม่ได้ว่าอะไร
คือ “คุณค่า” และ “เป้าหมายที่แท้จริง”
เราจะไม่มีวัน
เป็นตัวเองในเวอร์ชั่นที่ดีที่สุด!
.
มาเรียนรู้และเติบโต ไปด้วยกัน
กับคอร์สออนไลน์
Self-discovery (New Class)
ค้นพบตัวตนเพื่อการรักและเป็นตัวเองอย่างที่ต้องการ
.
คลาสลายเซ็น โดยครูเงาะ รสสุคนธ์ กองเกตุ
.
ไม่ว่าคุณจะเป็น ผู้บริหาร เจ้าของกิจการ
หัวหน้างาน พนักงานออฟฟิศ พ่อค้า แม่ค้าออนไลน์
ฟรีแลนซ์หรือแม้กระทั่ง บุคคลทั่วไป
คุณจะได้รู้จักตัวตนที่แท้จริง
กำหนดเป้าหมายที่ชัดเจน
ส่งผลให้ทุกมิติในชีวิต ทั้งความรัก การงาน ความฝัน
สำเร็จได้บน “ทางเลือกของเรา” อย่างแท้จริง
.
พลิกโควิดให้เป็นโอกาส ใช้เวลาให้คุ้มค่าไปด้วยกัน
ราคา Early Bird
4,590 จากราคา 9,900
เปิดคลาสวันแรก 15 มกราคมนี้
.
สอบถามเพิ่มเติมได้ที่
080-265-6266 , 096-646-6266 , 099-797-9615
🗨 สอบถามที่ LINE @kru-ngor
👉 คลิก https://line.me/R/ti/p/@kru-ngor
หัวหน้างาน คือ 在 สมองไหล Facebook 的最佳解答
คนเกินครึ่งที่ตัดสินใจลาออกจากงานนั้น ส่วนใหญ่ไม่ได้มีสาเหตุมาจากงาน เเต่มีสาเหตุมาจาก "คน" โดยเฉพาะกับหัวหน้า
.
เพราะเจ้านายนี่เเหละ คือ คนชี้เป็นชี้ตาย ว่าตัวพนักงานจะรุ่งหรือจะร่วง
.
โดยปัญหาเรื่องเจ้านาย จะถูกเเบ่งออกเป็น 2 ส่วน ใหญ่ ๆ คือ
1.ปัญหาเชิงโครงสร้าง
2.ปัญหาที่ตัวบุคคล
.
- ปัญหาเชิงโครงสร้าง
เป็นปัญหาที่เเก้ยากเเละขึ้นบ่อยในองค์กรส่วนใหญ่
.
โดยปัญหาเชิงโครงสร้างนั้นมีสาเหตุมาจากวัฒนธรรมองค์กร ที่เจ้านายมีสิทธิ์เด็ดขาดมากเกินไป
.
ซึ่งสิ่งที่จะเกิดขึ้นตามมาคือ คนทำงานจะไม่ได้ทำงานเพื่อเป้าหมายขององค์กร เเต่ทำงานเพื่อให้เจ้านายมีความสุข
.
ถ้านึกภาพไม่ออก ลองนึกถึงการทำงานในระบบราชการ ที่คนทำงานส่วนใหญ่นั้น “ไม่ได้ทำงานเพื่อประชาชน เเต่ทำงานเพื่อให้ถูกใจนาย” เป็นการทำงานเเบบ “ดีครับนาย สบายครับผม เหมาะสมครับท่าน”
.
จนเกิดเป็นคำพูดในหมู่พนักงานที่ชอบคุยกัน ว่า “งานถูกต้อง เเต่ไม่ถูกใจ”
.
กลายเป็นว่าศักยภาพของพนักงานจะถูกจำกัดด้วยความสามารถของเจ้านาย เพราะถ้าอะไรที่ทำเกินหน้าเกินตาเจ้านาย เจ้านายก็จะไม่ชอบ
.
ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ดีอย่างยิ่งเพราะความจริงเเล้ว ในยุคนี้ “ลูกน้องควรต้องเก่งกว่าหัวหน้า ทีมถึงจะไปได้เร็ว”
.
เพราะบทบาทของหัวหน้าที่เเท้จริง คือ “คนคอยคุมเกม คุมจังหวะการทำงานในทีม ให้ทีมนั้นสามารถทำงานไปในทิศทางที่ถูกต้อง”
.
เหมือนทีมฟุตบอล ที่นักเตะส่วนใหญ่นั้นจะเก่งกว่าโค้ช เเต่บทบาทของโค้ชไม่ใช่การลงไปเเข่งกับนักเตะ เเต่คือการวางเเผนเเละคุมเกมเพื่อให้ทีมนั้นชนะต่างหาก
.
ซึ่งวิธีเเก้ ของปัญหาเชิงโครงสร้าง คือ ต้องลดอำนาจของเจ้านายลง เพื่อให้อำนาจของคนอื่นมีมากขึ้น เเละสุดท้ายอำนาจก็จะไปตกอยู่ที่คนทำงานหน้างานมากขึ้นเอง
.
ซึ่งมันอาจจะเป็นเรื่องยากเเละเจ็บปวด เเต่ถ้าจะให้องค์กรเดินหน้าไปได้ มันก็ต้องเเก้กันทั้งระบบ
.
เพราะวัฒนธรรมองค์กรเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด สำคัญกว่ากลยุทธ์ สำคัญกว่าทุกอย่าง บริษัทที่วัฒนธรรมองค์กรเเย่ ทุกอย่างก็จะเละไปหมด เเต่ถ้าวัฒนธรรมองค์กรดี ทุกอย่างก็จะดีไปหมดเช่นกัน
.
.
- ปัญหาเชิงตัวบุคคล
.
ปัญหาเชิงบุคคลนั้น ส่วนใหญ่มาจากลักษณะนิสัยของหัวหน้าเอง วิธีเเก้ คือ หัวหน้าต้องรู้จักสำรวจตัวเอง เเล้วปรับตัว เเต่ถ้าทำไม่ได้ วิธีที่ง่ายกว่าก็คือ เปลี่ยนหัวหน้าไปเลย ซึ่งส่วนใหญ่วิธีที่ลูกน้องจะเปลี่ยนหัวหน้าคือ “การเลื่อยขาเก้าอี้”
.
ซึ่งถ้าเกิดเหตุการณ์เเบบนี้ขึ้นบอกเลยว่ามันจะจบไม่สวยเเน่ๆ ดังนั้น ใครที่เป็นหัวหน้า หรือ กำลังจะได้เลื่อนขั้นเป็นหัวหน้า ลองสำรวจดูครับว่าตัวเองมีคุณสมบัติของ เจ้านายห่วยๆ ดังต่อไปนี้หรือเปล่า
.
1) ความคิดเห็น ตัวเองเป็นใหญ่
.
มีคำพูดนึงบอกว่า “คนที่เป็นหัวหน้า ควรพูดให้น้อยที่สุด เเละพูดคนสุดท้าย” เพราะถ้าคนเป็นหัวหน้าพูดเยอะเเละพูดก่อน ลูกน้องจะไม่อยากพูดเเล้ว
.
คือ ลูกน้องทำงานเตรียมพรีเซ็นท์มาอย่างดี เเต่พอถึงเวลาประชุมจบ หัวหน้ากลับตัดสินใจตามที่ตัวเองคิดมา โดยไม่สนใจเหตุผลของลูกน้องเลย
.
ซึ่งสิ่งที่น่ากลัว คือ คนส่วนใหญ่ ไม่รู้ตัว ว่าตัวเองเป็นคนเเบบนี้
.
เพราะฉะนั้น หนึ่งในสิ่งที่เป็นตัววัดความสำเร็จของหัวหน้า ก็คือ “ลูกน้องกล้าพูด เเละ “ต้องกล้าพูดทุกคน”
.
2) การขโมยเครดิตลูกนัอง
.
หัวหน้าไม่จำเป็นต้องขโมยเครดิตของลูกน้องเลย เพราะเมื่อลูกน้องทำได้ดีมันเป็นเครดิตของคุณอยู่เเล้ว เฉพาะฉะนั้น ควรเอาเครดิตทั้งหมดไปให้ลูกน้อง ไม่ใช่ขโมยมันมาเป็นของตัวเอง
.
3) โยนความผิดให้ลูกน้อง
.
พอโปรเจคออกมาดีก็ไหลตามน้ำ เเต่ถ้าเมื่อไหร่มันเจ๊งหรือลูกน้องทำผิด ก็จะโยนความผิดให้ลูกน้องทันที
.
เเละ ช็อตโยนความผิด ที่มักเจอบ่อยที่สุด คือ ตอนพรีเซ็นต์งาน
.
คือถ้าในระหว่างพรีเซ็นต์งาน เเล้วโดนหัวหน้าของหัวหน้าอีกทีคอมเม้นท์มา ก็จะหันไปโยนความผิดให้ลูกน้องทันที
.
4) ดุลูกน้องตัวเองต่อหน้าลูกค้า
ซึ่งความจริงเเล้ว ลูกค้าโคตรเกลียดเลย หัวหน้าที่ชอบดุลูกน้องต่อหน้าลูกค้า
.
5) หัวหน้าไม่ยอมตัดสินใจ
ส่วนใหญ่เป็ยพวกชอบเเทงกั๊ก คือ ให้ลูกน้องทำไปก่อน ถ้าออกมาดีก็จะไหลตามน้ำ เเต่ถ้าออกมาไม่ดี ก็จะได้มีพื้นที่ในการถอย
.
ซึ่งทีมไหนที่หัวหน้าไม่ตัดสินใจ มันจะทำให้งานไม่เดิน
.
6) ไม่ยุติธรรม
การให้ประโยชน์กับคนนึง โดยอีกคนเสียผลประโยชน์ โดยไม่มีคำอธิบายใดๆ
.
7) หัวหน้าที่บ้า KPI เกินไป
หัวหน้าที่ บ้า KPI เเบบไร้สติ จะไม่มีการยืดหยุ่น
.
เช่น อยากได้ยอดขายโต 70% โดยไม่ดูความสามารถของทีม ความสามารถองค์กร จนกลายเป็นว่าเอาเเต่ยึดติดอยู่กับ KPI ของตัวเอง จนไม่นึกถึงความรู้สึกของลูกน้อง พูดง่ายๆคือ ไม่เห็นพนักงานเป็นมนุษย์ เเต่เห็นเป็นเครื่องที่คอยผลิตผลประโยชน์ให้ตัวเองอย่างเดียว
.
-บริหารเเบบจุกจิก
“จุกจิก” กับ “ใส่ใจในรายละเอียด” มันจะมีเส้นบางๆ กั้นอยู่
.
ดังนั้น ต้องหาความพอดีให้เจอ ซึ่งความยาก คือ เส้นบางๆ ตรงนี้ของคนมันไม่เท่ากัน
.
บางคนปล่อยให้ทำงานเองได้ เเต่บางคนปล่อยไม่ได้ ดังนั้น ไม่ควรเอามาตรฐานของคนหนึ่งไปใช้กับอีกคนหนึ่ง ซึ่งมันต้องอาศัยการมีศิลปะในการบริหารคน
.
ดังนั้น ดูเเลอยู่ห่างๆ ไม่ใช่ไปกำกับทุกอย่าง โดยไม่เปิดโอกาสให้ลูกน้องเเสดงความสามารถเลย
.
---------
.
- คนเป็นหัวหน้าจะถูกปิดกั้นด้วยกำเเเพงของ “ความจริง” เพราะลูกน้องจะไม่กล้าพูดไม่กล้าบอกอะไรเพราะเขากลัว
.
- คนเป็นหัวหน้าจะถูกปิดกั้นด้วยกระจกของ “อีโก้” ที่มักเห็นตัวเองตัวใหญ่ที่สุดเสมอ
.
- เเละคนเป็นหัวหน้าจะถูกปิดล้อมด้วย “คนที่โกหก” ซึ่งเขาไม่ได้ตั้งใจจะโกหก เเต่เขาคิดว่ามันคือสิ่งที่ หัวหน้าอยากฟัง
.
เพราะฉะนั้น ถ้าวันนี้คุณเป็นหัวหน้าก็สำรวจตัวเองให้ดีว่ามี 8 ข้อที่กล่าวมาไหม
.
เเละถ้าวันนึงคุณต้องขึ้นไปเป็นหัวหน้าขึ้นมา ก็ขอให้ระวังสิ่งเหล่าพวกนี้ ลองถามตัวเองว่า อะไรบ้างที่เราไม่ชอบ เเละก็อย่าทำมันเเบบนั้นกับคนอื่นเช่นกัน เเละคุณจะได้เป็นเจ้านายที่ดีต่อไปในอนาคตอย่างเเน่นอน
.
.
.
Reference : Boss eye view Podcast EP.7
.
.
“เปลี่ยนตัวเองเป็นคนที่ดีขึ้น ด้วยการอ่านหนังสือดีๆ สักเล่ม”
.
เเต่ถ้าไม่รู้ว่าตัวเองควรอ่านเล่มไหน ทักมาปรึกษาสมองไหลได้เลย
.
สั่งซื้อหนังสือออนไลน์ง่ายๆ ส่งตรงถึงหน้าบ้านคุณ
ได้ที่ Inbox เพจ สมองไหล
.
#หัวหน้างาน #เจ้าของธุรกิจ #ceo #ผู้บริหาร #มนุษย์เงินเดือน #สมองไหล
หัวหน้างาน คือ 在 กอล์ฟมาเยือน Facebook 的精選貼文
คนที่ไป Work and Travel มีประมาณ 3 แบบถ้วนครับ
แบบที่ หนึ่ง คือ คนที่ไปหาเงิน หาเงินจริงจังเลย กลุ่มนี้บางคนจะไม่เที่ยวเลย ทำงาน แล้วขนเงินกลับบ้าน บางคนนี่ไปสองสามเดือน ได้กำไรเป็นแสนก็มี
แบบที่สอง คือ เวิร์ค แอนด์ ทราเวล ที่แท้ทรู ทำงาน หนัก แล้วก่อนกลับ ก็เที่ยวให้หนักเช่นกัน คนส่วนใหญ่มักจะอยู่ตรงนี้
ส่วนผมกับไอเจ หนะหรอ
อยู่แบบสาม ครับ
เราเรียกมันว่า "Just see thing"
ที่มาของคำนี้คือ
หัวหน้างาน ถามว่า ทำไมอยากกลับเร็ว ได้เงินน้อยนะ
ผมจำได้แม่นเลย ผมตอบไปว่า "Just see thing"
55555 not here to make money you knowwwww !!
เพราะงั้นแบบที่สามนี่ เรียกได้ว่า มีตั้งแต่เท่าทุนยันขาดทุนยับ
แน่นอนว่า ผมขาดทุน !!
แต่ไม่ยับมาก
เพราะฝีมือการกริลเบอเกอร์ กับ ตอกไข่ยามเช้าใน McDonald ก็ทำเงินให้ผมได้พอสมควร
McDonald สาขาที่ผมทำอยู่ น่าจะเป็นหนึ่งในสาขาที่มีเวทย์มนต์
เวทย์มนต์ ในที่แห่งนี้ อยู่ตรงเตาทอดครับ
ผมจำได้แม่นเลยว่าใส่เบคอนลงไปทอด ผมใส่ไปสิบสองชิ้น
ทอดทิ้งไว้ เดินวนไปเอาของ กลับมาอีกที
มันดันเหลือ 8 บ้าง
เหลือ 10 บ้าง
หันไปถามใครก็ไม่มี ใครรู้
แต่รอบไหนที่มี ไอกัน(เพื่อนที่เคยพูดถึงใน โพสก่อน) อยู่ด้วย เบคอนมักจะหายบ่อยๆ
กัน เป็นเพื่อนที่ตัวใหญ่สุดในกลุ่มครับ กันนี่เป็นคนประเภทที่สอง คือ ทำงานสุด เที่ยวสุด
week นึงกันซั้ดเต็มที่ตลอด คือ 40 ชั่วโมง
ปกติ ชั่วโมงละ 7-8 ดอล ถ้า OT เค้าต้องจ่ายชั่วโมงละ 10 ดอลได้
เพราะฉนั้น April จะทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้แต่ละคนทำงานเกิน 40 ชั่วโมง เพราะเค้างก OT มาก
การทำงานที่ MC เนี่ย ทำให้เรากินแมคบ่อยมากๆอย่างเลี่ยงไม่ได้ McWarp คือของโปรดของแก้งค์บ้านเรา
แต่ถึงชอบขนาดไหนกินทุกวันก็เบื่อแน่นอน
ผมชอบชวนเพื่อนๆไปจัดบุฟเฟต์อาหารทะเล แถวๆริมทะเล อย่าเพิ่งคิดภาพไปไกลว่ามันหรูหรา ไม่ได้หรูขนาดหัวละหลักร้อยดอล พวกผมไม่มีเงินกินกันหรอก
ที่กินกันมันประมาณคนละ 30$ ได้ แต่ตอนนั้นก็ถือว่าแพงแล้ว พวกเราเลยกินกันนานๆที
อาหารมันจะเป็นแนวๆทอดอ่ะ กุ้งทอด เฟรนฟราย หอยเชลทอด หอยเชลทอดอันนี้ของโปรดผมเลย จิ้มกับน้ำจิ้มสีแดงๆอร่อยมาก ไม่ใช่มะเขือเทศนะ ไม่ใช่ศรีราชาด้วย Tobasco ก็ไม่ใช่ จำไม่ได้ว่าเรียกว่าอะไร แต่อร่อยจริงงง
เรากินกันอย่างดุเดือด อร่อยมากทุกคนแฮปปี้ ตอนนั้นน่าจะแบบ 8 คนได้มั้ง
ราคาอาหารก็ตกประมาณ 240$ เราก็หารกัน วางเงินไปตามนั้น แล้วเดินออกจากร้านเลย
เดินไปได้ประมาณ 500 เมตร ไอเจ ตัวจี๊ด ลืมมมมของ
ลืมเข็มขัดนิสิตไว้ เลยแวบกลับไปเอา การกลับไปร้านของไอเจ ต้องพบกับ พนักงานที่หงุดหงิดสุดๆ ทำให้เจรู้ว่า กินข้าวที่อเมริกาต้องทิปนะเฟ้ย พนักงานโวยวายเลย เพราะค่าแรงของเด็กเสิร์ฟที่นี่น้อยมากๆ รายได้หลักเค้ามาจากทิป ทำให้ไอเจเลยโดนยึดเข็มขัดไปเรียกค่าไถ่เลย
ด้วยความงงๆ ไอเจ ประกันตัวเข็มขัดนิสิตมาในราคา 1 พันกว่าบาท
นั่นคือเข็มขัดนิสิต ที่แพงที่สุดตั้งแต่ผมเคยเห็นมา 5555
แต่หลังจากนั้นพวกเราก็ไม่ลืมที่จะทิปอีกเลย
จบตอน 3 ไม่รู้จะมีอีกไหม ไว้ว่ากันนะ 5555
หัวหน้างาน คือ 在 #HRD# หัวหน้างานที่ดีต้องมี 8 พฤติกรรม - YouTube 的推薦與評價
คำว่า หัวหน้า ต้องเป็นผู้นำ หรือต้องทำหน้าที่สองบทบาทหน้าที่ เป็นทั้งตัวแทนเจ้านาย หรือนายจ้าง ต้องเป็นท้องพนักงานหรือลูกจ้าง เวลาจะพูด ... ... <看更多>