ในยุคที่สถานการณ์รอบตัวเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทำให้ปฏิเสธไม่ได้ว่า นอกจากค่าตอบแทนและสวัสดิการที่น่าพึงพอใจแล้ว วัฒนธรรมองค์กร ความท้าทายของเนื้องาน และโอกาสเติบโตในสายอาชีพอย่างรวดเร็ว เป็นปัจจัยสำคัญที่ใครหลายคนใช้ในการตัดสินใจร่วมงานกับองค์กรต่างๆ
.
หากจะพูดถึงบริษัทที่มีวัฒนธรรมองค์กรที่ตอบโจทย์ความต้องการของคนรุ่นใหม่ พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงต่างๆที่เกิดขึ้น และมีการสร้างสรรค์ innovation ใหม่ๆอยู่เสมอแล้ว Accenture (เอคเซนเชอร์) บริษัทที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีและธุรกิจชั้นนำระดับโลก คือหนึ่งในบริษัทที่เรานึกถึง เพราะ Accenture ได้รับการจัดอับดับให้เป็นหนึ่งใน 100 บริษัทที่
น่าร่วมงานมากที่สุด โดยนิตยสารฟอร์จูน 13 ปีติดต่อกัน
.
และในปีนี้ Accenture กำลังจะขยายส่วนงานที่เรียกว่า Advanced Technology Center เข้ามาในประเทศไทย ซึ่งมีชื่อเต็มๆว่า ศูนย์เทคโนโลยีและนวัตกรรมขั้นสูง ของเอคเซนเชอร์ ในประเทศไทย หรือ Advanced Technology Center Thailand (ATCT) โดยที่ศูนย์นี้มีเป้าหมายที่จะส่งมอบบริการและนวัตกรรมที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้า ขับเคลื่อน innovation ให้หลากหลายและขยายสู่วงกว้างมากขึ้น ควบคู่ไปกับการสร้างพนักงานให้มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านทางเทคโนโลยี เพื่อตอบสนองกับความต้องการของลูกค้าในด้านต่างๆทั้งในระดับประเทศและภูมิภาค
.
มาทำความรู้จัก Accenture และ Advanced Technology Center Thailand (ATCT) พร้อมเหตุผลที่ทำให้องค์กรนี้น่าร่วมงานด้วย
.
1) ผนึกกำลังองค์กรชั้นนำระดับโลกในประเทศไทย
เอคเซนเชอร์เป็นบริษัทด้านเทคโนโลยีและธุรกิจชั้นนำ มีความโดดเด่นในด้านดิจิทัล คลาวด์ และระบบรักษาความปลอดภัย มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญครอบคลุมกว่า 40 อุตสาหกรรม อุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มการเงิน การธนาคาร กลุ่มการค้าปลีก หรือกลุ่มพลังงาน ให้บริการลูกค้ากว่า 120 ประเทศ รวมถึงประเทศไทย ซึ่งเอคเซนเชอร์มีศูนย์ปฏิบัติการอัจฉริยะที่ใหญ่ที่สุดในโลก หนึ่งในนั้นคือ Advanced Technology Center ที่กระจายมากกว่า 50 ศูนย์ทั่วโลก โดยกำลังจะจัดตั้งศูนย์นี้ในประเทศไทยภายในปี 2564
.
2) โดดเด่นด้วยเครือข่ายทั่วโลกอันแข็งแกร่งและบริการที่มีประสิทธิภาพสูง
ศูนย์เทคโนโลยีและนวัตกรรมขั้นสูง ของเอคเซนเชอร์ ในประเทศไทย หรือ Advanced Technology Center Thailand (ATCT) สามารถนำองค์ความรู้จากเครือข่ายทั่วโลกมาปรับใช้ให้เข้ากับระบบต่างๆได้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นแพลตฟอร์มใด หรือเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นใหม่ (emerging technologies) ตัวใดก็ตาม จึงสามารถช่วยให้ลูกค้าได้ใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เตรียมพร้อมรับมือกับความเปลี่ยนแปลง และด้วยทีมงานคุณภาพ ที่เชื่อถือได้จากหลากหลายมิติในธุรกิจจึงสามารถดำเนินงานและปรับรูปแบบนวัตกรรมตามความต้องการของลูกค้าได้อย่างราบรื่น
.
3) มีความยืดหยุ่นในการทำงานกับ Flexible Workplace และ Flexible Hours:
ตอบสนองทุก lifestyle ด้วยการทำงานแบบ Workplace Flexibility ที่พนักงานไม่จำเป็นจะต้องนั่งทำงานประจำที่ออฟฟิศ หรือมีการตอกบัตรเข้างาน พร้อมเลือกการทำงานแบบ flexible hours ที่เอื้อให้จัดการเวลางานกับเวลาส่วนตัวได้อย่างลงตัว หมดปัญหาเรื่อง work-life integration
.
4) ช่องว่างระหว่างพนักงานกับผู้บริหารแคบลง ด้วย Flat Organization
โครงสร้างองค์กรแบบราบ (Flat Organization) ช่วยลดลำดับขั้นและช่องว่างระหว่างผู้บริหารและพนักงาน สนับสนุนให้พนักงานที่ไม่ว่าจะตำแหน่งไหนก็สามารถรับผิดชอบและมีส่วนในการตัดสินใจในโปรเจคสำคัญได้ ซึ่งเป็นการเปิดโอกาสให้พนักงานได้แสดงศักยภาพได้อย่างเต็มความสามารถ
.
5) เราคือทีมเดียวกัน One Accenture, One Team:
แม้พนักงานแต่ละคนจะมีความสามารถที่แตกต่างกัน แต่การทำงานเป็นทีมจะช่วยดึงศักยภาพของทุกคนออกมา พร้อมเปิดโอกาสให้ได้เรียนรู้การทำงานซึ่งกันและกันจากหลากหลายส่วนงาน เพื่อเฟ้นหาวิธีการที่ดีและเหมาะสมที่สุดกับความต้องการหรือโจทย์ของลูกค้า
.
6) มี People Lead ช่วยวางแผนด้านความก้าวหน้าในสายอาชีพ:
เปรียบเสมือนโค้ชที่จะให้คำปรึกษาเกี่ยวกับการปรับตัว การเรียนรู้ การเติบโตในสายอาชีพนั้นๆ โดย People Lead จะทำความเข้าใจความต้องการของพนักงาน ช่วยวางแผนและให้คำแนะนำ เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ นอกจากนี้หากพนักงานอยากลองเปลี่ยนสายงาน ก็สามารถแจ้ง People Lead เพื่อปรับแผนร่วมกับทีมได้
.
7) กระตุ้นให้ทุกคนไม่หยุดเรียนรู้กับHot Skill Bonus:
Hot Skill Bonus คือ โบนัสที่บริษัทมอบให้พนักงานที่มีความเป็นเลิศในทักษะที่จะช่วยพัฒนาบริษัท โดยมุ่งหวังเป็นแรงผลักดันให้พนักงานเพิ่มศักยภาพของตนเองให้ดียิ่งขึ้น ทั้งจากการสร้างทักษะใหม่ๆและต่อยอดทักษะเดิม
ตอนนี้ Accenture และ Advanced Technology Center Thailand (ATCT) กำลังเปิดรับคนรุ่นใหม่มาร่วมทีม ในตำแหน่ง Back End Developer, Front End Developer, Mobile Developer (iOS / Android), Cloud Infrastructure, Data Engineer และอีกมากมาย ใครที่มองหางานที่ได้แสดงไอเดีย ได้เรียนรู้และเติบโตในสายเทคโนโลยีไปพร้อมๆกัน เข้าไปดูรายละเอียดตำแหน่งที่เปิดรับและสมัครงานได้ที่ เวบไซต์ Accenture https://accntu.re/3Ayl5XU
#HRTheNextGen
同時也有10000部Youtube影片,追蹤數超過2,910的網紅コバにゃんチャンネル,也在其Youtube影片中提到,...
「accenture innovation」的推薦目錄:
accenture innovation 在 孫弘岳-人力資源管理的世界 Facebook 的精選貼文
根據最新的《企業》(Inc.)雜誌報導,有愈來愈多科技公司, 例如Tesla、Accenture或 LinkedIn,不依賴履歷表上的"經驗",改用AI預測來作為任用的標準,因為過去經驗與未來的工作內容與新的專業知識相關性愈來愈低。
這篇報導一開頭就引述一篇頂極的論文,試圖合理化,經驗無法預測未來的工作績效的論點。但論文中的工作經驗係指年資,而非一竿子推翻應徵者經驗的價值。例如結構化行為事例面談(即以過去經驗為基礎),至今仍有許多研究發現它具一定的預測效度。
.
縱然這篇報導有一點斷章取義,但它也點出"履歷表上的工作經驗"對"未來工作"績效的預測力可能正在消弱中。取而代之的是一個人可能不太容易突顯在履歷表上的特質。而這些特質也不太容易透過一般的甄選工具來進行評測,如果可以,也不會太便宜,例如工作樣本法 Working sampling、評鑑中心 Assessment Center等等,要很花人力與心力來設計與執行的高度結構化評鑑工具。
.
AI在人力甄選上的應用,就大大補足這類結構化人力評鑑的缺點,即過多的時間與人力。透過半監督式深度學習Semi-supervised Deep Learning的技術,你只要告訴電腦某一群人目前績效的高低,它可以模擬與分析工作樣本或評鑑中心,甚至是評測遊戲中的各式行為,包含肢體語言或聲調/步態,找到可以預測績效高低的特質。換言之,這樣的AI工具,不但能取代傳統測評工具中訓練有素的觀察員,還能看到觀察員看不到或不易看到的細節,不會分心、也不會遺忘。所以AI逐漸成為人才甄選的測評工具。
.
註1: 在機器學習Machine Learning的領域中,分三類,最常用的稱作監督式學習 Supervised Learning,例如在人的訓練下,告訴機器那些照片是猫或狗,並由人給予猫狗不同的屬性標籤,例如耳朵、叫聲、吐舌等的特徵,訓練機器從這些資料中去辨別猫狗的照片。這個方法的缺點,就是太費人力,且關係到機器訓練師的素質。非監督式學習 Unsupervised Learning,就是由人給機器一堆猫狗的照片,機器會自動去學習分辨猫狗的不同屬性。這種方法通常需要大數據般的資料照片,才能學會。而半監督式學習,就是綜合以上兩種方式,人類還是要替這些照片,下一點標籤,例如那些照片是猫,那些是狗,再由機器自動去學習找出牠們不同的屬性。
.
註2: 深度學習Deep Learning 是機器學習的一種技術,它不需要人類對學習目標萃取特徵並歸類,你只要給它數據,它就可以自動萃取特徵並歸類,並預測結果。所以深度學習是目前AI的主流,簡稱ABC。A就是Aalgorithm, 透過模仿人腦的「類神經網路」的演算法,結合B (Big Data)大數據,並且需要搭配C (Computing)強而有力的運算硬體,例如GPU,才能體現。
.
https://www.inc.com/melanie-curtin/resumes-dont-help-you-hire-innovative-people-but-this-does-hint-teslas-doing-it.html
accenture innovation 在 國發會 Facebook 的最讚貼文
《創業甘苦談–蓋特資訊系統股份有限公司》
各位朋友好,小編這次特別請到通過國發基金創業天使計畫的「蓋特資訊系統股份有限公司」(以下簡稱「iDGate」)鄭慶章策略長,請他來聊聊創業經驗,以下是訪談內容:
小編:請用30秒的時間,讓大家認識一下蓋特「iDGate」。
iDGate:隨著銀行3.0數位化的過程,大眾越來越重視網路的交易安全,有鑑於駭客竊取使用者帳號密碼或個人資料,導致使用者帳號被入侵事件頻傳,iDGate研發的新式身分驗證技術,希望能創造一個安全、簡單、有效、易用的身分驗證機制,以保護網路上的交易安全。
小編:請您說說當初成立「iDGate」的創業動機?
iDGate: iDGate願景是希望能領先全球創新發明,成為在全球金融科技、網際網路、遊戲產業領域中,長期且值得信賴的安全認證服務提供者。目前我們取得多項各國專利,目標是將此機制推展至全世界。我們所提供的2FA鎖設備行動驗證,結合使用者每日行為,在行動裝置上提供強化的身分驗證能力,讓使用者在登入社群網站、執行銀行交易、線上付款,甚至休閒遊戲,都能獲得最佳的安全保護,同時維持簡單易懂的操作介面,不會因為提升安全性,導致使用者便利性降低而不願意使用。
你知道嗎?駭客攻擊、個人資訊外洩造成許多問題,金融業一年可能因此損失好幾十億元,這些都需要資訊安全防護。我們希望推播互動式安全驗證能普及到全世界,幫助大家上網時,個人資訊都能安全無虞。
小編:您認為「iDGate」與其他競爭對手最大的差異化是什麼?
iDGate:我們所推出的行動推播互動式安全驗證,目前已拿到至少7家以上的銀行專案 。iDGate不只考量創新的技術發展,更考量到實用化、成本因素。舉例來說,我們的產品使用BMW車的高規格,高品質,卻只需國產車的價格。
新創期間的資源非常有限,必須考量如何在最短的期間進入到全球市場上,例如:(1)借力使力,結盟海外戰略合作夥伴以進行全球佈局 (2)增加產品競爭力及附加價值 (3)對客戶的專業服務及合作上的高配合度等。核心技術都掌握在iDGate手中,一旦發生任何問題皆能直接並即時解決。其他團隊可能將產品研發後委由代理商經營,當有任何技術問題,代理商將無法完全滿足客戶需求。
小編:「iDGate」創業的過程是否曾遭遇困難?是怎麼克服的?
iDGate:創業過程中最困難的階段是創業初期,很幸運 iDGate 有股東全力支持,我覺得尋找對並且適合的創業夥伴很重要,通常好朋友可能不是最合適的合作夥伴。合作夥伴需要時間共事,對彼此思維及思想都有一定的了解,往後創業問題考驗著創業團隊是否能夠互相了解,共同面對問題渡過難關。我自己擔任過輔導單位的業師,看到很多新創團隊因為人的因素而失敗。
公司成長過程所找到的第一代員工最重要,公司早期還小且資源有限,儘管未來的路方向明確,卻有艱難的挑戰,必須思考如何讓員工認同你,而且願意陪你繼續勇闖。
小編:能否給其他創業團隊一些建議?
iDGate:每個人遇到的狀況都不一樣,我建議創新構想不只有具備流行性,也應該要具備多點實用性。對現在技術來說,設計一個APP起步並不困難,但若不具備實用性,可能很快就退流行。做軟體服務若沒人使用,該怎麼賺到錢?創業失敗比率很高,要想清楚創業資金來源,準備好了再出發。
創業一路走來,靠自己磨練得到的經驗,並將創新服務帶到市場。我想,「給團隊魚吃,不如給團隊一支釣竿教他如何釣魚」。
公司網址: www.id-gate.com
得獎紀錄:
◆2014 年新北市IDEAS SHOW 第一名
◆2014 年香港 Accenture Asia Pacific Fintech Innovation Lab
唯一入選的台灣團隊,獲選為全球八大金融科技創新方案
◆2014 年Meet Neo Star創業之星 網路組第一名、評審團三獎
參展紀錄:
◆2014 年新加坡 Echelon Entry port Asia 獲國際創投評選優勝
#國發會 #NDC #創業甘苦談 #蓋特資訊系統股份有限公司 #國發基金創業天使計畫 #創業經驗分享